ข่าว > ข่าวสัพเพเหระทั้งหมด > Webmaster Talk

ชี้จุดไข่อีสเตอร์ “Avengers: Endgame” ตัวละครลับคือใคร เชื่อมอดีตตรงไหน เกี่ยวกับคอมมิคยังไงบ้าง?

3 พ.ค. 2562 11:59 น. | เปิดอ่าน 1547 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

ปิดฉากไปอย่างยิ่งใหญ่แล้ว สำหรับ Avengers: Endgame - อเวนเจอร์ส: เผด็จศึก ที่ปิดฉากสงครามหินอินฟินิตี้กับมหาไททันธานอสได้อย่างสวยงามสมการรอคอย ซึ่งนอกจากจะเต็มไปด้วยฉากซึ้งกินใจและฉากมันส์ระเบิดแล้ว หนังยังมีไข่อีสเตอร์ที่เชื่อมโยงกับคอมมิคและหนังเรื่องอื่น มีตัวละครลับมาเซอร์ไพรส์ รวมถึงเป็นคำใบ้ชี้อนาคตของจักรวาลมาร์เวลอีกด้วย ว่าแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีไข่อีสเตอร์อะไรที่น่าสนใจบ้าง!

 

*คำเตือน: เนื้อหาหลังจากนี้เต็มไปด้วยสปอยล์*

 

ย้อนวันวานไปกับตำนานซูเปอร์ฮีโร่ไอรอนแมน

- “หลักฐานว่าโทนี่ สตาร์คมีหัวใจ”: ปฏิกรณ์อาร์คชิ้นแรกที่โทนี่ สตาร์คสร้างไว้เป็นแหล่งปะจุพลังงานของตัวเองคือ Arc Reactor MK1 ใน Iron Man 1 ซึ่งเปปเปอร์ พอตต์นำมาสลักคำพูดกินใจ “หลักฐานว่าโทนี่ สตาร์คมีหัวใจ (Proof that Tony Stark has a heart)” เป็นของขวัญที่ระลึกน่ารัก ๆ มอบให้แก่เขาที่รอดชีวิตมาได้

 

- ชีสเบอร์เกอร์: “พ่อของหนูก็ชอบชีสเบอร์เกอร์เหมือนกัน” นั่นคือคำตอบของแฮปปี้แก่มอร์แกนหลังจากได้ยินว่าเธออยากกินชีสเบอร์เกอร์ ชวนนึกถึงฉากใน Iron Man 1 หลังจากโทนี่กลับมายังอเมริกา อาหารที่เขาอยากกินและนึกถึงเป็นอย่างแรกก็คือ “ชีสเบอร์เกอร์” และคนที่ไปหามาให้ก็คือแฮปปี้นั่นเอง

 

- เกราะเหล็กทั่วโลก: ในฉากมีปากเสียงกับสตีฟ โรเจอร์สหลังจากรอดชีวิตจากอวกาศ โทนี่พูดถึงโครงการสร้างเกาะเหล็กดูแลความเรียบร้อยทั่วโลก ที่เขาพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นใน Avengers: Age of Ultron โดยใช้พลังงานจากมายด์ สโตนแต่ล้มเลิกไปเพราะไม่มีใครเห็นด้วย จึงหันไปสร้างหุ่นอัลตรอนขึ้นมาแทน

 

- “ฉันคือไอรอนแมน”: ประโยคสุดท้ายที่โทนี่ สตาร์คพูดปิดฉาก Iron Man 1 ก่อนเครดิตท้ายเรื่องจะขึ้นตามทันที หลังจากนั้นก็กลายเป็นประโยคคลาสสิกที่ติดอยู่ในใจของแฟน ๆ ทั่วโลก แต่ตอนนี้คงกลายเป็นประโยคน่าสะเทือนใจมากที่สุดไปแล้ว..

 

“มอร์แกน สตาร์ค” จากศัตรูในคอมมิคสู่ชื่อของลูกสาวสุดที่รักในภาพยนตร์

ย้อนกลับไปใน Avemgers: Infinity War ฉากแรกที่โทนี่ สตาร์คขอหมั้นกับเปปเปอร์ พอตต์กลางสวนสาธารณะ เขาฝันว่าพวกเขามีลูกด้วยกันชื่อว่า “มอร์แกน” ตามชื่อคุณลุงของพอตต์ หลายปีถัดมาพวกเขามีลูกสาวด้วยกันจึงตั้งชื่อว่ามอร์แกนตามที่คุยกันไว้ แต่รู้หรือไม่ว่าในฉบับคอมมิค “มอร์แกน สตาร์ค” คือตัวละครที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของโทนี่ แถมยังเป็นตัวร้ายที่จ้องจะยึดธุรกิจสตาร์ค อินดัสทรี้มาเป็นของตัวเอง ทั้งติดพนันเป็นหนี้สิน เลวร้ายถึงขั้นสร้างหุ่น อัลติโม่ มาทำสงครามปะทะกับหุ่นไอรอนแมนโดยเฉพาะ มอร์แกน สตาร์ค ปรากฏตัวครั้งแรกในคอมมิค Tales of Suspense ตีพิมพ์ในปี 1965

 

ฮอว์คอายภายใต้หน้ากาก “โรนิน”

ในฉบับคอมมิค คลินท์ บาร์ตัน เสียชีวิตหลังจบสงคราม Civil War หนึ่งในสมาชิกทีมอเวนเจอร์สรุ่นใหม่เคท บิชอป (Kate Bishop) จึงนำชื่อ ‘ฮอว์คอาย’ มาเป็นนามฮีโร่เพื่อให้เกียรติ แต่หลังจากอีเว้นท์ House of M ที่สการ์เล็ตวิชท์ใช้พลังทำให้มิวแทนท์ครองโลกจนเกิดวิกฤติใหญ่ แล้วใช้พลังเรียกคืนจักรวาลและผู้สูญเสียด้วยความสำนึกผิด คลินท์จึงฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งจากพลังครั้งนั้น เมื่อกลับมายังหน่วยชีลด์คลินท์ได้ทำภารกิจช่วยเหลือ เอคโค่ (Echo) นินจาสาวหูหนวกหนึ่งในสมาชิกทีมนิว อเวนเจอร์ส จากนินจาวายร้ายยอดฝีมือในประเทษญี่ปุ่น ยามิ โนะ เตะ (Yami No Te) หรือเดอะ แฮนด์ (The Hand) เขานำชุด “โรนิน” ที่เอคโค่เคยใช้มาใส่ในการทำภารกิจ หลังจากภารกิจเสร็จสิ้น เอคโค่ มอบชุดโรนินให้กับคลินท์เพื่อใช้พรางตัว เพราะเขายังไม่พร้อมเปิดเผยความจริงว่าเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้คลินท์จึงกลายเป็น 'โรนิน' ต่อสู้เคียงข้างฮอว์คอายคนใหม่ต่อไป

 

ส่วนใน Avengers: Endgame ดูเหมือนว่าช่วงเวลาการเป็นโรนินของคลินท์จะไม่เด่นชัดเท่าไรนัก โดยมีการพูดถึงเพียงว่าเขาตัดสินใจทำตัวเป็นฮีโร่ศาลเตี้ย ไล่ฆ่าล้างบางพวกคนชั่วเพราะอยากปกป้องผู้บริสุทธิ์ที่เหลืออยู่น้อยกว่าครึ่งจักรวาล และเหมือนเป็นการลบล้างความผิดในใจที่รู้สึกว่าตัวเองปกป้องหรือทำอะไรให้ครอบครัวไม่ได้เลย จนกระทั่งนาตาชาชวนกลับไปร่วมทีมอเวนเจอร์สเพื่อเปลี่ยนประวัติศาสตร์ที่ธานอสสร้างไว้ แต่คาดว่าเราอาจได้เห็นมาดโรนินของคลินท์อีกในซีรีส์เดี่ยว Hawkeye ที่มีกำหนดสร้างฉายในช่องสตรีมมิ่ง Disney+ 

 

ฟอลคอนรับช่วงต่อกัปตัน อเมริกา บัคกี้รับหน้าที่เป็นไวท์วูล์ฟ

ตรงตามฉบับคอมมิคเป๊ะไม่มีพลิกโผว่า แซม วิลสัน หรือ ฟอลคอน จะได้รับหน้าที่เป็นกัปตัน อเมริกาคนต่อไป จะไม่เหมือนก็ตรงที่ในฉบับคอมมิคมีช่วงที่สตีฟ โรเจอร์สเสียชีวิต แล้วได้เพื่อนรักบัคกี้ บาร์นสมาดูแลรักษาการณ์ตำแหน่งฮีโร่แห่งชาติแทน แต่ก็สมเหตุสมผลแล้วเพราะในจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล MCU บัคกี้ บาร์นส ได้รับฉายาเป็น ‘ไวท์วูล์ฟ (White Wolf)’ โดยกษัตริย์ทีชัลล่าขณะพักรักษาตัวอยู่ในวากานด้า (อ้างอิงจาก Avengers: Infinity War) ซึ่งหลังจากนี้เราอาจได้เห็นบัคกี้ในบทบาทนักรบฝีมือดี ที่ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับกองทัพวากานด้าในภาคต่อ Black Panther 2 เพื่อตอบแทนบุญคุณที ชัลล่า ผู้ช่วยเหลือให้ที่พักพิง ให้การดูแลรักษา รวมถึงสร้างแขนไบรเวเนี่ยมโฉมใหม่ให้

 

“Hail Hydra!” ประโยคเด็ดของกัปตัน อเมริกากับความหมายที่แตกต่างในคอมมิค

เป็นฉากที่ทำเอาทุกคนเฮกันลั่นโรงเลยทีเดียว เมื่อกัปตัน อเมริกาแอบแฝงตัวเพื่อชิงคทาชิทอรีจากครอสโบนส์ ซึ่งเป็นฉากชวนระลึกถึงฉากในลิฟต์สุดโด่งดังจาก Captain America: The Winter Soldier แต่คราวนี้กลับไม่มีการต่อสู้เกิดขึ้นและเจรจาด้วยกันไปได้ดีเพียงแค่พูดว่า “Hail Hydra” ก็ทำให้หนอนบ่อนไส้แก๊งไฮดร้าทั้งหลายเชื่อสนิทใจแล้วว่ากัปตัน อเมริกาคือกบฏพวกเดียวกัน

 

แต่รู้ไหมว่าในคอมมิค Captain America: Steve Rogers #1 เขียนโดย จีซัส เซส และโจ คาราแม็กน่า กัปตัน อเมริกาเคยร่วมเป็นสมาชิกไฮดร้าตัวจริงเสียงจริง ซึึ่่งเป็นคอมมิคฉบับที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก แต่ภายพลังมีการเฉลยว่านั่นเป็นเพราะสตีฟ โรเจอร์สถูกล้างสมองโดยเรด สกรัลล์ ที่ใช้พลังของคอสมิค คิวบ์ (ชื่อเรียกลูกบาศก์เทสเซอแรคในคอมมิค) แทรกความทรงจำของกลุ่มไฮดร้าเข้าไป

 

ตัวละครในวันวานกลับมาโลดแล่นบนจออีกครั้ง

- ฮาวเวิร์ด สตาร์ควัยหนุ่ม: พ่อแท้ ๆ ของโทนี่ สตาร์คมาในฉากที่โทนี่กำลังขโมยเทสเซอแรคจากแล็ป ซึ่งฮาวเวิร์ดเล่าให้ฟังว่าภรรยาของเขากำลังตั้งท้องและเขากังวลมากว่าจะเลี้ยงลูกไม่ดี โทนี่ผู้เป็นลูกจึงตอบกลับไปว่าฮาวเวิร์ดทำดีที่สุดแล้วและขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเลยก็ว่าได้ ที่โทนี่ได้พูดขอบคุณผู้เป็นพ่อจากใจจริงตามที่แม่ของเขาเคยขอเอาไว้

 

- แฮงก์ พิมพ์วัยหนุ่ม: มาพร้อมหมวกเหล็กของแอนท์แมนรุ่นแรก ในห้องแล็บที่สตีฟ โรเจอร์สตั้งใจเข้าไปขโมยอนุภาคพิมพ์สำหรับเดินทางในมิติควอนตัม ซึ่งรูปแบบของหมวกเหล็กนั้นอิงมาจากชุดของแฮงก์ พิมพ์ในฉบับคอมมิคเป๊ะ ๆ 

 

- จาร์วิสตัวจริงเสียงจริง: เผยเป็นครั้งแรกว่า “จาร์วิส” ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะของโทนี่ สตาร์คนั้นตั้งมาจากชื่อของพ่อบ้านประจำตระกูลสตาร์ค และได้ปรากฏตัวให้เห็นชัด ๆ เป็นครั้งแรกในฉากที่เปิดประตูให้ฮาวเวิร์ดขึ้นรถ ในคอมมิคมีชื่อเต็มว่า เอ็ดเวิร์ด จาร์วิส ที่อดีตเป็นพลรบนักบินฝีมือดีมาก่อนจนสงครามสิ้นสุดจึงผันตัวออกมาเป็นพ่อบ้านให้กับตระกูลสตาร์ค 

 

- เจน ฟอสเตอร์:  ฮือฮายิ่งกว่าใครก็คือการกลับมาของนาตาลี พอร์ทแมนนักแสดงสาวรุ่นเก๋าที่มีข่าวว่ามีปัญหากับทางมาร์เวลตั้งแต่รับบท เจน ฟอสเตอร์ ใน Thor ซึ่งน่ายินดีที่นาตาลี ได้ปรากฏตัวให้แฟน ๆ เห็นอีกครั้งพร้อมร่วมงานพรีเมียร์เปิดตัวหนังอีกด้วย แม้จะไม่กี่นาทีแต่ก็ถือเป็นตัวละครสำคัญที่ทำให้ทีมอเวนเจอร์ได้หินเรียลลิตี้ไปครอง

 

- ดิ เอนเชี่ยนวัน: ปรมาจารย์จอมเวทย์ที่ส่งต่อตำแหน่งผู้รักษาไทม์ สโตน หรือดวงตาแห่งอากามอตโต้ให้กับดร.สเตรนจ์แล้วสลายหายไปได้กลับมาอีกครั้ง ในฉากสู้ศึกชิทอรีถล่มโลกซึ่งฮัล์คได้ไปขอหินไทม์กับเธอเพื่อนำมาปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง

 

จำได้ไหม.. เด็กหนุ่มในงานศพโทนี่ สตาร์คคือใคร?

ในฉากงานศพของโทนี่ สตาร์คแม้จะเจ็บปวดหัวใจแค่ไหน แต่เชื่อเลยว่าต้องมีหลายคนสงสัยอย่างแน่นอนว่าเด็กหนุ่มร่างสูงที่มายืนร่วมงาน ก่อนกล้องจะแพลนไปหากัปตัน มาร์เวลคือใคร? และต้องเซอร์ไพรส์มากแน่ถ้าเราบอกว่าเด็กหนุ่มคนนี้คือ ฮาร์ลีย์ คีเนอร์ (Harley Keener) เด็กน้อยอัจฉริยะจาก Iron Man 3 ที่เข้าฉายเมื่อปี 2013 รับบทโดยหนุ่มน้อย ไท ซิมพ์กินส์ (Ty Simskins) ที่ยังคงกลับมารับบทร่วมในจักรวาลมาร์เวลปัจจุบัน 

 

สำหรับใครที่ติดตามจักรวาลมาร์เวลมาตั้งแต่ต้น จะสังเกตุได้ว่า ไท ซิมพ์กินส์ นั้นเดินทางไปร่วมงานพรีเมียร์ของภาพยนตร์มาร์เวลแทบจะทุกเรื่อง ซึ่งน่าสนใจมากว่าตัวละครนี้อาจเป็นตัวละครสำคัญในอนาคต อ้างอิงจากฉบับคอมมิค ฮาร์ลีย์ คีเนอร์ อัจฉริยะขนาดสร้างชุดหุ่นเหล็กไอรอนแมนด้วยตัวเองได้ ชื่อว่าชุดไอรอน แลด (Iron Lad) และได้เข้าร่วมต่อสู้กับทีมอเวนเจอร์รุ่นบุกเบิก ก่อนกลายเป็นผู้นำทีม Young Avengers นอกจากนี้ฮาร์ลีย์ยังคบหาดูใจกับ แคสแซนดรา แลงก์ คือ แคสซี่ ลูกสาวแอนท์แมน สก็อตต์ แลงก์อีกด้วย 

 

กำเนิดทีมอเวนเจอร์รุ่นใหม่ “Young Avengers”

นอกจากฮาร์ลีย์ คีเนอร์แล้ว ในภาคนี้เรายังได้เห็นทายาทของเหล่าฮีโร่มากหน้าหลายตา ซึ่งมีแววว่าจะได้สืบทอดชื่อของทีมอเวนเจอร์ในอนาคต หลัก ๆ เลยก็มี

- แคสซานดร้า แลงก์ หรือ แคสซี่ ลูกสาวของสก็อตต์ แลงก์ ในฉบับคอมมิคเติบโตไปเป็นซูเปอร์ฮีโร่ สเตเจอร์ (Stature)

- ลิลา บาร์ตัน อาจกลายเป็น เคท บิชอป ตัวละครนักธนูสาวมากฝีมือจากคอมมิค ที่ร่วมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับคลินท์ บาร์ตัน มีลุ้นว่าเรื่องราวของเธออาจมีการพูดถึงในซีรีส์เดี่ยว Hawkeye ในอนาคต

พวกเขาเหล่านี้อาจได้ฟอร์มทีมฮีโร่คลื่นลูกใหม่ตามที่โทนี่ สตาร์คพูดไว้ ร่วมกับกัปตันมาร์เวลและชางชี ฮีโร่เอเชียคนแรกของจักรวาลมาร์เวล ที่รวมอยู่ในแผนสร้างจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวลเฟส 4 

 

คุณปู่สแตน ลีเรื่องนี้ไม่มีพลาด

เป็นการร่วมเข้าฉากถ่ายทำครั้งสุดท้ายของ คุณปู่สแตน ลี ตำนานแห่งจักรวาลมาร์เวล ก่อนจากโลกนี้ไปในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2018 ซึ่งเป็นการปรากฏตัวที่โดดเด่นและน่าจดจำอีกเช่นเคย ในฉากที่กัปตัน มาร์เวลและไอรอนแมว ย้อนเวลากลับไปในค่ายทหารลีไฮจ์ (Camp LeHigh) ช่วงปี 1970 โดยมีคุณปู่สแตนลีขับรถแล้วตะโกนว่า “สร้างรัก ไม่ใช่สงคราม!” พร้อมอวดสติ้กเกอร์ “Nuff Said!” ซึ่งเป็นประโยคติดปากของเจ้าตัว

 

แม้ว่าตำนานผู้สร้างมาร์เวลจะจบชีวิตลงไปแล้ว แต่ประธานค่ายคนปัจจุบัน เควิน ฟีจ ได้ยืนยันแล้วว่าคุณปู่สแตนลี จะยังคงปรากฏตัวในภาพยนตร์มาร์เวลต่อไปโดยอาจใช้เทคนิคตัดต่อร่วมด้วย เพราะฉะนั้นเตรียมรอเล่นเกมจับผิดใน Spider-Man: Far From Home กันได้เลย

 

เหล่าตัวละครลับร่วมแจมจักรวาล

- โจ รุสโซ่: ผู้กำกับผู้อยู่เบื้องหลังภาพยนตร์แห่งจักรวาลมาร์เวลมาหลายต่อหลายเรื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแจมใน Captain America: Winter Soldier กับบทหมอผ่าตัดของนิค ฟิวรี่มาแล้ว แต่ใน Avengers: Endgame เจ้าตัวได้ซีนเยอะมากขึ้นมาหน่อย กับบทชายผู้พูดระบายเรื่องทุกข์ใจในกลุ่มบำบัดร่วมโดยกัปตัน อเมริกา ซึ่งอาจเป็นบทบาทเดียวกับหมอผ่าตัดในภาคก่อนนี้ก็เป็นได้

 

- เอวา รุสโซ่: ลูกสาวคนสวยของ โจ รุสโซ่ มาร่วมแจมในบทลิลา บาร์ตัน ลูกสาวของคลินท์ บาร์ตันตอนโต ซึ่งฝึกยิงธนูอยู่กับพ่อที่รักและมีแววว่าจะกลายเป็นตัวละครสำคัญในกลุ่มอเวนเจอร์รุ่นใหม่ในอนาคต

 

- จิม สตาร์ลิน: ในฉากกลุ่มบำบัดเดียวกัน ยังมีอีกหนึ่งเบื้องหลังคนสำคัญเลยก็คือ จิม สตาร์ลิน ผู้วาดคอมมิคสงครามอินฟินิตี้ชื่อว่า Infinity Gauntlet ฉบับตีพิมพ์ปี 1992 ว่าง่าย ๆ เขาคือชายผู้สร้างมหาไททันธานอส วายร้ายที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลมาร์เวล ที่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล MCU นำมาใช้อ้างอิงสร้างต่ออย่างที่เราได้ชมกันนั่นเอง

 

- ฮิโรยูกิ ซานาดะ: นักแสดงชาวญี่ปุ่นจากซีรีส์ดัง Westworld มาร่วมแจมในบท อะกิฮิโกะ ยากูซ่าตัวร้ายที่ถูกฮอว์คอายสังหารที่ญี่ปุ่น ในฉบับคอมมิค อะกิฮิโกะ คือสมาชิกกลุ่มยากูซ่าขาใหญ่ชื่อว่า Shogun Reapers นำโดยหัวหน้าตัวหลัด แดนนี่ เฟียร์

 

เคน จอง: ก่อนหน้านี้มีข่าวแว่วว่าหนุ่มอารมณ์ดี เคน จอง จะมาแจมจักรวาลด้วยเล็กน้อย โดยเป็นบทที่ถ่ายทำเพิ่มเติมทีหลังจากปิดกล้องภาพยนตร์อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งหลายคนอาจไม่สังเกตหรือไม่คุ้นหน้าเขาเท่าไร เราจะบอกให้ว่าเคน จองคือนักแสดงเอเชียผู้โด่งดังจาก The Hangover ที่มาร่วมแจม Avengers: Endgame ในบทรปภ.สวมหมวก ติดหนวด ใส่แว่นผู้เฝ้าโรงเก็บของที่เก็บของสก็อตต์ แลงก์ และเดินตามพี่มดจิ๋วของเรามาแว้บนึงนั่นเอง

 

- อีเวตต์ นิโคล บราวน์: เจ้าหน้าที่ชีลด์ในค่ายลีไฮจ์ที่จับผิดโทนี่และสตีฟบนลิฟต์ในฉากย้อนเวลาปี 1970 ก่อนเรียกเจ้าหน้าที่ให้ตามหาและจับกุมพวกเขาต่อไป

 

**เกร็ดน่ารู้** เคน จอง และอีเวตต์ นิโคล บราวน์ คือนักแสดงที่เล่นในซิตคอม Community ที่สองพี่น้องรุสโซ่เป็นผู้กำกับ

 

สัญญารักของกัปตัน อเมริกา และเพ็กกี้ คาร์เตอร์

อย่างที่รู้กันตั้งแต่ Captain America: The First Avenger แล้วว่าหญิงสาวคนเดียวที่อยู่ในใจของสตีฟ โรเจอร์สตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาก็คือ เพ็กกี้ คาร์เตอร์ ที่สตีฟเคยสัญญาไว้ว่าจะไปงานเต้นรำด้วยกันหลังจบภารกิจ แต่น่าเสียดายที่เจ้าตัวพลีชีพนำยานบินพร้อมหินเทสเซอแรคและระเบิดดิ่งลงมหาสมุทรเพื่อปกป้องโลก กว่าจะฟื้นตื่นขึ้นมาอีกรอบวันเวลาก็ผ่านไปนาน 70 ปี ซึ่งเพ็กกี้ คาร์เตอร์แก่ตัวลงและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้เขากลายเป็นชายผู้ไม่รักษาคำมั่นไปโดยปริยาย

 

แต่ใน Avengers: Endgame ในท้ายสุดเราได้เห็นแล้วว่าหลังจากสตีฟเดินทางเข้ามิติควอนตัมไปคืนหินอินนิตี้ทั้งหมด เขาตัดสินใจกลับไปช่วงเวลาในอดีตที่เขากับเพ็กกี้ครองรักกันแล้วชวนเธอเต้นรำในบ้านแสนอบอุ่น ถือเป็นการปิดฉากที่สวยงามและน่าจดจำมาก เพราะนอกจากได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคนรักแล้ว ยังได้แต่งงานและถอดเครื่องแบบ "กัปตัน อเมริกา" มาใช้ชีวิตธรรมดา ๆ แบบ "สตีฟ โรเจอร์ส" อย่างมีความสุขหลังจากเสียสละให้ชาติไปแล้วมากมาย

 

โดยบทเพลงที่เต้นรำด้วยกันคือ “It’s Been a Long Long Time” ของจูล สไตน์ และแซมมี่ คาห์น บทเพลงฮิตในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีเนื้อหาสุดซึ้งเข้ากับความสัมพันธ์ของทั้งสองว่า "จุมพิตฉันสักครั้ง จุมพิตฉันอีกสองครั้ง แล้วจุมพิตฉันอีกสักครั้งเถิดที่รัก มันนาน.. นานมากจริง ๆ ที่เราไม่ได้รู้สึกแบบนี้ นานจนฉันทำแทบไม่ได้แล้วว่ามันผ่านมานานเท่าไร.. คุณไม่รู้หรอกว่าฉันฝันถึงคุณซ้ำ ๆ มาแล้วกี่คืน คุณไม่รู้หรอกว่าโลกใบนี้มันว่างเปล่าขนาดไหนเมื่อไม่มีคุณ..”

 

ความลับที่ซ่อนอยู่ในเอนเครดิต “เปิดด้วยไอรอนแมน ปิดด้วยไอรอนแมน”

แม้ว่า Avengers: Endgame จะไม่มีฉากคั่นหรือฉากปิดท้ายเอนเครดิตอย่างภาพยนตร์เรื่องอื่นในจักรวาลมาร์เวล แต่หากใครได้ตั้งใจนั่งดูจนจบ จะได้ยินเสียงดังสะท้อน “ก๊อง ก๊อง ก๊อง” คล้ายเสียงตีเหล็กเมื่อโลโก้มาร์เวลปราฏกขึ้นในตอนสุดท้ายก่อนจอภาพยนตร์จะดับวูบไป รู้หรือไม่..ว่าเสียงนั้นคือเสียงตีชุดเหล็กไอรอนแมนโดย โทนี่ สตาร์ค จาก Iron Man 1 นับเป็นบทสรุปการเดินทางตลอด 11 ปีโดยสมบูรณ์ “เริ่มต้นด้วยไอรอนแมน ก็ให้ปิดฉากด้วยไอรอนแมน”

 

รวมมิตรเกร็ดน่ารู้น่าสนใจ

เมืองทอร์นสเบิร์ก ประเทศนอร์เวย์ กลายเป็นเมืองสำคัญในจักรวาลภาพยนตร์ MCU เพราะเป็นที่ตั้งของอาณาจักรใหม่ “นิว แอสการ์ด (New Asgard)” ซึ่งในอดีตเป็นเมืองที่เทพโอดินนำเทสเซอแรคมาซ่อนไว้ หลังจากสิ้นสุดสงครามกับเผ่าพันธุ์เอเลี่ยน ‘ฟรอสต์ ไจแอ้นท์’’ 

 

ในฉบับคอมมิคผู้ถือครองค้อนแห่งเทพสายฟ้าไม่ได้มีเพียงธอร์และกัปตัน อเมริกา แต่รวมถึงซูเปอร์ฮีโร่อื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติคู่ควรและมีจิตใจบริสุทธิ์พอที่จะสามารถยกค้อนได้ ได้แก่ เทพโอดิน บิดาแห่งธอร์, สตอร์ม สาวผู้ควบคุมสภาพอากาศ, โลกิ, วิชั่น, ฮัล์ค, เบต้า เรย์ บิลล์, เจน ฟอสเตอร์, แม็กนิโต้ (ยกขึ้นได้เฉย ๆ เพราะพลังแม่เหล็กแต่ใช้พลังของค้อนไม่ได้) รวมถึงฮีโร่จาก DC อย่างวันเดอร์ วูเมน และซูเปอร์แมนในคอมมิคฉบับพิเศษรวมสองจักรวาลฮีโร่ดัง Marvel และ DC เข้าด้วยกัน

 

ทรงผมใหม่ของกัปตันมาร์เวล แครอล แดนเวอร์ส อ้างอิงมาจากคอมมิคตีพิมพ์ในยุคปัจจุบัน The Life Of Captain Marvel #1 ซึ่งดูโมเดิร์น ทะมัดทะแมง ดูเป็นผู้หญิงขาลุยแห่งยุค 4.0 

 

• ฉากสุดท้ายของเทพเจ้าสายฟ้าธอร์ ที่ขึ้นไปสมทบกับแก๊งผู้พิทักษ์ Guardians of the Galaxy แล้วแปลงชื่อทีมขำ ๆ ให้เข้ากับตัวเองว่า Asgardian of the Galaxy เป็นการล้อชื่อทีมซูเปอร์ฮีโร่ชาวแอสการ์ดจากคอมมิค นำทีมโดย แอนเจล่า น้องสาวของธอร์, ทร็อก กบธอร์, สเคิร์จ, ธันเดอร์สไตรค์ และเดสทรอยเยอร์

 

• เปปเปอร์ พ็อตต์ ยอมสวมชุดเหล็กที่โทนี่ สตาร์คสร้างให้เป็นครั้งแรก เป็นชุดที่อ้างอิงจากเกราะ “Rescue” รหัส Iron Man Armor MK 1616 ในฉบับคอมมิค ราคาสูงถึง 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ

 

เกม Fortnite ที่ธอร์และเพื่อน ๆ นั่งเล่นกันในบ้านอย่างสนุกสนานเป็นเกมโปรดของผู้กำกับสองพี่น้องรุสโซ่ ซึ่งพวกเขาจับมือเป็นพันธมิตรกัน จนในปัจจุบันมีคาแรคเตอร์ตัวละครทีมอเวนเจอร์และธานอสให้เลือกเล่นได้ด้วย

 

ประโยค “ระวังซ้าย (On your left)” ที่ฟอลคอนพูดกับกัปตัน อเมริกาตอนเผชิญหน้ากับธานอส คือประโยคเปิดตัวครั้งแรกของเขาใน Captain America: The First Avengers

 

“สู้แบบนี้ทั้งวันยังได้ (I can do this all day)” คือประโยคติดปากของกัปตัน อเมริกา ตั้งแต่ Captain America: The First Avenger พูดถึง 2 ครั้งในฉากสู้กับกุ๊ยนอกโรงหนังและฉากพูดกับเรด สกรัลล์, Captain America: Civil War ในฉากต่อสู้กับไอรอนแมน และล่าสุดใน Avengers: Endgame ฉากที่ย้อนเวลากับไปเจอตัวเองอีกครั้ง

 

ช่องเก็บของที่รถตู้ของสก็อตต์ แลงก์อยู่คือหมายเลข 616 มาจากเลขที่จักรวาลจากคอมมิค Earth-616 ที่เรื่องราวส่วนใหญ่ในจักรวาลภาพยนตร์ MCU ใช้อ้างอิง

 

โลโก้มาร์เวลตอนภาพยนตร์เริ่ม มีแต่ตัวละครที่รอดชีวิตจากการดีดนิ้วของธานอสเท่านั้นที่ปรากฏ

 

ชื่อเล่น “Blue Meanie” ที่โทนี่ สตาร์คใช้เรียกเนบิวลา มาจากชื่อวายร้ายตัวสีน้ำเงินในแอนิเมชั่น Yellow Submarine ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวงดนตรีดัง The Beatles ออกอากาศเมื่อปี 1968

 

 

อ่านเพิ่มเติม
เจาะไทม์ไลน์หนังจักรวาลมาร์เวล MCU


ที่มา: screenrant.com, hypable.com
 

: Avengers 4 , Avengers: Endgame

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • หวิดตายยกแก๊ง! ผู้กำกับเผยแนวคิดเบื้องต้น Avengers: Endgame
  • ข้ามมิติไปกับ "เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์" หรือ #หมอแปลก เปิดประตูจากสงครามโลกสู่จักรวาลมาร์เวลบน Disney+ Hotstar
  • คริส อีแวนส์ เปิดเหตุผลทำไมประโยค ‘อเวนเจอร์ส รวมพลัง’ ไม่ใช้เสียงตะโกนใน Avengers: Endgame
  • พอล รัดด์ เผย มิเชลล์ ไฟเฟอร์ ทำให้ทีม Ant-Man ดูคูลที่สุดในหมู่อเวนเจอร์ส
  • ผู้กำกับบอก Doctor Strange in the Multiverse of Madness จะเชื่อมโยงเหตุเศร้าสลดใน Avengers: Endgame
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :