ผู้สร้างหนัง “สวยผ่าซาก” กลับลำไปง้อ “เปิ้ล ไอริณ” มาเล่นให้ค่าตัวเพิ่ม 1 เท่า เทียบเท่า “ใบเตย” แถมปรับบทให้เด่นกว่าเดิมอีกต่างหาก เผย “ใบเตย-กิ๊บซี่” ถอนตัว ทำเอาหนังพังโฆษณาถอน 14 ล้าน แต่ไม่แคร์มั่นใจหนังไม่เจ๊ง ได้ดาราใหม่เสียบแทนแล้ว รับประกันดังเท่าใบเตย แต่มีภาพลักษณ์ดีมีแต่คนรัก

วุ่นวายกันยังไม่จบหลังจากที่อาร์เอสสั่ง “ใบเตย อาร์สยาม” สุธีวัน ทวีสิน กับ “กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์” ถอนตัวจากหนัง “สวยผ่าซาก” ค่ายกระบิลสิงห์ฟิล์ม เพราะไม่พอใจที่ทางค่ายไม่แจ้งว่ามี “เปิ้ล ไอริณ ศรีแกล้ว” คู่กรณีของใบเตยร่วมแสดงด้วย แม้ว่าทางค่ายจะตัดสินใจปลดเปิ้ลพ้นหนังและเลือกใบเตยก็ตาม

ล่าสุดก็พลิกล็อกอีกแล้วเมื่อจู่ๆ “เต้นท์ ไตรรงค์ กระบิลสิงห์” ผู้บริหารค่ายกระบิลสิงห์ฟิล์ม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้ทาบทามเปิ้ลกลับมาเล่นหนังเรื่องนี้อีกครั้ง และให้ค่าตัวเพิ่มเท่าตัวเทียบเท่าใบเตย เพราะถือเป็นค่าเสียหายที่ผ่านมา งานนี้คงไม่แคล้วโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าจัดฉากสร้างกระแสหนังหรือเปล่า

“เรื่องของเปิ้ลทางค่ายหนังยังไม่ได้แถลงอะไรเลยนิดเดียว มีแต่อาร์สยามแจ้งว่านักแสดงทั้งคู่ถอนตัวออกแล้ว เหตุการณ์วันนั้นมันเป็นอย่างนี้ครับ ตอนนั้นที่บอกให้คุณเปิ้ลถอนตัวเพราะไม่สามารถร่วมงานได้จริงๆ เราติดต่อใบเตยก่อนก็ต้องให้เกียรติใบเตยก่อน ก็เลยให้ทีมงานแจ้งว่าขอไม่มีเปิ้ลนะครับประมาณนี้”

“ส่วนสาเหตุที่ใบเตยกับกิ๊บซี่ถอนตัวก็อย่างที่รู้กันว่าเปิ้ลเขา เข้ามาในงาน ถึงแม้จะแถลงเสร็จแล้วก็ตามแต่พอเปิ้ลเข้ามาทางอาร์สยามเลยถอนตัวศิลปินทั้ง ที ตอนแรกอาร์เอสอยากให้ออกมาแถลงข่าวแต่ขอเรียนตรงๆ ว่า มันไม่ได้เป็นอย่างที่อาร์เอสเข้าใจ เขาให้สัมภาษณ์ว่าค่ายหนังไม่มีมารยาท จริงๆ การทำหนังมีหลายฝ่ายที่คอนแทคส์กันอยู่ ทีมพีอาร์ก็มีทีมนอกที่จ้างเข้ามาเขาก็คอนแทคส์ของเขามา”

“อาร์เอสเข้าใจเหมือนว่าเอาศิลปินเขามากลั่นแกล้ง เขาโทรมาว่าก็รู้ใช่ไหมว่า สองคนไม่สามารถจะร่วมงานกันได้ แต่เรามองในแง่การทำงาน เขาเป็นนักแสดงก็คิดว่าจะร่วมงานกันได้ เป็นนักแสดงพอสั่งแอ็คชั่นก็ทำได้แต่นอกเหนือจากนั้นเรื่องส่วนตัวก็ไม่น่า มีอะไร เขาเป็นนักแสดงก็คิดว่าน่าจะทำได้ เราก็ย้อนคำถามกลับไปว่า ถ้ามีบริษัทจ้างโชว์อีเวนต์สองคนจะเจอกันได้ไหม เขาตอบว่าตรงนั้นแล้วแต่น้องอีกทีว่าจะรับไหม เขาก็บอกว่าพึ่งเจอข่าวก็เลยไม่อยากจะรับ ก็เข้าใจว่าเป็นสตรอรี่กันตั้งแต่แรก แต่เราก็มองในมุมว่านี่มันเรื่องงานเป็นนักแสดงก็น่าจะร่วมงานกันได้”

“อาร์เอสก็อยากให้เราไปพูดชี้แจงให้มีเดียส์ของเขา คือเขาให้พูดบวกกับฝ่ายของเขาทั้งๆ ที่ส่วนตัวเราสิ่งที่อาร์เอสทราบมามันมีทั้งจริงและไม่จริง ถ้าเราไปพูดแบบที่อาร์เอสต้องการก็กลายเป็นคนถูกคืออาร์เอสแต่ค่ายหนังผิด เราไม่ได้มีเจตนาอย่างนั้นก็เลือกที่จะนิ่งดีกว่า ก็รอให้หน้าหนังโอเค 70-80 เปอร์เซ็นต์ค่อยออกมาพูดดีกว่า”

“เขาถอนไปแบบนี้ก็บอกตรงๆ ว่าเราเสียหายเยอะ แค่วันนั้นเราเสียค่าฟิตติ้งไป 280,000 พังหมดเลย เราไม่ได้อะไรเลย และยังต้องมาทำบทใหม่อีก เพราะเราให้บทอาร์เอสไปแล้ว บทมันอยู่ในมือคนอื่นไปแล้วพอเขาถอนตัวเราก็ต้องเปลี่ยนบท ยุ่งยากกว่าเดิมเยอะเลย กำหนดเปิดกล้อง 25 มิถุนายนแต่ตอนนี้ยังไม่เปิดและยังไม่เวิร์คช็อปเลย”

“บางคนก็มองว่าทำไมเราไม่อะไรเลย ทั้งที่เขาถอนทั้งที่เซ็นสัญญาไปแล้ว เรา เสียหายโฆษณาถอนไปเยอะมาก ตอนแรกเราแทบไม่ต้องควักทุนเลย พอวางตัวนักแสดงปุ๊บสปอนเซอร์เข้ามา 22 ล้านแล้ว เราถึงได้ให้ใบเตยกิ๊บซี่เรียกค่าแสดงได้เต็มที่ เราให้เขาเรียกและไม่ต่อแม้แต่สตางค์เดียว แต่พอถอนตัวปุ๊บทำให้โฆษณาตัดออกไปหลายส่วน สปอนเซอร์ที่ได้มาก็เป็นตัวดีๆทั้งเครื่องดื่มอาหารเสริมที่เป็นตัวท็อปเลย พอเป็นแบบนี้ก็โดนถอนไป 14 ล้าน กะเข้าฉายตุลาคมแต่คงไม่ทันแล้ว จะไปฉายธันวาคมก็ไม่เหมาะช่วงนั้นควรเป็นหนังรักไม่ใช่หนังผี สุดท้ายแล้วคิดว่าน่าจะไปฉายปีหน้าเลย”

เผยถึงไม่มี “ใบเตย-กิ๊บซี่” หนังก็ไม่เจ๊ง และได้ทาบทามดาราที่มีชื่อเสียงไม่น้อยหน้าใบเตยกิ๊บซี่ แต่มีภาพลักษณ์ดีมีแต่คนรักมาร่วมเล่นหนัง

“ตอนนี้พระเอกนางเอกก็ติดต่อไว้แล้วรอคอนเฟิร์ม ก็ยังคงคอนเซ็ปต์เซ็กซี่เหมือนเดิม ดาราที่เราติดต่อไปเป็นแนวหน้าวงการภาพยนตร์ กิ๊บซี่กับเตยก็เป็นตัวเด่นอยู่แล้วฉะนั้นคนที่มาแทนก็จะต้องเด่นเหมือนกัน ไม่น้อยหน้ากันแน่นอน แถวหน้าแน่นอน ที่สำคัญเราจะเลือกดาราที่มีคนรักและมีภาพพจน์ดี มีผลงานด้านภาพยนตร์มาแล้วทำให้การถ่ายทำง่ายขึ้น จะได้ลบภาพสร้างกระแสเพราะบางคนใช้คำว่ายืมมือใบเตยกับกิ๊บซี่มาสร้างกระแส เหมือนรู้กันว่าสร้างกระแสนิดนึงแต่ไม่ได้ให้เล่น”

“ผมมั่นใจว่าจะเดินหน้าไปต่อได้และมั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จด้วย บาง คนบอกไม่มีใบเตยกิ๊บซี่จะไม่มีคนดู จริงๆ แล้วละครตอนแรกมีการวางตัวนักแสดงคนนี้แต่พอมีการเปลี่ยนตัวละครก็ยังประสบ ความสำเร็จมีเรตติ้ง ตอนแรกนักแสดงเก่าแต่งผีขอใช้สแตนอิน แต่คนที่จะมาเล่นใหม่ไม่ใช่สแตนอิน เขาเข้าใจเราเจออะไรมาบ้าง เขาก็เต็มที่จะเล่นเองเลยไม่ใช้สแตนอิน ตอนแรกเราคิดว่าจะใช้สตูดิโอแต่ตอนนี้พอนักแสดงทุ่มเทเราก็จะใช้โลเกชั่น จริงหมดเลย ที่พูดกันว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีดาราดีๆ เล่นก็อยากให้ดูกันไป ให้ทุกคนได้รู้ว่านักแสดงที่รับเล่นเขาขนาดไหน”

ง้อ “เปิ้ล ไอริณ” กลับมาเล่นหนังเรื่องนี้อีกครั้ง แถมเพิ่มค่าตัวให้เท่าตัว เทียบเท่าค่าตัว “ใบเตย” และปรับบทใหม่ให้เปิ้ลเป็นตัวเดินเรื่อง

“ที่ติดต่อเปิ้ลกลับไปอีกครั้งเพราะได้มีการพูดคุยกันแล้ว เขาไม่โกรธเขาเข้าใจ และเราก็เคยร่วมงานกันมาแล้วก็รู้ว่าเปิ้ลเป็นคนยังไง เราก็เข้าใจความรู้สึกของเปิ้ล พอติดต่อให้มาร่วมงานกันอีกครั้งก็ให้ค่าตัวเพิ่มเท่านึงเลยเห็นใจเขา ค่าตัวก็เท่าๆ กับใบเตย”

“นอกจากนั้นแล้วเราก็ยังปรับบทใหม่ ให้เปิ้ลเป็นนักแสดงนำ เลย เปิ้ลเล่นเป็นตัวเดินเรื่องคนหนึ่งอาจไม่ใช่นางเอกแต่เป็นตัวเดินเรื่องมี บทบาทสำคัญ และรับรองว่าเซอร์ไพร์สคนดูแน่นอน จะเป็นเรื่องแรกที่เปิ้ลยอมถ่ายเปลือยผ้า เรื่องนี้เปิ้ลจะต้องถอดเสื้อผ้าหมดเลย”

ทำใจพอทาบ “เปิ้ล” กลับมาเล่นอีก คงไม่แคล้วโดนวิจารณ์ว่าที่ผ่านมาร่วมมือกันสร้างเหตุการณ์สร้างกระแส

“เรายอมให้โดนอยู่แล้ว เตรียมทำใจอยู่แล้วว่าต้องโดนอยู่แล้ว พอเป็นข่าววันนั้นก็คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นประมาณนี้ หลายคนบอกว่าเราสร้างกระแส จริงๆ หนังทุกเรื่องต้องการสร้างกระแสแต่เราไม่ได้ต้องการสร้างขนาดนี้ เซ็กซี่มันก็เป็นกระแสแล้ว ใบเตยมาเล่นเรื่องแรกก็เป็นกระแสแล้ว ทุกอย่างมันเป็นความกดดันในการทำงานแต่เราก็จะทำให้ดีที่สุด ถ้าทำได้ประสบความสำเร็จได้ ผ่านวิกฤตนี้มาได้ก็ต้องปรบมือให้กับพนักงานและภาพยนตร์เรื่องนี้”

ที่มา manager.co.th