ความคิดเห็นที่ 3  จากคุณ ฝาก***ไว้..ใน***เธอ     5 ส.ค. 2557 06:28 น.

มาร์ช-ต่อ โอด “ฝาก***ไว้..ใน***เธอ” ใช้ทักษะมาก ท่ายากเยอะ!

---

ความคิดเห็นที่ 2  จากคุณ ฝาก***ไว้..ใน***เธอ     5 ส.ค. 2557 06:27 น.

แม้ว่าจะโดนมองเป็นหนังเกย์ มากกว่าหนังผี และฉากที่โดนกล่าวขวัญมากที่สุดในรอบสื่อฯ คงหนีไม่พ้นฉากเลิฟซีนของพระเอกทั้งสองในเรื่อง แต่ไม่ว่ามุมมองหนังเรื่องนี้สำหรับผู้ชมคืออะไร แต่ในมุมมองของ 'มาร์ช-จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล' กับคำถามที่หลายๆคนใคร่รู้ วันนี้ มีคำตอบ "ก็สนิทกันกับพี่เก้ง พี่จิม เป็นคนที่ไว้ใจได้ ร่วมงานกับคนเป็นพี่ เป็นพ่อ เป็นเพื่อน พอพี่วรรณติดต่อมา มาร์ชก็สนใจ ดีกว่าไปเล่นอะไรของคนอื่น อย่างน้อยเล่นหนัง ทำงานของGTH และเราก็เคยร่วมงานกันมาแล้ว ก็เห็นว่างานของเขาดัง ของเขาสนุก ทำงานกับคนที่เราไว้ใจ ตอนแรกก็แบบว่าจะเอายังไงดี แต่ หนึ่งคือเราทำงานกับพี่จิม คือคำแนะนำจากเขา เราไว้ใจเขาได้ สองคือได้แสดงอะไรแบบนี้กับต่อ ธนภพ โอกาสอย่างเนี้ยมันไม่มีอีกแล้ว" "ส่วนการเตรียมใจกับบทแบบนี้เนี่ย อันนี้ มาร์ชเตรียมใจตั้งแต่ก่อนเล่นแล้ว ว่ามันจะต้องมีฉากแบบนี้ กระแสแบบนี้มาตั้งแต่HORMONES คือจะต้องถูกพี่ๆถามอย่างนี้ แต่ก็คือ มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ก็เป็นบทบาทหนึ่งเท่านั้นเอง อย่างสมมติว่าวันหนึ่ง มาร์ชรับงานใหม่ มาร์ชได้รับบทใหม่ มาร์ชก็มีทางเลือกของมาร์ชว่ามาร์ชจะเล่นเป็นแบบไหน มาร์ชอาจจะได้กลับมาเล่นสไตล์นี้อีก คือเรามีทางเลือกหลากหลาย แต่นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น และก็ไม่ได้สนว่าคนจะมองภาพเราเป็นยังไง" "คือมาร์ชไม่ได้ผ่านมาเยอะ แต่คุยกับพี่เก้งพี่จิมก่อน สมมติเวลาเราอ่าน อย่างเราอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน แต่มันก็จะมีรายละเอียดของตัวละครหรือว่าภาพของตัวละครที่ออกมาไม่เหมือนกันอยู่แล้ว มาร์ชก็คิดไม่เหมือนพี่เก้งพี่จิม เพราะว่ามาร์ชก็ไม่เคยเจออะไรที่เหมือนกับพี่เก้งพี่จิม ก็เลยต้องมาแชร์ประสบการณ์กัน มาพูดคุย ก็พยายามอยู่กับพี่จิม ไปเที่ยว ไปอะไรกับเขา ก็จะเข้าใจว่าตัวเพิร์ทมันเป็นอย่างนี้ คือเราคุยกันตลอดอยู่แล้ว เล่นไลน์คุยกัน มาร์ชก็เลยพยายามจับตัวเพิร์ทให้มันเป็นอย่างเนี้ย หน้าตาเป็นอย่างนี้ ท่าทางเป็นอย่างนี้ เสียงเป็นอย่างนี้ พูดอย่างนี้ให้ได้ใกล้เคียงที่สุด" "ตอนม.ปลายที่โรงเรียน ก็มีเพื่อนแบบนี้นะ ก็คุยกับเขาครับ มาร์ชก็ดู เราก็เหมือนกับกลุ่มเพื่อนกลุ่มหนึ่งนั่นแหละ เราก็แอบเฝ้าดูเขา แต่เราก็แข่งขันกันไปด้วยกัน" "คือถ้าเป็นพวกเพื่อนๆที่คณะเนี่ยเขาก็จะกรี๊ดเลย เพราะส่วนใหญ่เขาก็จะไม่มองประเด็นอื่นเลยครับ ฉากนั้นอย่างเดียวเลย ..(ยิ้ม) แต่ถ้าเป็นคนอื่นๆเป็นรุ่นพี่หรือว่าอะไรเขาก็โอเค คือมาร์ชดีใจนะ ที่เพื่อนโทรมาบอกว่าจะพาแม่ไปดู เพราะแม่บอกว่าชอบมาร์ชมาก มีเพื่อนคนหนึ่งสนิทกันมาก เรียนอยู่นิเทศจุฬาฯ เขาก็บอกว่าจะพาแม่ไปดู" "มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนแม่โทรมาบอกว่าลูกเขาอยู่ประมาณประถมมัธยม เขาชอบมาร์ชมากเลย เขาจะพาเพื่อนทั้งห้องไปดูหนัง ก็จะบอกว่าใจเย็นๆเดี๋ยวก่อน บอกแม่ว่า ให้พยายามชี้แจงก่อนให้เขาเข้าใจ เดี๋ยวเขาจะช็อก! (หัวเราะ) เราก็จะบอกว่าเตรียมใจนิดหนึ่งนะ แต่ทุกคนก็จะบอกว่าไม่เป็นไร คือเขายังไม่ได้ดูไงครับ ..(ยิ้ม) แต่ถ้าพอไปดู เขาก็จะมาตั้งในกระทู้ในพันทิพย์ว่า แหม..ฉากนั้นแมนเชียวนะมรึง ก็จะมีถามเรื่องนั้นเรื่องนี้เยอะ" "ส่วนใหญ่ก็มีมาถามครับ ว่ามาร์ชเป็นหรือเปล่า และเราก็ต้องแยกภาพลักษณ์ของหนัง กับชีวิตจริงออกจากกัน แต่จริงๆลึกๆถ้าเรามองในแง่เนี้ย เราน่าจะดีใจนะว่าเราเล่นได้สมบทบาทจริงๆ เพราะว่าอย่างที่สวนฯหรือที่บัญชีจุฬาฯก็มีเป็นอย่างนี้เยอะ เราได้สัมผัส เราได้เข้าใจว่าเราได้รู้ว่าเขารู้สึกยังไง"

---

ความคิดเห็นที่ 1  จากคุณ ฝาก***ไว้..ในกายเธอ     5 ส.ค. 2557 05:36 น.

***

---

 1