ก่อนที่จะมีโอกาสได้มาร่วมงานกันใน Mission: Impossible – Fallout เฮนรี่ คาวิลล์ (Henry Cavill) เคยเกือบจะได้ร่วมงานกับ ทอม ครูซ (Tom Cruise) มาแล้วครั้งหนึ่ง พวกเขาทั้ง 2 คนเคยได้รับข้อเสนอให้มารับบทนำร่วมกันใน The Man From U.N.C.L.E. แต่สุดท้ายครูซก็ขอถอนตัวไปเพื่อโฟกัสกับโปรเจ็คหนัง Mission: Impossible - Rogue Nation (2015) อย่างเต็มที่

ดังนั้นเมื่อได้รับการติดต่อให้มาร่วมแจมใน Fallout ในบทสายลับซีไอเอ ออกัส วอล์คเกอร์ บุรุษที่ลงเอยด้วยการขัดแย้งกับอีธาน ฮันท์ ของครูซ มันก็ทำให้คาวิลล์รู้สึกขอบคุณอุดมการณ์ที่แตกต่างเพื่อบรรลุไปให้ถึงเป้าหมายของตัวละคร 2 ตัวนี้ ที่มีส่วนทำให้เขาได้รับโอกาสที่เคยพลาดไปในการได้มาร่วมงานกับครูซเมื่อไม่กี่ปีก่อน "ผมตื่นเต้นมาก ๆ ที่ในที่สุดก็ได้รับโอกาสให้มาร่วมงานกับทอม" คาวิลล์กล่าว "ทอมเขาจำรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราเคยคุยกันเมื่อก่อนได้อย่างแม่นยำ ซึ่งผมเองจำไม่ได้เลย เขาเยี่ยมไปเลยในจุดนั้น"

แต่นั่นไม่ใช่แค่เรื่องเดียวที่ทำให้ครูซเป็นคนที่เยี่ยมยอด ใน Fallout ของผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รี่ (Christopher McQuarrie) ทั้งคาวิลล์และครูซต่างแสดงฉากโลดโผนหลาย ๆ ฉากด้วยตัวเอง อาทิ การถ่ายฉากเฮลิคอปเตอร์ข้ามเทือกเขาแอลป์ทางตอนใต้อย่างต่อเนื่องกว่า 4 สัปดาห์ในสภาพอากาศหนาวจัดที่นิวซีแลนด์ แม็คควอร์รี่บอกว่าครูซไม่เคยมีปัญหาเลย แม้จะถูกขอให้ทำฉากที่ยากโคตร ๆ และท้าทายโคตร ๆ “เวลาเราสั่งแอ็คชั่น เขาต้องดึงเฮลิคอปเตอร์ให้ต่ำลงมาเพื่อให้เข้าเฟรม ดังนั้นเขาจึงขับเฮลิคอปเตอร์เองจริง ๆ ทำงานกับกล้อง และแสดงทุกอย่างในเวลาเดียวกัน ขณะที่ทุกอย่างกำลังดำเนินไปเขาก็ต้องรับรู้สถานการณ์ของเฮลิคอปเตอร์ทุกลำรอบ ๆ ตัวเขาไปด้วย มันจำเป็นที่ทอมต้องทำหลายหน้าที่ในเวลาเดียวกัน”

คาวิลล์ยังคงจำการที่ต้องต่อสู้กับสภาพอากาศและการถ่ายทำอันดุเดือดได้เป็นอย่างดี เขาบอกว่ามันเป็นการถ่ายทำที่ยากที่สุด แต่มันก็เป็นงานชิ้นหนึ่งที่น่าจดจำที่สุดของเขาด้วย "ตอนนั้นเราบินขึ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมงถึงหนึ่งชั่วโมง และเมื่อเราอยู่ที่ความสูงระดับนั้นแถมยังต้องเปิดประตูไว้อีก คุณจะไม่สามารถได้ยินอะไรเลยนอกจากเสียงใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ ทั้งหมดที่มีคือเสียงที่อยู่ภายในของตัวเองที่กำลังบอกว่า 'ผมหนาว ผมหนาว ผมหนาว'"

การได้เห็นครูซทำงานมันช่วยปลุกพลังให้คาวิลล์ทำงานของเขาได้สำเร็จ "ความไม่รู้จักเหน็ดรู้จักเหนื่อยของทอมคือแรงกระตุ้นอันแรงกล้า ผมไม่เคยเจอใครที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ทั้งในจุดของการเป็นนักแสดงและจุดของการเป็นโปรดิวเซอร์ในเวลาเดียวกันมาก่อนเลย ในช่วงกลางเทคเขาจะเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังในหัวของเขา ขณะที่กำลังทำงาน จากนั้นเขาจะหยุดมันทันที แล้วก็ทำซ้ำอีกเพราะมันอยู่ในหัวของเขา เขารู้ดีว่าสิ่งไหนมันจะตัดออกมาได้ไม่ดี และสิ่งไหนที่เขาต้องการจะตัดมันเอามาไว้ในซีนภายหลัง สมองของเขามันต้องทำงานเป็นล้านไมล์ในหนึ่งชั่วโมง แล้วนั่นมันก็ทำให้คุณอยากจะดึงตัวคุณเองขึ้นมาด้วย" 

Mission: Impossible – Fallout ฉายแล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์

ที่มา: Ew.com