จากความสำเร็จของ Mad Max: Fury Road (2015) มันก็ทำให้ผู้ชมทั่วโลกต่างเฝ้ารอที่จะได้เห็นหนังภาคต่อของ Mad Max ตามออกมาตอกย้ำความเดือด ระห่ำ บนถนนโลกันตร์สายนี้อีกครั้ง แต่ด้วยปัญหาด้านกฎหมายเรื่องการค้างจ่ายค่าจ้างกับทาง Warner Bros. ส่งผลให้โปรเจ็คนี้โดนทอดทิ้งมานานหลายปี จนกระทั่งล่าสุด จอร์จ มิลเลอร์ (George Miller) ได้ออกมาแย้มข่าวดีให้แฟน ๆ ได้ทราบว่าปัญหาต่าง ๆ กำลังจะคลี่คลาย และเขาก็กำลังเฝ้ารอที่จะก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับอนาคตของหนังภาคต่อ Mad Max ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย
"ทั้งหมดมันเริ่มขึ้นเพราะความยุ่งเหยิงของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส แล้วมันก็ไม่ใช่ เควิน สึจิฮาระ หรอกนะ ทั้งหมดมันเกิดขึ้นก่อนหน้านั้นซะอีก" มิลเลอร์ ให้สัมภาษณ์กับทาง Indiewire "เขาไม่ใช่ตัวร้ายหรอก เพราะคนจำนวนมากไม่รู้ว่าตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะแสดงจุดยืนที่เด็ดขาด ซึ่งตอนนั้นทุกคนต่างก็ตกอยู่ในความหวั่นวิตก มันดูเหมือนจะผ่านมาถึง 3 การปกครองได้มั้ง ตอนนั้นมันยากที่ทุกคนจะได้รับการเอาใจใส่ ดังนั้นเราก็เลยเลือกที่จะฟ้องร้อง ความยุ่งเหยิงมันเกิดเสถียรภาพ แล้วมันก็กลายเป็นเรื่องดีสุด ๆ เหมือนปัญหาทุกอย่างมันได้รับการคลี่คลายหลังจากการควบรวมของ AT&T"
ภาพจากหนัง Mad Max: Fury Road
ปัจจุบัน จอร์จ มิลเลอร์ กำลังมุ่งมั่นอยู่กับภาพยนตร์โรแมนติกแฟนตาซี Three Thousand Years of Longing ผลงานชิ้นต่อไปของเขาที่ได้ ไอดริส เอลบา (Idris Elba) และทิลด้า สวินตัน (Tilda Swinton) มาร่วมแสดงนำอยู่ แต่สาวก Mad Max อย่างเพิ่งวิตกไปเพราะมิลเลอร์ ปริปากบอกออกมาแล้วว่าเขามีไอเดียไว้สำหรับหนังภาคต่อของ Mad Max: Fury Road แล้ว "มันมีเรื่องราวอยู่ 2 เรื่อง ทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับ แมด แม็กซ์ แล้วก็เรื่องของฟูริโอซ่าด้วย เรายังคงแก้ไขกันอยู่ เราต้องเคลียเรื่องของวอร์เนอร์ให้เสร็จก่อน แต่ก็ค่อนข้างแน่ชัดแล้วนะว่ามันจะเกิดขึ้น"
ที่มา: Indiewire.com