เวลาผ่านไปแปบ ๆ ไม่น่าเชื่อว่าภาพยนตร์ตำนานรักของผีไทยอย่าง นางนาก จะครบรอบ 20 ปีเข้าให้แล้ว ซึ่งนอกจากจะมีข่าวดีว่าภาพยนตร์จะมีการนำมาฉายใหม่แล้ว นักแสดงนำผู้รับบทแม่นาก อย่าง ทราย เจริญปุระ ยังออกมาเปิดเกร็ดเบื้องหลังมากมายที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนแฟน ๆ ไปรับชมภาพยนตร์กันอีกครั้ง ในวันที่ 25-31 กรกฎาคมนี้ด้วย
โดยเจ้าตัวแบ่งเล่าเป็น 4 หัวข้อใหญ่ ๆ ตั้งแต่เรื่องเบื้องหลังการเตรียมฉาก, วันวานการแคสติ้ง, เรื่องเล่าจากหน้ากอง และประสบการณ์ขนหัวลุกที่เกิดขึ้น บอกเลยว่าทั้งน่าตกใจ ทั้งน่าขนลุกทั้งนั้น
เรื่องเบื้องหลังการเตรียมฉากและอุปกรณ์
• ที่ทุกคนคิดว่าทาฟันดำ จริง ๆ แล้วคือสีแดงเข้ม เพราะทีมงานค้นคว้ามาว่า คนที่กินหมากไปนาน ๆ ต้องคอยขัดฟันให้เรียบ เพื่อให้ฟันจะเป็นสีแดงก่ำ ด้วยความเชื่อว่า (ในสมัยนั้น) ฟันขาวคือฟันหมาหรือฟันผี
• ตอนนั้นต้องไปหาหมอฟันเพื่อพิมพ์ฟัน หล่อออกมาด้วยพลาสติกบาง ๆ แล้วครอบฟันไปอีกที
• ปัญหาของครอบฟันนี้ คือจะกินอะไรแทบไม่ได้เลย มันจะแตก และเพราะความบางมาก ถ้าใส่ไปนานๆ มันจะดูดติดกับเหงือก เวลาจะถอดคือบีบให้แตกจากในปาก แล้วคายออกมา เรื่องนี้ใช้กันคนละหลายอัน
• หมากที่ใช้ในเรื่องมาจากดอกคำฝอยแห้ง เรากับพี่เมฆเคยลองกินหมากจริงแล้ว ยันหมากกันพินาศ เหงื่อแตกวิงเวียน เลยมาลงตัวที่ดอกคำฝอยแห้ง ซึ่งมีสรรพคุณการลดน้ำตาลในเลือด กองนี้เลยต้องคอยเสิร์ฟน้ำแดงให้เราสองคนเรื่อยๆ กันวูบ
• บ้านในหนังคือสร้างขึ้นมาจริง ๆ โดยทีมอาร์ต และเผาทิ้งจริงๆในฉากท้ายเรื่อง
• ศาลาท่าน้ำที่ยืนรอคือเซ็ทขึ้นมาที่คลองบางน้ำเปรี้ยว ฉะเชิงเทรา แต่ถ่ายเสร็จก็เอาไว้งั้นเลย
• ห้อยหัวจริง ในหอฉันโบราณที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันนี้รื้อไปแล้ว อุปสรรคในการถ่ายฉากนี้คือ วันถ่ายทำ เสาตกน้ำมันหนักมาก
• ตัวเงินตัวทองในเรื่องจริง ๆ เป็นมังสวิรัต แต่เราเอาน้องมาขืนใจให้กินเนื้อวัวให้ดูสมจริง น้องจึงพากันตายใส่ กว่าน้อนจะฝึกให้กินเนื้อได้ ก็ตายไปหลายตัว
• ฉากพี่เมฆอาบน้ำคลองและมีหนูลอยผ่าน คือทำการฆาตกรรมหนูจริง ลอยในน้ำจริง แต่หนูจม เลยทำการยัดโฟมในท้องหนูที่เพิ่งฆาตกรรมไป ให้หนูลอย
• จบเรื่องนี้ ทีมเซ็ตทุกคน รวมถึงพี่อุ๋ย บวชกันหมด
ภาคลี้ลับ วันวานการแคสติ้ง
• เรื่องนี้แคสนางนากกันมาเป็นปี จนพี่อุ๋ย (ผกก.) เซ็ง เลยบ่นว่า ’ย่าอยากได้แบบไหนก็บอกมาสิคร้าบบบบ’ (กองเราเรียกนางนากว่าย่า) ปรากฏคืนนั้นแกฝันว่ามีผู้หญิง นุ่งโจงเขียว ห่มสีกลีบบัวมาหา แต่ไม่มีหัว พี่อุ๋ยเลยกลับมาตั้งสติหาใหม่ โดยยึดหุ่นในฝันเป็นหลัก
• เราไปแคสช่วงท้าย ๆ แล้ว วันนึงเค้าแคสกันซัก 4-5 คน โดยใช้กล้องวิดีโอแฮนดี้แคมเล็ก ๆ ก่อนหน้าเราก็มีคนแคสไปแล้ว พอถึงตาเรา ก็เกิดจะฝนตกฟ้าร้องขึ้นมาพอดี ทีมเอาทรีทเมนต์ให้อ่าน ซึ่งพี่ศิษฐ์ ศาสนเที่ยง เขียนแบบภาษาโบราณ เป็นตอนนางนากรู้แล้ว ว่าผัวรู้ความจริงทั้งหมด ตอนนั้นฝนตก ลมพัด หมาหอน
• ปกติเสียงพวกนี้ไม่เข้าไมค์หัวกล้องนะ ด้วยคุณภาพกล้องยุคนั้น แต่นี่อัดติดหมด
• คนที่เราแคสต์คู่ด้วยคือพี่เมฆ ซึ่งก็อวยพรกันว่าขอให้ได้เล่นนะพี่นะ/นะน้องนะ
• วันรุ่งขึ้น ทีมงานเอาเทปแคสต์มาดู คนก่อนหน้าเราคือมีแต่ภาพ ไม่มีเสียง แล้วก็เป็นเรา มีภาพมีเสียงมาครบ คนหลังจากเรามีแต่เสียง ไม่มีภาพ
• พี่อุ๋ยรายงานย่าไปว่า เข้าใจแล้วครับ โอเคคนนี้เล่น
• ตอนแรกคนที่เราเล่นด้วยไม่ใช่พี่เมฆ ถ่ายไปนิดหน่อยแล้วพี่อุ๋ยรู้สึกว่าไม่ใช่ ก็เลยเรียกพี่เมฆกลับมา
• สุดท้ายคนที่แคสคู่กันก็ได้เล่นกันจริง ๆ ตามที่อวยพรกันเอง
เรื่องเล่าจากหน้ากอง
• เราเวิร์คชอปกันสามเดือน อาบแดด หัดเกี่ยวข้าว เจียนหมาก อาบน้ำคลอง พายเรือ ระหว่างนั้นก็รอให้บ้านที่สร้างไว้เก่าสมจริง
• ทุกคนโดนสั่งให้ถอดรองเท้าเดินเท้าเปล่ากับดิน ไม่งั้นถ้าอยู่ๆถอดรองเท้ามาเดินเลย จะดูแหยง ๆ เดินไม่เต็มเท้า และเรามีรอยขอบถุงเท้าเพราะใส่ผ้าใบ+รองเท้านักเรียนมาตลอดชีวิต ต้องเปลี่ยนมาใส่แตะไปไหนมาไหนแทน
• ฉากมัดตราสังคือมัดจริง ลงคาถาจริงทุกเปลาะ ทุกห่วง
• เสียงฮัมเพลงอันหลอนหูนั้น ไม่ใช่เสียงเรา เสียงเราร้องเฉพาะตอนเพลงกล่อมลูกในหนัง
• พี่เมฆทรมานกับฉากวิ่งฝ่าป่าหญ้าคามาก เพราะไม่มีใครเคลียร์ทางให้ก่อนได้เลย ไม่งั้นหญ้าจะล้ม ไม่สวย แกเลยต้องถอดเสื้อวิ่งฝ่าป่าหญ้าสูงท่วมหัวไปอย่างมืดมน
• ฉากที่เล่นด้วยกันและพี่เมฆหลายเทคมาก คือฉากที่ด่าเพื่อนให้เราฟัง ’ไอ้พวกปากบอนพรรค์นี้" แกจะติดเป็น "ปากบอล" ตามสำเนียง พอเกร็งมาก พูดชัด แอคติ้งก็ไม่ได้ พอแอคติ้งได้ ก็พูดไม่ชัด วนไปค่ะ
• ฉากโกนหนวดให้พี่เมฆ ฝ่ายอาร์ตลับมีดมาคมขาววับ แต่เราต้องโกนทั้งที่ไม่เห็น เพราะไม่งั้นมุมกล้องไม่ได้ พี่เมฆใจกล้า บอกโกนเลย ถ้ารู้สึกเปียก ๆ ก็หยุดละกัน
• ถ่ายป่าช้าจริง ชาวบ้านมาบอกว่าผีดุมาก แล้วไปรอฟังผลนอกกอง
• น้าหมอผีมีคัทเดียวแล้วตาย แต่ด้วยสปิริต แกเลยนอนตายเงยหน้า เลยต้องนอนคาฉากนั้นไปทั้งคืน ซึ่งฉากนั้นถ่ายกัน 4 คืน
• ฉากเผาบ้านคือเผาจริง แต่ไฟรอบแรกไม่สวย ซึ่งก็ได้อีกแค่รอบเดียวเพราะจากมุงหลังคากับไม้ไผ่ทำบ้านมันจะไปหมดแล้ว ทุกคนเลยเร่งไฟแก๊สและโถมกาวยางลงไปทุกอณู คราวนี้ไฟพุ่งถึงหลังเราเลย แต่เราเล่นเป็นผี ห้ามร้อง เลยกลั้นใจเล่นจนจบ พี่อุ๋ยก็ไม่สั่งคัทซักที จนฟิล์มรันเอาท์ เดินลงมา หน่วยดับเพลิงเอาเจลเย็นโปะหลังช่วยผีที่ประสบภัยทันที
• วันรุ่งขึ้นเป็นวันสงกรานต์ กองหยุด เราเข้าไปทำงาน โดนคนสาดน้ำใส่หลังอันพุพอง
• ทีมงาน 80% ของเรื่องนี้ตัดผมทรงเดียวกับเรา คือใช้ปัตตาเลี่ยนตั้งเบอร์ 3 แล้วไถถถถถถถถ
ดิ เอกซ์ไฟล์ ประสบการณ์ขนหัวลุก
• ความจากร่างติดต่อวิญญาณแจ้งมาว่า จริง ๆ แล้วไอ้แดงนี่เป็นเด็กผู้หญิง เวลาจะทำบุญให้ย่ากับน้อง จึงต้องเลือกของใช้เด็กผู้หญิง แต่ในเรื่องเรียกไอ้แดงให้ไม่ฝืนหูคนดู
• ย่าชอบสีชมพู กับ ข้าวหมาก
• ตอนไปไหว้ย่า บอกย่าว่าถ้าย่าต้องการอะไร อยากถ่ายทอดแบบไหน ให้ไปบอกพี่อุ๋ย พี่เค้าเป็นผู้กำกับ หนูเป็นดารา
• พี่อุ๋ยเลยฝันถึงย่าตลอด
• ทุกครั้งที่เราเข้ากอง หมาจะหอนรับเป็นทอด ๆ ทั้งคุ้งน้ำ จนทีมครัวสามารถเตรียมข้าวให้เรากินได้อย่างทันท่วงที
• ฉากส่วนใหญ่จะเป็นฉากกลางคืน และเราก็นอนตอนกลางวันกัน แต่มีวันนึงเราต้องกลับมาสอบ แม่ก็สตาร์ทรถไม่ติด น้ารถตู้มาช่วยจั๊มแบตให้ก็ไม่ติด แม่เลยหันมาถามว่า "บอกย่าหรือยัง" เราก็บอกว่ายัง เพราะเย็นนี้ก็มาแล้ว
• สุดท้ายเลยต้องจุดธูปบอก
• แน่นอนว่าไหว้แล้วก็สตาร์ทรถขับกลับได้ปกติ
• หนังเปิดตัวที่โรงอีจีวีปิ่นเกล้า (ในเวลานั้น) ทีมเซ็ตของฝ่ายโปรโมตก็ไปเซ็ตเป็นศาลาท่าน้ำ เผื่อให้แขกผู้มีเกียรติมาแอคท่ากันในวันรอบเพรส
• เซ็ตเสร็จ สวยมาก ถ่ายรูปไว้เช็กงาน
• เอารูปไปล้าง ในศาลาทุกรูปมีคนนั่งอยู่ ทั้งที่ตอนถ่ายไม่มี
• ทุกรายการที่เราไปอัดตอนนั้น จะมีปัญหาเรื่องเสียงเสมอ และเราก็จะต้องบอกทุกครั้ง ว่าไหว้ย่าสิคะ ไหว้เร็วก็ได้กลับมาทำงานกันเร็ว ซึ่งก็เป็นแบบนี้ทุกที
• ล่าสุด ในวาระที่หนังจะฉายในรอบ 20 ปี ก็โดนสัมภาษณ์อีก ก็บอกคนสัมภาษณ์ไปว่า ระวังเสียงมีปัญหานะ
• วันสัมภาษณ์ เครื่องอัดเสียงอัดไม่ติด
ที่มา : เฟซบุ๊ก Inthira Charoenpura