ผู้กำกับ แอนดี้ มุสชิเอตติ แจ้งข่าวดีให้สาวกปีศาจเพนนี่ไวซ์ ทราบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าตอนนี้ It: Chapter Two ได้ปิดกล้องไปอย่างเป็นทางการแล้ว ขณะที่ ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด หนึ่งในสมาชิกแก๊งค์ขี้แพ้วัยละอ่อนก็รวมตัวสหายชักภาพฉลองปิดกล้องอย่างร่าเริงด้วยเช่นกัน
It: Chapter Two จะกลับมาสานต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน IT (2017) ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในแง่ของเสียงวิจารณ์ และยอดรายได้ของผู้กำกับ มุสชิเอตติ ซึ่งหนังภาคแรกนั้นโกยเงินทั่วโลกไปได้กว่า 700 ล้านเหรียญ ด้วยเหตุที่ปีศาจเพนนี่ไวซ์จะกลับมาเยือนเมืองเดอร์รี่ รัฐเมน ในทุก ๆ 27 ปี It: Chapter Two จึงพาเหล่าตัวละครที่จากไปนานตามหนทางของพวกเขาแต่ละคนกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในวัยที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ซึ่งมันนับเป็นเวลานานเกือบ 3 ทศวรรษหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังภาคแรก บิลล์ สการ์สการ์ด (กลับมาในบทบาท ปีศาจตัวตลกเพนนี่ไวซ์), เจมส์ แม็คอะวอย (รับบทเป็น บิล เดนโบรห์), นักแสดงผู้เคยชิงรางวัลออสการ์ เจสสิก้า แชสเทน (รับบทเป็น เบเวอร์ลี่ มาร์ช), บิลล์ เฮเดอร์ (รับบทเป็น ริชชี่ โทซิเออร์), ไอเซห์ มุสตาฟา (รับบทเป็น ไมค์ ฮานลอน), เจย์ ไรอัน (รับบทเป็น เบน แฮนส์คอม), เจมส์ แรนซัน (รับบทเป็น เอ็ดดี้ แคสพ์แบรก) และแอนดี้ บีน (รับบทเป็น สแตน อูริส)
ร่วมด้วยการกลับมาของสมาชิกเดอะลูสเซอร์สคลับเวอร์ชั่นแรกเริ่มทั้ง เจเดน ลีเบอร์เฮอร์ (รับบท บิล เดนโบรห์), ไวแอตต์ โอเลฟฟ์ (รับบท สแตน อูริส), โซเฟีย ลิลลิส (รับบท เบเวอร์ลี่ มาร์ช), ฟินน์ วูล์ฟฮาร์ด (รับบท ริชชี่ โทซิเออร์), เจเรมี่ เรย์ เทย์เลอร์ (รับบท เบน แฮนส์คอม), โชเซ่น เจค็อบส์ (รับบท ไมค์ ฮานลอน) และแจ็ค ดีแลน เกรเซอร์ (รับบท เอ็ดดี้ แคสพ์แบรก)
มุสชิเอตติ รับหน้าที่กำกับ จากฝีมือรังสรรค์บทของ แกรี่ ดาวเบอร์แมน ที่อิงมาจากงานเขียนอันโด่งดังของ สตีเฟ่น คิง อำนวยการสร้างโดย บาร์บาร่า มุสชิเอตติ, แดน หลิน และรอย ลี อำนวยการผลิตโดย มาร์ตี้ เอวิงก์, เซ็ธ แกรห์ม-สมิธ และเดวิด แคทเซนเบิร์ก
ในส่วนของทีมงานสร้างสรรค์ผู้อยู่เบื้องหลังนั้นประกอบไปด้วย ผู้กำกับภาพ เช็กโก วาเรเซ, นักออกแบบฉากเจ้าของรางวัลออสการ์ พอล ดี. ออสเตอเบอร์รี่, นักตัดต่อภาพยนตร์ เจสัน บาลลานไทน์ และนักออกแบบเครื่องแต่งกายผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ลุยส์ เซคเวร่า โดยโปรเจ็คนี้จะใช้เมืองโทรอนโต้ ประเทศแคนาดาเป็นสถานที่ในการถ่ายทำ และมีกำหนดฉายในประเทศไทยวันที่ 5 กันยายน 2019
ที่มา: IG andy_muschietti / finnwolfhardofficial