มีเพียงไม่กี่เหตุผลที่ทำให้ทอม ฮาร์ดี้ (Tom Hardy) อยากจะมาร่วมทัพนักแสดงในหนัง Venom ซึ่งเหตุผลแรกก็คือเขาอยากจะลองเล่นหนังซูเปอร์ฮีโร่จากการ์ตูนดูสักครั้ง โดยเฉพาะบทที่มันมีความน่าสนใจ มีอดีตอันซับซ้อน แล้วก็มีจิตใจที่มืดมน เหตุผลที่สองคือ หลุยส์ ลูกชายของเขาเป็นแฟนตัวยงของตัวละครวีนอม แล้วมันก็คงจะดีถ้าลูกไปอวดเพื่อนที่โรงเรียนได้ว่าพ่อของเขาอยู่ในประวัติศาสตร์การ์ตูนอันมั่งคั่งของวีนอมด้วย แล้วว้าว... มันจะไม่สนุกหรอถ้าได้เล่นเป็นทั้งนักข่าวดวงซวย แล้วก็เอเลี่ยนจากต่างดาวที่มาแพร่เชื้ออยู่ในร่างของเขา? แต่จริง ๆ แล้วเหตุผลที่สำคัญที่สุดทำให้เขาตกลงปลงใจมารับบทนี้ก็คือ "ในส่วนของตัวละครต่าง ๆ ของมาร์เวล ผมต้องบอกกับตัวเองเลยว่า วีนอมดูเจ๋งที่สุดแล้ว มันอาจจะฟังดูเป็นเหตุผลตื้น ๆ ไปสักหน่อย! แต่ผมเห็นคุณค่าตรงที่เขามีความกร่างอย่างไร้ยางอาย แล้วก็มีสกิลการวางตัวเป็นสเต็ป ๆ เท่ากับศูนย์"

ทั้งหมดนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ฮาร์ดี้ตกลงเซ็นต์สัญญามารับหน้าที่พาแอนตี้ฮีโร่จากการ์ตูนที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งออกมาโลดแล่นบนจอยักษ์ สังเกตได้ว่าแม้วีนอมอาจจะเป็นตัวเอกของมาร์เวลตัวหนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้มีผ้าคลุมไหล่หรือชุดรัดแน่น แล้วก็ไม่ได้โฟกัสว่าจะต้องทำแต่เรื่องดี ๆ ด้วย ด้านมนุษย์ของเขาคือเอ็ดดี้ บร็อค นักข่าวที่กำลังโซซัดโซเซจากเรื่องอื้อฉาว ด้วยความเข้าตาจนเพื่อที่จะกู้หน้ากลับมาอยู่ระดับท๊อป เขาจึงเริ่มสืบค้นองค์กร Life Foundation และผู้นำลึกลับ ดร.คาร์ลตัน เดร้ก ตัวละครที่รับโดย ริซ อาห์เหม็ด (Riz Ahmed) "มันมีเรื่องของธาตุแท้ของคนเซ่อที่น่าสลดใจ ที่ซึ่งผมได้เจอความสนุกของมัน แล้วมันก็เป็นอะไรที่เข้ากันดีกับงานบางอย่างที่ผมชอบทำด้วย มันมีความสนุกเกี่ยวกับโอกาสในการได้รับของขวัญ แต่มันกลับกลายเป็นของขวัญอันน่าสลด มันเป็นพลังพิเศษที่คุณไม่ได้ต้องการ แต่ในขณะเดียวกันคุณก็ชอบมัน เพราะมันทำให้คุณรู้สึกพิเศษ เขาเป็นฮีโร่ผู้ฝืนใจ และเป็นแอนตี้ฮีโร่"

Venom เป็นหนังภาคแยกเรื่องแรกที่อิงมาจากตัวละครในการ์ตูนสไปเดอร์แมน แม้ว่ามันจะถูกแยกออกมาจากโลกของหนัง Spider-Man: Homecoming งานสร้างจากความร่วมมือระหว่างโซนี่และมาร์เวลก็ตาม ตัวละครนี้ถือกำเนิดขึ้นมาช่วงต้นยุค 80 ที่ซึ่งมันเคยมีความเชื่อมโยงกับปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ก่อนท้ายที่สุดจะกลายมาเป็นตัวละครเอกอีกหนึ่งตัวที่เรารู้จักกันในนามเอ็ดดี้ บร็อค ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาค่อย ๆ พัฒนาจากการเป็นตัวร้ายคู่ปรับของสไปเดอร์แมน มาเป็นแอนตี้ฮีโร่

ผู้กำกับ รูเบน ฟลีซเชอร์ (Ruben Fleischer) บอกว่า "เราคุยเกี่ยวกับมนุษย์หมาป่ากันเยอะเลย รวมถึงสิ่งที่มันเป็นเมื่อคุณได้รับเชื้อ หรือถูกกัดโดยมนุษย์หมาป่า" แต่ถึงแม้ว่าชายคนหนึ่งอาจจะกลายร่างเป็นหมาป่า หรือเจ็คเคิลอาจจะกลายร่างเป็นไฮด์ได้ แต่ทั้งเอ็ดดี้ บร็อค และวีนอมต่างไม่สามารถกลายเป็นใครอีกคนได้ แทนที่จะเป็นแบบนั้น พวกเขากลับจะยึดครองร่างเดียวกันในเวลาเดียวกัน และพวกเขาก็ต้องเรียนรู้อย่างฝืนใจที่จะต้องใช้ร่างร่วมกัน ซึ่งฟลีซเชอร์ได้เสริมว่า "โดยปกติแล้วมนุษย์จะได้ดูดซึมพลัง หรือเอเลี่ยนจากนอกอวกาศจะต้องหาวิธีใช้ชีวิตอยู่บนโลกของเรา แต่นี่มันคือความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 คนที่ต้องทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์ความสัมพันธ์การอยู่ร่วมกันแบบพันธุ์ผสมจริง ๆ"

บทบาทของการอยู่ร่วมกันคือเสน่ห์ที่ดึงดูดใจฮาร์ดี้ และกุญแจสำคัญส่วนหนึ่งในการพัฒนาตัวละครแต่ละตัวก็คือการค้นหาเสียงที่แตกต่างของพวกเขา ฮาร์ดี้บอกว่า "มันคล้าย ๆ เร็น กับ สติมปี้อยู่นิดหน่อย คุณเข้าใจมั้ย? พวกเขามีเสียงที่ต่างกัน ผมมักจะมองวีนอมด้วยการให้เสียงแบบเจมส์ บราวน์ ส่วนเอ็ดดี้ บร็อค จะเป็นแบบ... [ฮาร์ดี้เปลี่ยนมาใช้สำเนียงอเมริกัน] ผมก็ไม่รู้สิ เหมือนชายคนหนึ่งในทุก ๆ วัน แต่เขาได้รับการสืบทอดด้วยอีโก้มหาศาลนี้ บีสต์คนนี้"

Venom พร้อมฉาย 11 ตุลาคมนี้

ที่มา: Ew.com