TRANSFORMERS: AGE OF EXTINCTION เริ่มต้นหลังจากสงครามครั้งใหญ่ที่ทำให้เมืองพังพินาศ แต่โลกก็อยู่รอดปลอดภัย ในขณะที่มนุษยชาติเริ่มฟื้นตัว ก็มีวายร้ายกลุ่มหนึ่งเผยตัวออกมาพยายามจะควบคุมกระแสประวัติศาสตร์...ขณะที่ศัตรูทรงพลังจากโบราณกาลก็ทำให้โลกต้องเผชิญหน้ากับหายนะอีกครั้ง ด้วยความช่วยเหลือจากมนุษย์กลุ่มใหม่
มาร์ค วอห์ลเบิร์ก (Mark Wahlberg) รับบท เคด ยีเกอร์ ผู้ช่วยเหลือออพติมัส ไพรม์และเหล่าบรรดาออโต้บอททั้งหลายให้มารวมตัวกันได้ ออพติมัส ไพรม์และเหล่าออโต้บอท ก็ต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด ในการผจญภัยที่เหลือเชื่อครั้งนี้ พวกเขาจะต้องต่อสู้ในสงครามระหว่างธรรมะและอธรรม ที่ท้ายที่สุดแล้ว ก็กลายเป็นมหึมาสงครามของโลก
มาร์ค วอห์ลเบิร์ก ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลอคาเดมี อวอร์ดและลูกโลกทองคำจากการแสดงที่โดดเด่นของเขาในภาพยนตร์ชกมวยสำหรับครอบครัวเรื่อง “The Fighter” และดรามาชื่อดังโดยมาร์ติน สกอร์เซซีเรื่อง “The Departed” เขาได้รับบทตัวละครที่หลากหลายสำหรับผู้กำกับวิสัยทัศน์ไกลอย่างเดวิด โอ. รัสเซล, ทิม เบอร์ตันและพอล โธมัส แอนเดอร์สัน การแสดงแจ้งเกิดของเขาใน “Boogie Nights” ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เป็นที่ต้องการตัวสูงสุดในฮอลลีวูด
อาชีพนักแสดงภาพยนตร์ที่น่าทึ่งของเขาเริ่มต้นจากภาพยนตร์โดยเพ็นนี มาร์แชลเรื่อง “Renaissance Man” และ “The Basketball Diaries” ที่แสดงประกบลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ตามด้วยการแสดงประกบรีส วิทเธอร์สปูนในทริลเลอร์เรื่อง “Fear” หลังจากนั้น เขาก็ได้แสดงนำใน “Three Kings” และ “The Perfect Storm” ประกบจอร์จ คลูนีย์และ “The Italian Job” ประกบชาร์ลิซ เธอรอน หลังจากนั้น เขาก็ได้แสดงนำในภาพยนตร์ชีวประวัติเกี่ยวกับฟุตบอลเรื่อง “Invincible” ประกบเกร็ก คินเนียร์และ “Shooter” ที่สร้างจากนิยายเบสต์เซลเลอร์เรื่อง Point of Impact เขาได้ร่วมงานกับผู้กำกับเจมส์ เกรย์จาก “The Yards” และวาคิน ฟินิกซ์ใน “We Own the Night” ซึ่งเขาอำนวยการสร้างด้วย โปรเจ็กต์อื่นๆ ของเขาได้แก่ “The Lovely Bones,“ “The Other Guys,“ “Contraband“ และ “Ted“ ล่าสุด เขาได้แสดงในภาพยนตร์โดยไมเคิล เบย์เรื่อง “Pain & Gain” ประกบดเวย์น จอห์นสัน, “2 Guns” ประกบเดนเซล วอชิงตันและ “Lone Survivor” โดยผู้กำกับปีเตอร์ เบิร์ก ผลงานของเขาหลังจากนี้คือภาพยนตร์โดยรูเพิร์ต ไวแอทเรื่อง “The Gambler”
วอห์ลเบิร์ก ซึ่งเป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่ประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ รางวัลพีบอดี้ อวอร์ดและรางวัลบาฟตา นอกจากนี้ เขายังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์ เก้ารางวัลลูกโลกทองคำและห้ารางวัลเอ็มมีอีกด้วย
นอกเหนือจากเรื่อง to “Entourage,“ “The Gambler,“ “Lone Survivor,“ “Broken City,“ “Contraband,“ “The Fighter“ และ “We Own the Night“ แล้ว เขายังได้ทำหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างซีรีส์เอชบีโอเรื่อง “Boardwalk Empire” รวมไปถึงซีรีส์เอแอนด์อีเรื่อง “Wahlburgers“ และ “Breaking Boston“ อีกด้วย นอกจากนี้ เขายังได้ควบคุมงานสร้างซีรีส์เอชบีโอเรื่อง“Entourage,“ “In Treatment“ และ “How to Make It in America“ อีกด้วย
วอห์ลเบิร์ก ผู้ใจบุญสุนทาน ได้ก่อตั้งมาร์ค วอห์ลเบิร์ก ยูธ ฟาวน์เดชันขึ้นในปี 2001 เพื่อช่วยเหลือเด็กและวัยรุ่นในตัวเมือง