มิลลี่ บ็อบบี้ บราวน์ (Millie Bobby Brown) สาวน้อยวัย 15 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในวงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดปัจจุบันนี้ ด้วยความสำเร็จด้านการงานที่ได้มาตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้อาจทำให้หลาย ๆ คนคิดว่าชีวิตของสาวน้อยคนนี้คงโรยไปด้วยกลีบกุหลาบแน่ ๆ แต่ชีวิตจริงมันก็ไม่ได้สวยงาม เลิศหรูเหมือนในนิยายเสมอไป แม้เธอจะโด่งดังประสบความสำเร็จขนาดไหน แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้เธอถูกละเว้นจากการกระทำอันเลวร้ายของมนุษย์โลกบางกลุ่มไปได้เลย

บราวน์ เปิดใจถึงประสบการณ์อันเลวร้ายในรั้วโรงเรียนที่เธอต้องเผชิญผ่านนิตยสาร Glamour UK ให้ฟังว่าเธอถึงกับต้องย้ายโรงเรียนเพราะโดนกลั่นแกล้ง และมันก็เป็นเหตุให้เธอต้องต่อสู้กับความวิตกกังวลและปัญหาต่าง ๆ อีกมากมายในชีวิตเลยทีเดียว ปัจจุบัน บราวน์ ได้กลายมาเป็นทูต Unicef ที่อายุน้อยที่สุด และก็เป็นกระบอกเสียงสำคัญในการปลุกแคมเปญจ์ต่อต้านการกลั่นแกล้ง "ฉันถูกกลั่นแกล้งตอนเรียนอยู่ที่อังกฤษ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องสำคัญสุด ๆ สำหรับฉันเลยที่จะต้องออกมาพูดเพื่อต่อสู้กับการกลั่นแกล้งต่าง ๆ จริง ๆ แล้วฉันเคยต้องย้ายโรงเรียนเพราะถูกกลั่นแกล้งเลยด้วย มันก่อให้เกิดความวิตกกังวล และปัญหาต่าง ๆ มากมาย ซึ่งฉันยังต้องพยายามจัดการกับมันอยู่จนถึงทุกวันนี้"

นอกจากจะถูกกลั่นแกล้งในรั้วโรงเรียนแล้ว บราวน์ ก็เคยถูกคุกคามบนโลกไซเบอร์อีกด้วย ซึ่งเธอได้พูดถึงผลกระทบจากการกระทำดังกล่าวให้ฟังว่า "ฉันต้องพยายามจัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งในชีวิตจริง และโลกออนไลน์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ทำให้หัวใจแทบสลาย มันเจ็บปวดมากจริง ๆ ที่ต้องมานั่งอ่านบางสิ่งที่ใครบางคนพูดออกมา การที่มาอยู่ในวงการนี้เราต้องกลายเป็นคนที่ตระหนักรู้ถึงความคิดเห็นแย่ ๆ ให้มาก ๆ แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกขอบคุณต่อความรักที่ได้รับมากขึ้นด้วย หลาย ๆ คนได้รับความรักมากมายบนโลกโซเชียล แต่จากนั้นพวกเขาก็กลับไปโฟกัสแค่ความเกลียดชัง"

บราวน์ บอกว่าหนึ่งในเป้าหมายของการเป็นทูต Unicef ของเธอก็คือเพื่อต่อสู้กับความคิดเห็นแย่ ๆ บนโลกโซเชียลมีเดีย "คนหนุ่มสาวต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ความกดดันเพิ่มมากขึ้น อันดับแรกเลย ฉันต้องการที่จะมั่นใจว่าเด็ก ๆ จะได้รับการปกป้องจากความรุนแรงและการแสวงหาผลประโยชน์ แล้วฉันก็ยังต้องการที่จะต่อสู้กับความคิดเห็นแย่ ๆ บนโลกโซเชียลมีเดียอีกด้วย เพราะฉันเองก็เคยเผชิญกับมัน มันเหมือนกับภัยสังคม มันคือความเกลียดชังอันเลวร้ายที่ตามมาหลอกหลอนฉันตลอดเลยจริง ๆ การเปลี่ยนแปลงสภาพสังคมแบบนั้นมันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ ด้วย"

"สารของฉันมันมักจะออกมาเพื่อแพร่กระจายความรัก ความสดใส และความเป็นบวกอยู่เสมอ โลกสามารถที่จะเป็นสถานที่ที่น่ากลัวได้ในบางครั้ง แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญที่เรายังจะต้องมีความหวัง และเป็นคนที่มีเมตตาต่อผู้อื่นอยู่เสมอด้วย" บราวน์ สรุปปิดท้าย และสำหรับแฟน ๆ ที่กำลังรอติดตามผลงานของน้อง บราวน์ อยู่ เธอกำลังจะส่งผลงานเรื่อง Godzilla II: King of the Monsters ออกมาให้ชมกันวันที่ 30 พฤษภาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ ก่อนจะกลับมาอีกครั้งใน Godzilla vs. Kong กลางปีหน้า

ที่มา: Glamourmagazine.co.uk