หลังจากเปิดตัวไปแล้ว 2 ภาค สำหรับภาพยนตร์เรื่อง "ตี๋เหรินเจี๋ย" ผู้กำกับ ฉีเคอะ ยังคงพิถีพิถันถ่ายทอดความสวยงามและชั้นเชิงของศิลปะการต่อสู้แบบจีนให้ทุกคนตื่นตาอีกครั้งใน "ตี๋เหรินเจี๋ย ปริศนาพลิกฟ้า 4 จตุรเทพ" ซึ่งได้นักแสดงทีมเดิมจากภาคที่ 2 ยกชุดร่วมไขคดี เพิ่มเติมด้วยความสนุกในเนื้อหาที่ทุกคนยากคาดเดา
และตัวละครสำคัญที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้นอกจาก "ตี๋เหรินเจี๋ย" แล้วยังมี "อวี้จื้อเจินจิน" รับบทโดย เฝิงเส้าเฟิง ที่เป็นเสมือนคู่รักคู่แค้นของนักสืบตี๋ ในครั้งนี้เขาได้รับคำสั่งจากจักรพรรดินีบูเช็กเทียนให้ลอบขโมยพลองมังกรจากตี๋เหรินเจี๋ยเพื่อโยนความผิดให้ที่ไม่สามารถรักษาพลองมังกรไว้ได้ โดยพระนางฯได้ส่งทีม "ไสยเวทย์" ร่วมติดตามและช่วยอวี้จื้อเจินจินขโมยพลองมังกรในครั้งนี้ด้วย
เมื่อพูดถึงนักแสดงที่รับบท "อวี้จื้อเจินจิน" อย่าง เฝิงเส้าเฟิง หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะเขาเคยได้รับบทบาทเป็นพระถังซัมจั๋งในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง ไซอิ๋ว 2 และไซอิ๋ว 3 และเมื่อได้รับการทาบทามจากผู้สร้างตี๋เหรินเจี๋ยให้มารับบทมือปราบแห่งหอต้าหลี่ เขาได้เผยถึงความแตกต่างแบบสุดขั้วในครั้งนี้ว่า
"ใช่ครับ ในเรื่องไซอิ๋ว ผมเป็นพระถังซัมจั๋งซึ่งต้องมีความสงบนิ่งมาก พอมาเรื่องตี๋เหรินเจี๋ยผมรับบทเป็นมือปราบ อวี้จื้อเจินจิน แห่งหอต้าหลี่ ที่สำคัญเขายังเป็นครูสอนกังฟูด้วย บุคลิกลักษณะท่าทางของเขาก็ต้องทะมัดทะแมงสมชายชาตรี ที่สำคัญคือการใช้อาวุธ ก่อนเข้าฉากจริงก็ต้องมีการฝึกฝนท่าทางการต่อสู้ให้สมจริง เป็นการเปลี่ยนคาแรกเตอร์ไปเลย ในเรื่องนี้อวี้จื้อเจินจินได้รับบัญชาจากจักรพรรดินีบูเช็กเทียนให้ไปขโมยพลองมังกรจากตี๋เหรินเจี๋ย ซึ่งเป็นเหมือนเพื่อนพี่น้องร่วมสาบาน ก็ต้องมีการแสดงออกทางสีหน้าแววตาว่าไม่อยากทำ แต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งพระนางได้ ค่อนข้างเป็นอะไรที่ยาก แต่ที่ยากกว่าคือวิชากระบี่ที่ต้องควงให้หมุน ซึ่งเป็นเหมือนท่าไม้ตายประจำตัวของมือปราบท่านนี้ แต่ก็ผ่านไปด้วยดี ก็อยากให้ทุกคนติดตามและลุ้นเอาใจช่วยอวี้จื้อเจินจินให้รอดพ้นจากสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ด้วยนะครับ" เฝิงเส้าเฟิง กล่าว
เตรียมลุ้นไปกับ เฝิงเส้าเฟิงในบ ทมือปราบแห่งหอต้าหลี่ได้ในภาพยนตร์เรื่อง
"ตี๋เหรินเจี๋ย ปริศนาพลิกฟ้า 4 จตุรเทพ" (Detective Dee: The Four Heavenly Kings)
23 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์