เพื่อให้ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมหนังทุกวันนี้ มันทำให้นักแสดงมากความสามารถอย่างฮิวจ์ แจ็คแมน (Hugh Jackman) ยังคงต้องเผชิญหน้ากับปัญหาทั้ง 3 ด้านอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการร้องเพลง การเต้น หรือแม้แต่การแสดง ถึงแม้เขาจะสามารถต่อสู้ดิ้นรนจนได้มารับบทพี.ที. บาร์นัม ผู้อำนวยการคณะละครสัตว์ผู้เลื่องลือ ในภาพยนตร์มิวสิคอลฟอร์มยักษ์ The Greatest Showman แต่ใครจะรู้ว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้มันไม่ง่ายเลย เขาต้องใช้เวลาถึง 7 ปีในการต่อสู้กับตัวเองเพื่อสร้างผลงานที่น่าประทับใจชิ้นนี้ออกมาให้ชมกัน
"มันขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุดอย่างหนึ่งที่จะทำในวงการฮอลลีวู้ด" แจ็คแมนให้สัมภาษณ์กับ PEOPLE ถึงการพาหนังมิวสิคอลฟอร์มยักษ์เรื่องนี้มาสู่จอภาพยนตร์ "ผมคิดว่าสำหรับสังคมฮอลลีวู้ดแล้วมันเป็นเหมือน ‘มันมีความเสี่ยงเยอะมาก ๆ มันมีอะไรเยอะเกินไปที่จะต้องทำ มันคือความเยอะโคตร ๆ อย่าไปทำอะไรมากไปกว่านี้อีกเลย’ คือผมจะสื่อว่า มันก็มีหนังมิวสิคอลหลายเรื่องแล้ว เห็นได้ชัดอย่าง Les Mis หรือ Mamma Mia แต่หนังมิวสิคอลแบบดั้งเดิมมันเป็นอะไรที่ยากมากจริง ๆ นั่นคือสิ่งที่มันเป็น ใช่แล้ว... 7 ปีมาแล้ว และเราก็มาอยู่ตรงนี้แล้วในตอนนี้"
แม้เขาจะบอกว่าหนังมิวสิคอลมันเป็นเรื่องยาก แล้วมันก็เป็นงานศิลป์ที่มีรูปแบบไม่ธรรมดา แต่การที่ได้ เบนจ์ พาเซ็ค (Benj Pasek) และจัสติน พอล (Justin Paul) ผู้อยู่เบื้องหลังชิ้นงานออสการ์ La La Land เข้ามาช่วยเขียนเพลงประกอบ มันก็ทำให้หลาย ๆ อย่างง่ายขึ้น "พวกเขาคือจังหวะการเต้นของหัวใจสำหรับหนังมิวสิคอลเรื่องนี้" แจ็คแมนพูดถึงพาเซ็คและพอล "เพลงของพวกเขามันดีมากจริง ๆ ... มันให้ความรู้สึกถึงความทันสมัย"
การตามรอยของพี.ที. บาร์นัม มันช่วยนำทางให้กับแจ็คแมนและทีมผู้สร้างในการสร้างสรรค์องค์ประกอบต่าง ๆ ของมิวสิคอลขึ้นมา "เราถามตัวเราเองว่า 'หนังแบบไหนที่บาร์นัมน่าจะอยากทำ?' ตอนนี้เขาไม่ได้ต้องการจะทำองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มันล้าหลังด้วยเพลงจากยุค 1850 เขาต้องการให้เอวาลูกสาวของผมไปดูแล้วรู้สึกว่า 'โอ้! หลงรักเพลงนั้นจัง'"
The Greatest Showman พร้อมฉาย 28 ธันวาคมนี้
ที่มา: Ew.com