หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนว่าในวงการฮอลลีวู้ดมีผู้กำกับหญิงเพียง 9 คนเท่านั้นที่ได้รับโอกาสให้กำกับหนังที่มีทุนสร้างกว่า 100 ล้านเหรียญ ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกว่าที่พวกเธอจะมาถึงจุดนี้ได้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าโอกาสส่วนใหญ่มักจะตกไปเป็นของผู้กำกับชายแทบทั้งนั้น แต่ตอนนี้มันถึงยุคของการเปลี่ยนแปลงแล้ว! และนี่คือผู้หญิง 9 คนที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความสามารถและศักยภาพของผู้กำกับมันไม่ได้วัดกันด้วยเรื่องของเพศ
แคทรีน บิกโลว์ (Kathryn Bigelow) จาก K-19: The Widowmaker (2002)
ก่อนที่เธอจะกลายมาเป็นผู้หญิงคนแรก และคนเดียว ณ ตอนนี้ที่สามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จ แคทรีน บิกโลว์เคยเป็นผู้กำกับหญิงคนแรกที่ได้รับโอกาสให้กำกับหนังระทึกขวัญ K-19: The Widowmaker (2002) ที่ใช้ทุนสร้าง 100 ล้านเหรียญมาก่อน
เจนนิเฟอร์ ยูห์ เนลสัน (Jennifer Yuh Nelson) จาก Kung Fu Panda 2 (2011)
เจนนิเฟอร์ ยูห์ เนลสัน ผู้กำกับหญิงชาวเกาหลีใต้ เคยมีโอกาสได้มากำกับแอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ Kung Fu Panda 2 (2011) ด้วยทุนสร้าง 150 ล้านเหรียญ แล้วจากนั้นเธอก็ได้กลับมารับหน้าที่กำกับ Kung Fu Panda 3 (2016) อีกครั้งด้วยทุนสร้างที่ใกล้เคียงกับหนังภาค 2 แต่ในภาค 3 นี้เธอถูกจับคู่ให้มารับหน้าที่กำกับร่วมกับผู้กำกับชายอเลสซานโดร คาร์โลนี่ (Alessandro Carloni)
ลาน่า วาชอว์สกี้ (Lana Wachowski) และลิลลี่ วาชอว์สกี้ (Lilly Wachowski) จาก Cloud Atlas (2012) และ Jupiter Ascending (2016)
สำหรับสองพี่น้องวาชอว์สกี้นี้เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าพวกเธอเป็นผู้หญิงข้ามเพศ โดยลาน่านั้นตัดสินใจแปลงเพศไปตั้งแต่ปี 2012 ก่อนที่ลิลลี่จะตัดสินใจแปลงเพศตามรอยพี่ชายในปี 2016 ทั้ง 2 คนเคยมีโอกาสได้รับหน้าที่กำกับหนังทุนสร้างกว่า 100 ล้านเหรียญมาแล้วถึง 2 เรื่อง นั่นก็คือ Cloud Atlas (2012) ที่ใช้ทุนสร้างถึง 128.5 ล้านเหรียญ และ Jupiter Ascending (2016) ที่ใช้ทุนสร้างถึง 176 ล้านเหรียญ
เจนนิเฟอร์ ลี (Jennifer Lee) ร่วมด้วยคริส บัค (Chris Buck) จาก Frozen (2013)
เจนนิเฟอร์ ลี มีโอกาสได้มากำกับหนังแอนิเมชั่นที่พิชิตใจคนดูทั่วโลก Frozen (2013) ด้วยทุนสร้างถึง 150 ล้านเหรียญ ร่วมกับคริส บัค (Chris Buck) นอกจากจะชนะใจคนดูแล้วหนังเรื่องนี้ยังทำให้ทั้ง 2 คนสามารถคว้าออสการ์สาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมมาครองได้สำเร็จอีกด้วย และแน่นอนว่าพวกเขาทั้ง 2 คนกำลังจะกลับมาร่วมสร้างความประทับใจครั้งใหม่ด้วยกันอีกครั้งใน Frozen 2
แพ็ตตี้ เจนกินส์ (Patty Jenkins) จาก Wonder Woman (2017)
แพ็ตตี้ เจนกินส์ คือผู้หญิงคนที่ 3 ที่มีโอกาสได้มากำกับหนังทุนสร้างกว่า 100 ล้านเหรียญด้วยความสามารถในการกำกับของตัวเธอเองคนเดียว ในผลงานหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่อง Wonder Woman (2017) ที่ใช้ทุนสร้างถึง 149 ล้านเหรียญ แถมหนังเรื่องนี้ยังทำเงินในตลาดอเมริกาไปสูงถึง 412 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
เอวา ดูเวอร์เนย์ (Ava DuVernay) จาก A Wrinkle in Time (2018)
ดิสนีย์มอบความไว้วางใจให้เอวา ดูเวอร์เนย์ มารับหน้าที่กำกับหนังแฟนตาซีฟอร์มยักษ์ A Wrinkle in Time (2018) ด้วยทุนสร้าง 103 ล้านเหรียญ ซึ่งนี่เป็นหนังอีกเรื่องที่ถูกคาดหวังว่ามันจะสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทำหนังรุ่นใหม่ รวมถึงเด็ก ๆ ได้ไม่น้อย
แอนนา โบเดน (Anna Boden) ร่วมด้วยไรอัน เฟล็ก (Ryan Fleck) จาก Captain Marvel (2019)
แอนนา โบเดน และพาร์ทเนอร์คู่ใจของเธอไรอัน เฟล็ก ได้รับความไว้วางใจให้มารับหน้าที่กำกับ Captain Marvel (2019) หนังฉายเดี่ยวที่มีซูเปอร์ฮีโร่หญิงเป็นตัวชูโรงเรื่องแรกของมาร์เวลสตูดิโอ หลังจากทั้งสองเคยโชว์ฝีมือให้เห็นไว้ใน Mississippi Grind (2015) ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลระบุแน่ชัดว่าหนังเรื่องนี้จะใช้ทุนสร้างทั้งสิ้นเท่าไหร่ แต่เชื่อเลยว่าทางมาร์เวลต้องทุ่มเงินมหาศาลให้สมกับความยิ่งใหญ่ของซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนแรกในจักรวาลของพวกเขาที่มีหนังฉายเดี่ยวเป็นของตัวเองอย่างแน่นอน
นิกิ คาร์โร (Niki Caro) จาก Mulan (2020)
นิกิ คาร์โร ผู้กำกับหญิงชาวนิวซีแลนด์ ได้รับความไว้วางใจจากทางดิสนีย์ให้มารับหน้าที่กำกับหนังไลฟ์แอ็คชั่นฟอร์มยักษ์ที่ดัดแปลงมาจากแอนิเมชั่นยอดฮิต Mulan ที่มีแผนจะเข้าฉายในปี 2020
ที่มา: Thewrap.com