The Current War เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์สมัยโลกของเรามีไฟฟ้าใช้เป็นครั้งแรก แต่ปัญหาคือมีสองยักษ์ใหญ่ผู้สร้างไฟฟ้าให้ประชาชนคือ โทมัส อัลวา เอดิสัน และจอร์จ เวสติงเฮาส์ ที่แก่งแย่งกันเป็นเจ้าแห่งกระแสไฟฟ้า สร้างสงครามหักล้างทฤษฎีระหว่างกระแสไฟฟ้าตรง และกระแสไฟฟ้าสลับกันนานหลายปี แต่ศึกตัดสินนั้นอยู่ที่เมืองชิคาโก เมืองแห่งแสงสีเสียงที่กำลังจะจัดงานเทศกาลใหญ่ สุดท้ายแล้วกระแสไฟฟ้าแบบไหนของใคร จะเป็นผู้ชนะในครั้งนี้.. 

ต้องบอกว่าดูในฐานะเด็กศิลป์ที่โง่เรื่องวิทย์-ฟิสิกส์ต่าง ๆ ก็เลยชอบหนังเรื่องนี้มากกกกกกกก เพราะเนื้อเรื่องหลักไปโฟกัสที่การแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันระหว่างเจ้าของไฟฟ้าสองขั้ว มากกว่ามานั่งเล่าว่ากระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นได้ยังไง ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังทุกคนคงนั่งอีหยังวะกันทั้งเรื่องแน่ ๆ เพราะจะมีแต่ศัพท์เฉพาะที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ยาก แต่เรื่องนี้เน้นเล่าเรื่องราวว่าโทมัส เอดิสัน มีวิธีซื้อใจให้นายทุนใช้กระแสไฟฟ้าตรงของเขาไฟยังไง แล้วจอร์จ เวสติงเฮาส์มีวิธีซื้อใจนายทุนให้สนใจธุรกิจกระแสไฟฟ้าสลับของเขาได้ยังไง ตลอดทั้งเรื่องเราจึงได้เห็นไหวพริบ และวิธีการเอาชนะทั้งในแบบของคนมีการศึกษา และแบบที่ไร้คุณธรรม-จริยธรรมมนุษย์อย่างถึงที่สุดเมื่อคนเราจนตรอก

ทั้งนี้ทั้งนั้นไฟฟ้าทั้งสองขั้วต่างมีข้อดีข้อเสียและยังไม่สมบูรณ์พร้อม 100% ด้วยข้อจำกัดต่าง ๆ นิโคลา เทสลา อัจฉริยะเจ้าของไอเดียล้ำเลิศ แต่โชคชะตาไม่เข้าข้าง จึงกลายมาเป็นตัวแปรสำคัญในหนังเรื่องนี้ เห็นด้วยที่เทสลามีซีนออกน้อยจนลืมไปเลยว่าเขาคือคนสำคัญที่ทำให้กระแสไฟฟ้าสลับเพอร์เฟกต์จนถึงทุกวันนี้ แต่ตัวหนังได้สะท้อนให้เราเห็นถึงความจริงทุกอย่างแล้วว่า “ชื่อเสียง” คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนเราสำเร็จในวงกว้าง ดูแล้วเข้าใจเลยว่าทำไมคนถึงจดจำชื่อโทมัส อัลวา เอดิสันได้แม่นยำกว่า แถมยังจำว่าเขาเป็นคนประดิษฐ์หลอดไฟคนแรกอีก ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วไม่ใช่ เขาเป็นเพียงคนคิดค้นวิธีผลิตหลอดไฟด้วยต้นทุนที่ต่ำ ราคาถูก แต่มีคุณภาพมากกว่าหลอดไฟที่เคยมีมาเท่านั้น ซึ่งแอบชื่นชมด้วยว่าหนังเน้นย้ำประเด็นนี้หลายครั้ง หลาย ๆ คนจะได้เลิกเข้าใจผิดสักที

ในส่วนของการแสดงได้ดาราตัวเป้ง ๆ ระดับเบเนดิคต์ คัมเบอร์แบ็ตช์ และไมเคิล แชนน่อนมาไม่ต้องสืบว่าเข้มข้นขนาดไหน แต่ที่เกินคาดคือน้องทอม ฮอลแลนด์ ที่บทมาน้อย ๆ แต่รับส่งซีนอารมณ์กับพี่เบนได้ดี แอบหลุดขำนิดหน่อยที่น้องต้องแปะหนวดทำเข้ม แต่ด้วยตัวบท ยุคสมัยก็ไม่ขัดตาขัดใจเท่าไหร่ ส่วนนิโคลัส ฮอลท์ในบทนิโคลา เทสลา ก็เป็นที่น่าจดจำ หน้าตาเหมาะกับได้ลุคผู้ดีตีนแดง รวยแต่เขือแต่มีมันสมองมาก เห็นด้วยนะว่าบทเทสลานี่อย่างกับตัวประกอบไม่เห็นต้องเอามาขายหน้าหนังยิ่งใหญ่ขนาดนั้น แต่ก็รับรู้ได้ว่าเขาคืออีกหนึ่งคนสำคัญในยุคกำเนิดไฟฟ้า และก็สอดคล้องกับความเป็นจริงด้วยว่า เขาคืออัจฉริยะผู้สร้างที่โลกลืม.. 

สรุปแล้ว The Current War เป็นภาพยนตร์กึ่งวิทยาศาสตร์-กึ่งชีวประวัติ ที่เข้าใจเล่าเรื่องราวออกมาได้ไม่น่าเบื่อ ไม่ง่วง คนทั่วไปเข้าใจได้ แต่ไม่แนะนำอย่างยิ่งสำหรับคนที่อ่านซับไม่เก่ง เพราะบางช่วงพูดเร็วมาก อาจพลาดบทสำคัญ ๆ ไปได้ ส่วนเด็กวิทย์อาจขัดใจนิดนึงว่าหนังเล่าไม่ลึกถึงแก่นวิทย์พอ เอาเป็นว่าใครชอบดูหนังดราม่าเข้มข้น ชอบดูหนังสงครามประสาทที่ตัวละครสองฝ่ายฟาดฟันกันแบบถึงพริกถึงขิงก็ไปดูกัน เข้าฉายแล้วจ้าวันนี้ เคาะคะแนนไว้ที่ 8/10