คืบหน้าไปเรื่อยๆ แล้ว สำหรับโปรเจกต์หนังฟอร์มใหญ่ที่ผู้กำกับพันล้านจากพี่มากพระโขนง “โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล” ในนามค่ายหนัง “GTH” จับมือร่วมกับซูเปอร์สตาร์เอเชีย “โจวซิงฉือ” หลังได้รับการติดต่อจากโจวซิงฉือในฐานะโปรดิวเซอร์เพื่อให้เขียนบทและกำกับ ภาพยนตร์เรื่องคนกอง ซึ่งเป็นตอนหนึ่งในหนังเรื่องห้าแพร่งให้มาเป็นภาพยนตร์ฉบับเต็ม โดยล่าสุดได้เจอเจ้าตัว โต้งเลยเปิดใจว่าตอนนี้ขั้นตอนการเขียนบทเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแค่แปลเป็นภาษาอังกฤษต่อด้วยภาษาจีน และส่งให้ทางโจวซิงฉือดู ถ้าผ่านปุ๊บก็เริ่มงานโปรดักชั่นกันได้เลย
       
“ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มทำโปรดักชันครับแต่บทเสร็จแล้ว โปรดิวเซอร์ทางไทยให้ผ่านหมดแล้วแฮปปี้กันมาก แต่ว่าทางโน้นยังไม่ได้อ่าน แต่ตอนที่ส่งเป็นเรื่องย่อละเอียดประมาณ 10 กว่าหน้าเขาก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไรนะ แต่ตอนนี้ส่งไปหมดครบทั้งเรื่องแล้วรอให้เขาอ่านอีกที ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนที่ต้องมาแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วแปลเป็นภาษาจีนอีกที ก็เป็นขั้นตอนที่แปลกมาก และตัวผมก็ต้องไปเรียนภาษาจีนด้วย ผมก็ไปเรียนของผมเองเพราะเราอยากฟังเขาให้รู้เรื่องจะได้ทำงานกันง่ายขึ้น”

เผยถ้าผ่านขั้นตอนทุกอย่างครบถ้วนเตรียมเปิดกล้องปลายปีนี้ แต่ขออุบเรื่องงบประมาณ เพราะยังไม่ได้ตีราคา
“เป้าหมายน่าจะเริ่มถ่ายได้ปลายปีนี้ครับ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเลื่อนหรือเปล่า แต่ก็คงไม่เกินต้นปีหน้าคิดว่าน่าจะได้ถ่ายและจะได้ฉายในกลางปีหน้า ก็จะมีไปถ่ายทำทั้งที่จีนและเมืองไท เพราะเนื้อเรื่องมันเกิดที่จีน แต่บางส่วนถ่ายที่เมืองไทยได้เพราะเราจะได้ควบคุมได้หมดเพราะถ้าถ่ายภายใน มันดูไม่ออกอยู่แล้วแต่ภายนอกก็ต้องไปที่จีน ส่วนทีมงานคาดว่าส่วน ใหญ่ต้องเป็นคนไทย เพราะเราต้องเลือกทีมที่เราเคยร่วมงานและคุ้นเคยกันมาเราก็จะมั่นใจมากขึ้น และทางโจวซิงฉือเขาก็ให้สิทธิ์ในการทำหนังเรื่องนี้กับผมเต็มที่ แต่ตัวเขาจะบินมาดูสถานที่เองหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจ แต่น่าจะมีมาบ้างนะ”

“เรื่องงบประมาณยังบอกไม่ได้ครับ (หัวเราะ) เพราะเรายังไม่รู้ด้วยแหละ คือบทเพิ่งเสร็จแล้วทางเราก็ต้องตีราคาก่อน และมันจะมีเรื่องของกฎทางจีนอีกซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะอะไรยังไง ต้องไปถ่ายที่โน่นต้องใช้ทีมงานเขาแค่ไหนเรายังไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้กำลังลุ้นอยู่ว่าเมื่อไหร่จะได้เริ่มโปรดักชั่นจะได้ลงรายละเอียดได้ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน”

เผยเสียดาย ไม่สามารถดึงนักแสดงในสังกัดมาร่วมได้
“ผมก็อยากดึงนักแสดงไทยไปร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้นะ อยากจะให้มีแก๊งค์ เต๋อ (ฉันทวิชช์ ธนะเสวี) เผือก (พงศธร จงวิลาส) เชน (วิวัฒน์ คงราศี) บอมบ์ (กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข) ฟรอยด์ (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงษ์) มาเล่นด้วย เพราะเป็นตัวละครที่ทำให้โจวซิงฉือเขาสนใจในตัวเรา แต่ว่ายังหาช่องทางไม่ได้เลย ก็เลยคิดว่าเป็นไปได้ยากมากเพราะว่าต้องพูดภาษาจีนล้วนๆ ถ้ามีก็คง จะเป็นบทรับเชิญแต่ผมก็รู้สึกว่าไม่คุ้ม เหมือนกับมันไม่ได้มีบทบาทอะไรสักเท่าไหร่ ก็เลยคิดว่าเอาไว้โอกาสหน้าแล้วกัน ครั้งนี้ก็เอาจีนล้วนๆ ไปก่อน ผมก็ไม่ได้นำเสนอไปนะ เพราะผมดูแล้วมันไม่มีช่องทางจริงๆ เราทำหนังให้มันดีที่สุดดีกว่า”

รับเบรกโปรเจกต์หนังไทยไว้ทั้งหมด เพราะต้องทุ่มเวลาให้กับหนังเรื่องนี้
“โปรเจกต์หนังไทยก็คงเว้นไว้ก่อนครับ ต้องทำอันนี้ให้เรียบร้อยก่อน แต่ก็มีคิดๆ ไว้บ้างแล้วครับ แต่คงต้องเอาอันนี้ให้เสร็จก่อน เพราะผมค่อนข้างตื่นเต้นนะ โดยรวมแล้วรู้สึกว่ามันเป็นก้าวที่เราไม่เคยทำเป็นก้าวใหญ่มาก แรกๆ ตอนที่ ติดต่อมาก็ยังไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง แต่พอมันจะเริ่มแล้วก็รู้สึกว่าจริงเหรอวะ (หัวเราะ) แต่ทุกอย่างผมก็ต้องบอกกับทาง GTH ก่อนอยู่แล้วครับ ทาง GTH ก็เริ่มพูดคุยงานกับทางนั้น เรื่องโมเดลการทำงานผมไม่ทราบว่าต้องยังไงบ้างนะ เป็นเรื่องของโปรดิวเซอร์เขาคุยกัน ผมก็มีหน้าที่กำกับดำเนินงานไป”

“ผมทำหน้าที่กำกับคนเดียว และโจวซิงฉือเป็นโปรดิวเซอร์ครับ แต่เรื่องนี้คิดว่าเขาคงไม่แสดงเอง เพราะหลังๆ เขาเล่นหนังน้อยมากๆ แล้ว และด้วยเรื่องก็ไม่ใช่วัยเขาด้วย (หัวเราะ) เพราะออกแนวค่อนข้างวัยรุ่นครับ นักแสดงจะเป็นคนจีนทั้งหมด คือเป็นหนังจีนแผ่นดินใหญ่เลย ใช้ภาษาแมนดาริน จีนกลางเป็นหลัก แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นตอนของการแคสนักแสดงครับ แต่ผมก็มีเริ่มเล็งๆ ไว้บ้าง แต่อาจจะยังบอกไม่ได้ เพราะเราก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ใครยังไงบ้างก็มีบางคนที่ผมกับทางเขาเห็นตรงกัน นะ แต่ต้องรอดูว่าพอบทเสร็จแล้ว คุยกันเรียบร้อยสุดท้ายจะเป็นยังไง เพราะผมต้องเป็นคนไปแคสนักแสดงเองด้วย”

เผยกว่าจะเริ่มโปรเจ็กส์นี้กันได้ ฝั่ง “โจวซิงฉือ” ต้องรอตนมากว่า 4 ปี
“จริงๆ โปรเจกต์หนังเรื่องนี้โจวซิงฉือเขาติดต่อมานานมากแล้วครับ ตั้งแต่สมัยผมยังทำกวน มึน โฮ ไม่เสร็จเลย คือเขาได้ดูหนัง “4 แพร่ง” กับ “5 แพร่ง” ซึ่งตอนคนกอง ของผมจะเป็นตอนที่ตลกหน่อยมั้ง ก็เลยอาจจะเข้าทางเขา พอดีมันเข้าโรงที่ฮ่องกงด้วยเขาได้ดูก็เลยชอบและได้ยินว่าเขาถามหาอีเมลผม จากโปรดักชั่นไทย-จีนเยอะมาก (หัวเราะ) ก็มีคนมาถามหาผมใหญ่เลย สุดท้ายเขาก็ให้ทีมงานส่งเมลล์มาหาผมจนได้”

“เขาเมลมาบอกว่าเขาได้ดูหนังของผมเขาชอบมาก อยากทำหนังจีนที่มีรสชาติแบบนี้ที่เป็นคอมเมดี้และอาจจะมีความสยองนิดหนึ่ง ตอนแรกผมก็คิดว่าจะจริงเหรอ เพราะว่าเขาก็เป็นไอดอลคนหนึ่งของผมนะ ผม ชอบหนังของเขามาตั้งแต่เด็กๆ แล้วพอเขาติดต่อมาเราก็ตื่นเต้น แต่ด้วยความที่เรายังทำไม่ได้ในทันทีก็เลยบอกเขากลับไปว่าขอทำกวน มึน โฮให้เสร็จก่อน และผมก็มีพี่มากพระโขนงต่ออีก ก็เลยรอกันมา 4 ปีแล้วครับ”

“เท่าที่ผมทราบส่วนใหญ่หนังของเขาจะใช้ผู้กำกับที่เป็นคนจีนมาตลอด แต่ เรื่องล่าสุดที่ทำรายได้ถล่มทลายของเขา เขาจะมี Co-Director มากำกับคู่กันเป็นคนฮ่องกง ผมมีโอกาสได้เจอผู้กำกับคนนี้ที่เทศกาลหนังที่อิตาลีด้วย เขาก็กำกับคู่กับโจวซิงฉือเหมือนกัน แต่ว่าอันนี้ผมไม่ได้ไปกำกับคู่กับใคร โจวซิงฉือแค่มาเป็นโปรดิวเซอร์ แล้วผมเป็นผู้กำกับคนเดียว”
 

ที่มา manafger.co.th