บทบาท-คาแรคเตอร์
เรื่องนี้ผมรับบทเป็น "วิทย์" ครับ เป็นคนซ่อมมือถือซ่อมคอมคนหนึ่ง แล้วก็เป็นแฟนของคิตตี้ด้วย ตัวของวิทย์ก็จะเป็นคนนิ่ง ๆ ไม่ค่อยมีอิโมชั่นนอล ไม่มีความรู้สึกสักเท่าไร แล้วก็วันหนึ่งไปรู้จักกับแตงซึ่งเป็นเพื่อนของคิตตี้ แล้วเราก็ดันรู้สึกชอบเขาจนเกิดเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา คาแรคเตอร์ก็ประมาณนี้ครับ
เรื่องราวของภาพยนตร์
มันก็เริ่มเรื่องจากผู้หญิงสองคนที่เป็นเพื่อนกันคือ คิตตี้ (จ๋า สุธีธิดา) กับ แตง (พลอย ศรนรินทร์) ที่อยากไปรำลึกความหลังในโรงเรียนที่เคยเรียนมาด้วยกัน ก็เลยกลับไปซึ่งตอนนี้มันเป็นตึกร้างตึกหนึ่งไปแล้ว โดยระหว่างนั้นก็เล่นเกมผีออนไลน์กันไปด้วย เล่นเกมผีในมือถือ แล้วซักพักหนึ่งตัวแตงเองก็บังเอิญไปถ่ายรูปแล้วติดผีตัวหนึ่งมาครับ แล้วหลังจากนั้นเนี่ยผีตัวนี้ก็เป็นภาพอยู่ในมือถือของแตง แล้วก็ส่งต่อกันจนเกิดเรื่องสยองวุ่นวายขึ้น โดยที่ผมเนี่ยก็ได้เข้าไปมีส่วนร่วมเพราะเป็นแฟนของคิตตี้ก็จะเจอเหตุการณ์สยองร่วมไปกับเขาด้วยครับ
เรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นที่แสดงมายังไงบ้าง
ผมว่าเรื่องนี้ผมพูดน้อยมากเลย แทบจะไม่ค่อยพูด น่าจะเป็นคนนิ่ง ๆ จนแบบก็คิดว่านิ่งไปหรือเปล่า (หัวเราะ) เรื่องอื่น ๆ ที่ผ่านมามันจะมีฮาบ้าง มีแบบดราม่า ตลก โรคจิตอะไรอีกเยอะแยะครับ แต่เรื่องนี้ก็แบบนิ่ง ๆ ผู้กำกับจะบรีฟให้เรานิ่ง ๆ จนมีบางซีนที่ต้องเล่นฉากหวาน ๆ เนี่ย ผู้กำกับก็บอกนิ่งไป เราก็ต้องปรับคาแรคเตอร์ขึ้นมาหน่อย พี่เปิ้ลก็บอกว่าดูให้หวาน ๆ ขึ้นมาหน่อยได้มั้ย ไม่ต้องนิ่งมากอะไรอย่างนี้
ส่วนตัวเป็นคนกลัวผีมั้ย
ไม่นะครับ ไม่กลัวซักเท่าไหร่ แต่ก็กลัวบ้าง แต่ไม่เชื่อมากกว่าเพราะยังไม่เคยเห็น แต่ถามว่าอยากเจอมั้ย ผมโคตรอยากเจอเลย อยากเห็นสักครั้งหนึ่งว่ามันเป็นยังไง แต่ถ้าเจอจริง ๆ ขึ้นมา ไม่รู้อะ น่าจะวิ่งมั้ง อาจจะคิดก่อน ก่อนวิ่งก็จะสำรวจเขาก่อนว่าผีมันเป็นอย่างนี้เหรอ อะไรแบบนี้ครับ
ถ้าเจอเหตุการณ์แบบในหนังจะทำอย่างไร
ผมน่าจะส่งต่อนะ ไม่รู้อะ ถ้าเป็นผมเองอาจจะส่งต่อก็ได้ แต่ส่วนตัวผมก็ไม่ค่อยส่งอะไรต่ออยู่แล้ว แต่อย่างนี้มันดูเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อสำหรับผมนะ ถ้าเป็นผผมจะส่งแต่เรื่องกวนตีนมากกว่า เรื่องผีไม่น่าส่งเท่าไหร่
การร่วมงานกับสองนักแสดงหญิงในเรื่องนี้
น้องพลอย นี่เคยทำงานร่วมกันแล้วครับจากหนังเรื่อง "สยามสแควร์" ก็รู้กันอยู่แล้วว่าน้องพลอยเป็นนักแสดงที่เก่ง จำบทโน่นนี่ได้แม่นมากแล้วก็เล่นอย่างที่พลอยทำได้ อย่างที่ทุกคนเห็นกัน เรื่องนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ แต่กับ จ๋าเนี่ยไม่เคยได้เล่นด้วยกันมาก่อน เพราะว่าน้องเขาเล่นเรื่องนี้เต็มตัวเป็นเรื่องแรกครับ ก็ได้มีการจูนกันบ้างเพราะว่าในเรื่องผมเล่นเป็นแฟนน้องเขา แต่เรายังไม่เคยได้ทำงาน ไม่เคยเจอ ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน มีซีนที่ต้องถูกเนื้อต้องตัวน้องเขา เราก็ไม่ค่อยมีความกล้าเพราะเราไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ผมก็กอดเลยนะตอนแรก น้องเขาก็ตกใจเล็กน้อย เฮ้ย...มันจะได้สนิทกันเว้ย แล้วสุดท้ายมันก็ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะตอนแรกน้องเขาก็ไม่ค่อยกล้าพูดกับเราซักเท่าไหร่ด้วยครับ
การร่วมงานกับผู้กำกับ
การกำกับของพี่เปิ้ลก็มีวิธีแบบพี่เปิ้ลอยู่ แต่ละผู้กำกับก็มีสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่ก็เป็นอะไรที่เราได้เรียนรู้ เพราะผมรู้สึกว่าการเล่นหนังหรือทำงานของผมในทุก ๆ อย่างเนี่ย เราจะเอาตัวเองเป็นนักเรียนตลอดเวลา แล้วให้คนอื่นเป็นครูดีกว่าครับ
หนังผีเรื่องนี้แตกต่างจากเรื่องอื่นยังไงบ้าง
ผมว่าเรื่องนี้มันเหมือนผูกกันระหว่างเกมแล้วก็มาเป็นผี เป็นหนังผีที่มันเริ่มจากเกมอย่างนี้ที่เราเล่นเเล้วผีมันโผล่มาแล้วต้องส่งต่อกันอย่างนี้ มันมีความร่วมสมัย ก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจครับ มีความโคตรไทยเลย ไทยในที่นี้หมายถึงว่าด้วยภาพ ด้วยมุมมองที่พี่เปิ้ลผู้กำกับเล่าออกมา มันก็จะมีความไทย ๆ ซึ่งผมว่ามันไปด้วยกันได้ แล้วมันก็น่าจะเกิดอะไรใหม่ ๆ ที่น่าสนใจได้ครับ
ซีนไหนที่คิดว่าเล่นยากที่สุด
ไม่มีเลยครับ (หัวเราะ) คาแรคเตอร์ผมมันนิ่ง ๆ อะครับ ยากที่สุดก็น่าจะนิ่งเนี่ยแหละ เพราะปกติแล้วผมเป็นคนไม่ค่อยอยู่นิ่งอะ
ความโดดเด่นน่าสนใจในเรื่องนี้
จริง ๆ ผมว่ามันอยู่ที่ความแปลกใหม่ที่เอาเกมเข้ามา ผมว่ามันถูกตั้งคำถามว่า ไอ้ผีตัวนี้เนี่ยมันมาได้ไง แล้วมันเป็นเพราะอะไร ทำไมมันถึงมามีส่วนร่วมอะไรกับตัวละครในเรื่อง ซึ่งส่วนตัวผมก็อยากจะรู้นะว่ามันเป็นยังไง มันจะมายังไง มึงจะหลอกกูยังไง ลองดูซิ นั่นแหละคือสิ่งที่ผมอยากจะเจอในหนังว่าเราจะถูกผีตัวนี้กระทำยังไงกับเรา ก็ฝากไปดูกันด้วยนะครับ ก็อยากให้ทุกคนได้ดู มันเป็นหนังผีที่น่าจะทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นไปกับมันตลอดการชมและได้ความสนุกกับมันครับกับภาพยนตร์เรื่อง "ผีโทรศัพท์"
ใจไม่ถึงอย่าส่ง ใจไม่แข็งอย่ารับ #ผีโทรศัพท์ วันนี้ ในโรงภาพยนตร์
#กดส่งภาพระวังจะส่งผี #กดรับภาพระวังจะรับผี