เห็นภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างจากเรื่องจริงมาเยอะแล้ว มาเปลี่ยนบรรยากาศไปรู้จักกับ 8 ภาพยนตร์สยองขวัญที่สร้างจากตำนานและเรื่องเล่าในท้องถิ่นกันบ้างดีกว่า บอกเลยว่าลึกลับ ซับซ้อน ชวนขนหัวลุก คอหนังสยองขวัญไม่ควรพลาดเด็ดขาด! 

 

 

Candyman 
แคนดี้แมนผู้เคียดแค้น
(1992)

เรื่องราวของ เฮเลน ลิลี่ นักศึกษาสาวที่สนใจและศึกษาเกี่ยวกับเรื่องลึกลับเพื่อทำธีซิสจบของตัวเอง เธอสนใจตำนานของ แคนดี้แมน ผู้ชายแขนเดียวที่จะปรากฏตัวออกมาเมื่อพูดชื่อของเขา “แคนดี้แมน” ซ้ำ ๆ 5 ครั้งหน้ากระจก แม้หลายคนจะเตือนเฮเลนแล้ว แต่เธอกลับไม่เชื่อและท้าทายความสยอง พร้อมขุดคุ้นความจริงและตามหาแคนดี้แมนต่อไป 

 

ตำนานแคนดี้แมนที่มาจากการตายของศิลปินชายคนหนึ่งในชิคาโก ที่เกิดขึ้นเมื่อในปี 1890 เมื่อศิลปินหนุ่มผู้มีนิสัย หน้าตา และการศึกษาเพียบพร้อมตกหลุมรักลูกสาวสุดที่รักของเศรษฐีเจ้าของเมือง พวกเขามีคบหาและมีลูกด้วยกันแบบลับ ๆ จนกระทั่งเศรษฐีรู้ความจริง แล้วสั่งนักฆ่าไล่ล่าชายหนุ่มทันที เขาถูกทรมานสารพัดด้วยการตัดมือขวาแล้วเย็บแขนเข้ากับตะขอเหล็ก ก่อนราดน้ำผึ้งทั่วร่างกายจนให้ถูกผึ้งรุมต่อยจนเสียชีวิตอย่างทุข์ทรมาน ศพของเขาถูกเผาทิ้งในกองฟืน ส่วนขี้เถ้าถูกนำในโปรยเล่นทั่วเมือง หลังจากนี้คือเรื่องราวของวิญญานที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น ที่ฟื้นขึ้นมาเพื่อออกล่าผู้คนที่ทำกับเขาไว้อย่างสาสม

 

** Candyman กำลังจะสร้างฉบับรีเมคโดย จอร์แดน พีล ผู้กำกับหนังสยองขวัญเบอร์ต้นของวงการ อาจได้ตัว ยาห์ย่า อับดุล-มาทีน ที่ 2 มารับบทนำ เบื้องต้นเล็งฤกษ์ฉายคร่าว ๆ ในวันที่ 12 มิถุนายน 2020 **

 

Ringu
ผีนับจานโอคิคุ
(1998)

เมื่อหลานสาวตายอย่างปริศนา นักสืบสาว เรโกะ อาซาคาวะ จึงต้องตามหาสาเหตุที่แท้จริง จนเจอเข้ากับวิดีโอต้องคำสาป ที่ทำให้ชีวิตของเธอ อดีตสามี และลูกชายต้องเผชิญกับความสยองไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนคำตอบที่แท้จริงซ่อนอยู่ในเกาะแห่งภูเขาไฟระเบิด ซึ่งก็คือการตายของสาวโรคจิตชื่อว่า “ซาดาโกะ” ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 30 ปีก่อนและลูกชายของเธอ

 

ที่มาของผีชื่อดังในบ่อน้ำ มาจากตำนานสมัยโบราณของญี่ปุ่น เกี่ยวกับสาวใช้ชื่อ โอคิคุ ที่เผลอทำจานของเจ้านายขุนนางใหญ่แตกโดยไม่ตั้งใจ แต่ถูกลงโทษด้วยการโยนลงบ่อน้ำจนเสียชีวิต เธอจึงกลายเป็นวิญญานสาวที่ออกมานับจานทุกค่ำคืน “จานหนึ่งใบ.. จานสองใบ.. จานสามใบ..” จนใคร ๆ ก็เรียกเธอว่า “ซาระคะโซเอะ (ปีศาจนับจาน)”

 

ส่วนอีกตำนานเล่าว่า โอคิคุ เป็นสาวใช้ของผู้ที่วางแผนโค่นตำแหน่งเจ้าเมือง วันหนึ่งเธอบังเอิญได้ยินแผนร้ายเข้าจึงบอกกับคนรักที่เป็นทหารของเจ้าเมืองฟัง เมื่อเจ้านายนิสัยเหี้ยมรู้ว่าโอคิคุเป้นสาเหตุที่ทำให้แผนล่ม จึงทรมานเธอจนตายและทิ้งศพลงบ่อน้ำ มีการสันนิษฐานว่าบ่อน้ำโอคิคุ คือบ่อน้ำที่ตั้งอยู่ในปราสาทฮิเมจิ หรือบ่อน้ำในสวนของสถานทูตแคนาดาในกรุงโตเกียว เพราะเป็นที่ดินเก่าของตระกูลขุนนางดังกล่าว

 

นางนาก
แม่นากพระโขนง
(1999)

เรื่องราวความรักสุดสยองเคล้าน้ำตา เมื่อนางนากตายขณะคลอดลูกคนแรกของเธอระหว่างพี่มากไปออกรบ แต่เพราะความรัก ความเสียใจ ทำให้เธอไม่ยอมไปเกิดและรอคอยสามีกลับบ้านมาใช้ชีวิตอย่างปกติไปด้วยกัน แต่ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่เห็นด้วยกับชีวิตที่คนกับผีนั้นอาศัยอยู่ด้วยกัน จึงพยายามบอกความจริงกับมากและทำพิธีไล่ให้นางนากไปสู่สุขคติในที่สุด

 

แม่นางพระโขนง เป็นตำนานผีตายทั้งกลมที่ดังที่สุดในประเทศไทย มีการศึกษาขุดค้นแล้วว่าอาจเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 ของลูกสาวกำนันตำบลกระโขนง ที่ตายขณะยังตั้งท้อง ลูก ๆ จึงรวมตัวกันหลอกผีใส่ชาวบ้านแถวนั้นไม่ให้มายุ่งเรื่องบนเรือน เพราะกลัวว่าพ่อของตนจะหนีไปแต่งงานมีแม่ใหม่ ส่วนชื่อแม่นากและพ่อนากนั้นมาจากบทละครร้อง “อีนากพระโขนง” ปีพ.ศ. 2454

 

Sleepy Hollow 
ผีหัวขาดล่าหัวคน
(1999)

ภาพยนตร์ลึกลับจากผู้กำกับทิม เบอร์ตันและนักแสดงคู่บุญ จอห์นนี่ เดปป์ ผู้รับบทนักสืบหนุ่มจากนิวยอร์ค ที่เดินทางมายังหมู่บ้านสลีปปี้ ฮอลโลว์เพื่อสืบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่องปริศนาเกี่ยวข้องกับตำนานคนขี่ม้าหัวขาด ที่ฟื้นคืนกลับมาไล่ล่าหัวชาวเมืองอย่างสนุกสนานหลังจากหัวของรูปปั้นทหารม้าชาวเฮสเซียนในเเมืองถูกขโมยไป 

 

ตำนานผีทหารม้าหัวขาด (The Headless Horseman) เป็นเรื่องเล่าในสมัยยุคกลางของวิญญานร้ายในร่างของบุรุษไร้หัวขี่ม้า มักพบเห็นว่าถือศีรษะมนุษย์ไว้ข้างในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างถืออาวุธแส้ที่ทำจากกระดูกสันหลังของมนุษย์ เชื่อว่าเป็นวิญญาณอาฆาตแค้นของชาวดัตช์พื้นเมืองและทหารม้าชาวเฮสเซียน ที่อาศัยอยู่ในเมืองสลีปปี้ ฮอลโลว์ และถูกทหารอเมริกันคร่าชีวิตในช่วงสงครามโดยตัดหัวศพไปวางประจานเกลื่อนสนามรบ หลังจากนั้นเมื่อความมืดมนมาเยือนพวกเขาจึงกลับมาไล่ล่าผู้คนแบบไม่สนแล้วว่าเป็นใครหน้าไหน 

 
The Blair Witch Project
ตำนานแม่มดแห่งเมืองแบลร์
(1999)

เรื่องราวของกลุ่มวัยรุ่นที่เดินทางไปยังป่าแบล็กฮิลล์เพื่อถ่ายทำสารคดีแม่มดแบลร์ ซึ่งเป็นตำนานความเชื่อสยองของคนท้องถิ่น แต่แล้วเหตุการณ์ประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นกับพวกเขาทุกคืน และร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ ขนาดเพื่อนร่วมทีมหายไปอย่างลึกลับ ก่อนคนที่เหลืออยู่จะเจอเข้ากับสัญลักษณ์กิ่งไม้ปะหลาดคล้ายเครื่องรางไสยศาสตร์ ที่พวกเขาไม่รู้และไม่ควรรู้เลยว่าใครเป็นทำ..

 

ตำนานเล่าว่า ป่าแบล็กฮิลล์เดิมเป็นที่ตั้งของเมืองแบลร์ ซึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อ เอลลี่ เดคเวิร์ด ถูกชาวบ้านกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ที่ล่อลวงเอาเลือดของเด็ก ๆ มาทำพิธีกรรมจนโดนไล่ตะเพิดออกจากเมือง แต่หลังจากนั้นชาวบ้านกว่าครึ่งกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผู้ที่เหลืออยู่จึงรีบย้ายออกจากเมืองด้วยความหวาดกลัว พร้อมสาบานต่อกันและกันว่า จะไม่มีใครเอ่ยชื่อถึงเธออีก

 

Carved
นางสาวปากฉีก
(2007)

เมื่อข่าวลือการปรากฏกายของ นางสาวปากฉีก แพร่สะพัดไปทั่วเมือง พร้อมการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของเด็ก ๆ ในเมือง อาจารย์หนุ่ม โนโบรุ มัตซึสากิ จำต้องร่วมมือกับเพื่อนร่วมงาน เคียวโกะ ยามาชิตะ ตามหาปริศนาและสาเหตุที่แท้จริงเพื่อช่วยเหลือเด็ก ๆ ของพวกเขาให้กลับมาให้ได้ แต่ในเวลาเดียวกัน โนโบรุต้องเผชิญกับอดีตของเขาที่ถูกซ่อนไว้มานาน

 

ในตำนานโบราณกล่าวว่า สมัยที่นางสาวปากฉีกมีชีวิต เธอไม่ซื่อสัตย์ต่อสามีผู้เป็นถึงซามุไรใหญ่ สามีจึงลงโทษด้วยการนำดาบฟันลงไปบนใบหน้าของนาง จนเป็นรอยฉีกกว้างไปถึงหูทั้งสองข้างแล้วเสียชีวิตทันที และไม่ยอมไปผุดไปเกิดเพราะความเคียดแค้น ส่วนตำนานปัจจุบันกล่าวว่า นางสาวปากฉีก คือผีสาวที่สวมหน้ากากอนามัยและชอบเดินร่อนเร่ตามทางเปลี่ยวในเมือง หากมีใครมาเห็นเธอถามก่อนว่า “ฉันสวยไหม?” หากบอกปัดเธอจะใช้กรรไกรฆ่าตาย หากตอบว่าสวย เธอจะถอดหน้ากากแล้วถามอีกทีว่า “แล้วตอนนี้ล่ะสวยไหม?” หากตอบว่าสวยเธอจะมอบความงามแบบเดียวกันให้ ด้วยการใช้กรรไกรกรีดหน้าเหยื่อให้ปากฉีกไปถึงหูเช่นเดียวกัน ทางรอดเมื่อเจอเธอคือทำให้เธอสับสน เลี่ยงการตอบว่า “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” ให้ตอบว่า “น่ารักๆๆ” หรือถามกลับว่า “แล้วฉันล่ะสวยไหม?” หรือตอบว่า “ฉันเพิ่งหมั้นหมายกับแฟน” เธอจะเห็นใจแล้วปล่อยคุณไป ถ้าไม่.. ก็วิ่งหนีสถานเดียว

 

The Mothman Prophecies 
มนุษย์ผีเสื้อกลางคืนมรณะ
(2012)

สร้างจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมจริงในเมืองพอยต์ เพลสเซนต์ รัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย อเมริกา ราว ๆ ปี 1966-1976 เมื่อสะพานซิลเวอร์พังทลายและคร่าชีวิตผู้โชคร้ายมากถึง 44 ศพ สูญหายอีก 2 ราย วันเวลาผ่านไป 4 ปีถึงได้ข้อสรุปออกมาว่าสาเหตุที่ทำให้สะพานพังเกิดจากโลหะชำรุด แต่ชาวเมืองกลับเชื่อว่าเป็นฝีมือของอมนุษย์จากโลกอื่น นั่นก็คือ “มอธแมน มนุษย์ผีเสื้อกลางคืน”

 

มอธแมน เป็นสิ่งมีชีวิตลึกลับลักษณะคล้ายกึ่งมนุษย์กึ่งผีเสือกลางคืน รูปร่างสูงใหญ่มากกว่า 1.8 เมตร ช่วงปีกขยายกว้างได้ข้างละ 4.5 เมตร ตำนานเล่าว่ามอธแมนป้วนเปี้ยนอยู่ในโลกมนุษย์มาเป็นเวลา มีผู้พบเห็นตั้งแต่สมัยสงครามโลก จนกระทั่งชาวเมืองพอยต์ เพลสเซนต์เป็นผู้ยืนยันว่า พวกเขาเห็นมอธแมนกับตาในช่วงเวลาโศกนาฏกรรมสะพานซิลเวอร์ถล่ม จึงมีความเชื่อว่ามอธแมนเป็นลางร้ายที่นำพามาซึ่งความสูญเสีย มักมีผู้พบเห็นตามสุสาน ช่วงใกล้วันฮาโลวีน และช่วงเวลาที่เกิดโศกนาฏกรรมใหญ่บนโลก

 

The Curse of Weeping Woman 
หญิงร่ำไห้ลาโยโรนา
(2019)

ปิดท้ายด้วยเรื่องราวของ "ลาโยโรนา" หญิงร่ำไห้ วิญญาณร้าย เธอติดอยู่ในโชคชะตาอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นจากน้ำมือของตนเอง คำกล่าวขานเรื่องราวของเธอโด่งดังทั่วโลกมายาวนาน เมื่อยามมีชีวิต เธอกดลูกตัวเองจมน้ำจากความโกรธแค้น และกระโดดลงสู่สายน้ำอันปั่นป่วนขณะร่ำไห้อย่างเจ็บปวด ยามนี้ เธอร่ำไห้นิรันดร และหากใครที่ได้ยินเสียงเพรียกแห่งความตายยามค่ำคืนของเธอต้องพบจุดจบ เธอคืบคลานในความมืด เรียกร้องหาเด็ก ๆ เพื่อนำมาแทนที่ลูกของตน ยิ่งเวลาผ่านไปนับศตวรรษ ความปรารถนาของเธอกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น รุนแรงยิ่งขึ้น และวิธีการของเธอก็น่ากลัวยิ่งขึ้นทุกที

 

ลาโยโรนาเป็นเรื่องเล่าจากตำนานหญิงร่ำไห้ชื่อดังในประเทศเม็กซิโก ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หญิงสาวชาวบ้านชื่อว่า “มาเรีย” พบรักกับชายหนุ่มเศรษฐีที่ผ่านมาพอดี แต่ครอบครัวของชายหนุ่มรับสถานะยากจนของมาเรียไม่ได้ เธอจึงยอมอาศัยอยู่ในกระท่อมเล็ก ๆ ที่สามีสร้างไว้ให้ในหมู่บ้าน มาเรียอดทนเลี้ยงลูกแฝดเพียงลำพังเพราะสามีต้องเดินทางไปทำงานในเมืองอื่นบ่อยครั้ง แถมเนิ่นนานจนไม่กลับมาหาเธอและลูก ๆ นานนับปี วันหนึ่ง มาเรียพาลูกแฝดของเธอไปเดินเล่นริมแม่น้ำ แต่กลับเห็นสามีที่รักอยู่กับสาวงามคนอื่น ความหึงหวงและความคับแค้นใจ ทำให้เธอสติหลุดไปชั่วขณะ มาเรียโยนลูกแฝดของเธอลงแม่น้ำแล้วจับกดจนพวกเขาสิ้นลมหายใจ เมื่อได้สติและรู้ตัวว่าทำเรื่องชั่วร้ายลงไปเธอจึงกระโดดทะเลสาปตายตามไปทันที แต่เพราะบาปที่ติดตัวทำให้มาเรียไม่ได้ไปผุดไปเกิด แล้วกลายเป็นวิญญานคร่ำครวญอย่างทรมาน และตามเอาตัวลูกของคนอื่นมาเป็นลูกของตัวเอง

 

 

หากลูกคุณได้ยินเสียงคร่ำครวญ จงระวังตัวเอาไว้ให้ดี!

"The Curse of La Llorona - คำสาปมรณะจากหญิงร่ำไห้"

17 เมษายนนี้ ในโรงภาพยนตร์