แบรด พิตต์ (Brad Pitt) ผู้รับบทสตั้นท์แมน คลิฟฟ์ บูธ ประกบนักแสดงระดับออสการ์ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) ในภาพยนตร์เรื่อง Once Upon a Time in Hollywood ของผู้กำกับ เควนติน ทาแรนติโน่ (Quentin Tarantino) ได้เล่าถึงเหตุการณ์ชวนขนลุกในอดีตให้ฟังขณะให้สัมภาษณ์กับ Esquire ว่าเขาเคยมีโอกาสได้ไปร่วมปาร์ตี้กับ แบรนดอน ลี (Brandon Lee) ในค่ำคืนหนึ่งของปี 1992 แล้วในคืนนั้น แบรนดอน ก็บอกกับพิตต์ว่าเขากลัวว่าเขาอาจจะต้องตายตั้งแต่ยังหนุ่ม ๆ เหมือนกับ บรูซ ลี (Bruce Lee) พ่อของเขา
“เขาเคยขับรถบรรทุกศพ แล้วก็เคยใช้ชีวิตอยู่ที่เอคโค พาร์ค” พิตต์ หวนรำลึกถึง แบรนดอน “เราออกไปด้วยกันในค่ำคืนหนึ่ง แล้วคนอื่น ๆ ก็แยกกันไป จากนั้นเราก็จบลงด้วยการกลับไปที่พักของเขา ตอนนั้นมันน่าจะเป็นเวลาประมาณ 6 โมงเช้าเรื่องจริงคืออะไรคุณรู้มั้ย เราดื่มกันหนักมากเลยคืนนั้น แล้วในคืนนั้นเองเขาก็บอกกับผมว่าเขาคิดว่าเขากำลังจะตายตั้งแต่ยังหนุ่ม ๆ เหมือนกับพ่อของเขา และผมก็จดบันทึกมันเอาไว้ด้วย คุณรู้มั้ยนั่นมันคือการพูดคุยในช่วงเวลา 6 โมงเช้าที่น่าตกอกตกใจ แล้วในปีถัดมาเขาก็รับเล่นหนังเรื่อง The Crow”
ในที่สุด แบรนดอน ก็ถูกยิงเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอันน่าประหลาดที่เกิดขึ้นในกองถ่าย The Crow เมื่อปี 1993 ตอนนั้นเขามีอายุเพียง 28 ปีเท่านั้นเอง ขณะที่ บรูซ ลี พ่อของเขาเสียชีวิตไปเมื่อปี 1973 ในวัย 32 ปี ซี่งตัวละคร บรูซ ลี จะได้มาปรากฏตัวในภาพยนตร์เรื่อง Once Upon a Time in Hollywood ด้วย โดยได้ ไมค์ โมห์ (Mike Moh) มาสวมบทนี้
ด้าน ดิคาปริโอ ก็ได้เล่าให้ฟังเช่นกันว่าเขามีโอกาสได้พบกับ ริเวอร์ ฟีนิกซ์ (River Phoenix) ในคืนวันที่ ฟีนิกซ์ เสียชีวิต ดิคาปริโอ บอกว่าเขาเคารพนับถือ ฟีนิกซ์ มาโดยตลอด แต่ด้วยเส้นทางของพวกเขามันไม่เคยพาให้พวกเขาได้โคจรมาพบกันเลย จนกระทั่งช่วงเย็นของวันที่ 31 ตุลาคม 1993
“ทุกอย่างที่ผมต้องการก็คือการมีโอกาสได้จับมือกับเขา” ดิคาปริโอ เล่า “แล้วในค่ำคืนหนึ่งที่งานปาร์ตี้ในซิลเวอร์เลค ผมเห็นเขาเดินเข้ามาตรงบันได แล้วจากนั้นผู้คนก็เบียดเข้ามาตรงที่ผมอยู่ แล้วพอผมมองกลับไปอีกที เขาก็ไปแล้ว ผมเดินไปตรงบันไดทั้งขึ้นไปดูแล้วก็ลงมา ตอนนั้นผมคิดว่า ‘เขาไปไหนแล้วนะ?’”
ตอนนั้น ฟีนิกซ์ เดินไปที่ห้องของคนขายยาเสพติด แล้วเขาก็เสียชีวิตลงในวัยเพียง 23 ปี จากการเสพยาเกินขนาด “มันเกือบจะเหมือนว่า... ผมไม่รู้จะอธิบายมันออกมายังไงดี แต่เรื่องนี้มันยังเป็นเรื่องที่ผมยังคงรู้สึกถึงมันได้อยู่... เขาหายไปจากสายตาของผม แล้วจากนั้นก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น ผมต้องสูญเสียคนที่มีอิทธิพลต่อผมมาก ๆ คนหนึ่งไป รวมถึงเพื่อน ๆ ของผมทุกคนเลยด้วย นักแสดงที่เราทุกคนต่างพูดถึง เพื่อที่จะยอมรับต่อเรื่องนั้นตลอดมาผมอยากจะแค่ได้จดจำว่าผมได้ยื่นมือออกไป แต่จากนั้นคน 2 คนก็เข้ามาข้างหน้า แล้วพอผมมองกลับไปอีกที เขาก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว”
Once Upon A Time In Hollywood - กาลครั้งหนึ่งในฮอลลีวู้ด พร้อมฉาย 12 กันยายนนี้