หลังจากปล่อยตัวอย่างแรกจากภาพยนตร์ It: Chapter Two ออกมาให้ชมกันไปหมาด ๆ นักเขียน แกรี่ ดาวเบอร์แมน ก็ออกมาคอนเฟิร์มผ่านบทสัมภาษณ์กับสื่อ The Hollywood Reporter ว่าหนึ่งในช่วงเวลาที่โหดร้ายและเศร้าที่สุดจากนิยายอันโด่งดังของ สตีเฟ่น คิง เมื่อปี 1986 จะเป็นส่วนหนึ่งในหนังภาคนี้อย่างแน่นอน ซึ่งฉากที่ว่านั่นก็คือเหตุอาชญากรรมอันน่าเศร้าสลดที่เกี่ยวข้องกับหนุ่มเกย์คนหนึ่ง
"มันคือฉากที่เป็นไอค่อนฉากหนึ่งจากหนังสือ และมันก็เป็นหนึ่งในฉากที่เราต้องการจะเอามาใส่ไว้ในหนังเรื่องนี้ด้วย" ดาวเบอร์แมน พูดถึงฉากที่เกี่ยวกับการทารุณตัวละคร เอเดรียน เมลลอน ผู้ที่ภายหลังถูกฆาตกรรมโดย เพนนี่ไวซ์ ซึ่งในหนังได้นักแสดงหนุ่ม ซาเวียร์ โดลอง มารับบทนี้
"มันคือการโจมตีครั้งแรกในช่วงเวลาปัจจุบันของเมืองเดอร์รี่ และมันก็เป็นจุดที่ทำให้เมืองเดอร์รี่ต้องเปลี่ยนไปอย่างที่มันเป็น" ดาวเบอร์แมน อธิบาย "มันคืออิทธิพลที่มาจาก เพนนี่ไวซ์ แม้ว่าเขาจะหลบไปกบดานอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับ เอเดรียน มันคือความชั่วร้ายขั้นสุด การกลั่นแกล้งเหล่านี้มันดำเนินไปจนกระทั่ง เพนนี่ไวซ์ ผู้เป็นตัวการสำคัญของเราปรากฏตัวออกมา"
ตัวอย่างแรกที่ปล่อยออกมามันมีความยาวเกือบ 3 นาที และมันเริ่มต้นด้วยช่วงเวลาแห่งความทรงจำอีกหนึ่งช่วงเวลาจากนิยายของ คิง ซึ่งมันก็คือฉาก มิสซิส เคิร์ช ที่ซึ่ง "เบเวอร์ลี่ มาร์ช" (รับบทโดย เจสสิก้า แชสเทน) ได้กลับมาเยือนบ้านที่เธอเคยอาศัยอยู่ตอนเด็กในเมืองเดอร์รี่เพื่อหวังว่าจะได้เจอกับพ่อของเธอ แต่เธอกลับได้มาพบกับแม่มดร้ายแทน
ดาวเบอร์แมน ขอยกความดีความชอบสำหรับอารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในฉากนั้นให้ผู้กำกับ แอนดี้ มุสชิเอตติ "ความตึงเครียดทั้งหมดที่คุณได้เห็นในจุดนั้น สำหรับผมนั่นมันมาจากฝีมือของ มุสชิเอตติ ทั้งหมดเลยนะ เขาสร้างช่วงเวลานั้นออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากมายกับมันเลยล่ะ มันคือสกิลการทำหนังชั้นครูเลย"
และเช่นเดียวกับในหนังสือ ดาวเบอร์แมน คอนเฟิร์มว่า เบเวอร์ลี่ ตอนโตจะต้องตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในท้องถิ่น ซึ่งมันแอบบอกเป็นนัย ๆ ไว้ในตัวอย่างผ่านรอยฟกช้ำบนแขนของ เบเวอร์ลี่ แล้ว ด้านหนูน้อย โซเฟีย ลิลลิส ก็จะกลับมารับบทเป็น เบเวอร์ลี่ สมัยวัยรุ่นในหนังภาคนี้ด้วย
ดาวเบอร์แมน ร่างบทหนัง IT 2 เสร็จก่อนที่จะเริ่มแคสติ้งนักแสดง แต่เขาเผยว่า บิลล์ เฮเดอร์ คือตัวเลือกอันดับแรกในใจที่เขาอยากได้มารับบท "ริชชี่ โทซิเออร์" ส่วนหนุ่มน้อย ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด ก็จะกลับมาสวมบทนี้ตอนเป็นวัยรุ่นเช่นกัน และหลังจากที่ เฮเดอร์ ยอมตกลงปลงใจมารับบทนี้ ดาวเบอร์แมน ก็ได้ระดมเสบียงมุขตลกเอามาเตรียมไว้ให้เขา "ผมสามารถอัดมุขตลกลงมาไว้บนสคริปท์ได้อย่างแน่นเอี๊ยด และผมก็หวังว่าเมล็ดพันธุ์พวกนั้นมันจะผลิดอกออกผลในหัวของเขาด้วย" แต่อย่างไรก็ตามหนึ่งในมุขที่เป็นส่วนสำคัญในหนังเรื่องนี้ มันจะไม่ได้นำเสนอออกมาโดย เฮเดอร์ "เขาสร้างความประทับใจ อัล ปาชิโน ไว้อย่างยอดเยี่ยม และผมก็เขียนสิ่งนั้นลงไปในสคริปท์ด้วย แต่เขาบอกว่า 'ผมทำมันไปแล้วใน Saturday Night Live ผมไม่อยากจะทำแบบนั้นแล้ว'"
ดาวเบอร์แมน ไม่ต้องการให้รายละเอียดอะไรมากมายเกี่ยวกับบทบาทของเด็ก ๆ แก๊งค์ขี้แพ้ที่จะกลับมาในหนังภาคนี้ แต่เขาได้พูดถึงแก๊งค์หนุ่มสาวขี้แพ้ไว้ว่า "แฟน ๆ ของหนังภาคแรกจะต้องแฮ๊ปปี้ พวกเขาจะแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนในหนังภาคนี้" และในส่วนของความสยองพองขนที่จะเกิดขึ้น ดาวเบอร์แมน บอกว่า "หนังภาค 2 จะโชกเลือดกว่าภาคแรกอย่างเห็นได้ชัด มันก็แค่เรื่องของความสยดสยอง ถ้ามันไม่สยองกว่าเดิมอะนะ หนังทั้ง 2 เรื่องมันจะสรุปความโดยสมบูรณ์ นี่มันจะให้ความรู้สึกเหมือนการก้าวไปข้างหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ และมันก็เป็นการขยายความของหนังภาคแรกด้วย"
แม้หนัง It ภาคแรกจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในส่วนของเสียงวิพากย์วิจารณ์และยอดรายได้ แต่ ดาวเบอร์แมน ยอมรับว่าเขายังไม่บรรลุไปถึงจุดที่ทำให้ คิง ประทับใจ ถึงแม้ว่าเขาจะได้รับคำชื่นชมจากนักเขียนเจ้าของผลงานชิ้นนี้แล้วก็ตาม "ผมส่งเมลล์บทร่างไปให้เขามากมายก่ายกองเลย ผมต้องการทำมันออกมาให้ดีที่สุด แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผมอยากจะสื่อออกไป ซึ่งมันฟังดูซ้ำซากจำเจมาก ผมอยากจะบรรลุความพึงพอใจของเขา แต่ผมก็กลัวการถูกปฏิเสธ ผมไม่ได้อยากจะส่งอีเมลล์ แล้วไม่ได้รับฟีตแบคใด ๆ กลับมา มันรู้สึกเหมือน 'โอ้ ชิบหายละ'"
It: Chapter Two พร้อมฉาย 5 กันยายนนี้ในโรงภาพยนตร์
ที่มา: Hollywoodreporter.com