นกฟีนิกซ์ตัวนี้ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง! พฤศจิกายนปีหน้า X-Men: Dark Phoenix จะเข้าฉายพร้อมนำเสนอเรื่องราวที่เหล่าสาวก X-Men ต่างเฝ้ารอกันมาอย่างยาวนาน ก่อนหน้านี้ไซมอน คินเบิร์ก เคยพยายามที่จะบอกเล่าตำนานของจีน เกรย์ เกี่ยวกับการต่อสู้ด้วยพลังจิตกับพวกปีศาจที่อยู่ในใจของเธอมาแล้วด้วยบทภาพยนตร์เรื่อง X-Men: The Last Stand (2006) แต่ทางสตูดิโอก็กดดันรวบรัดเรื่องราวของเธอให้ลดลงไปเป็นพล็อตเสริมเท่านั้น คินเบิร์กเพิ่งจะได้เข้ามาชิมรางงานกำกับเป็นครั้งแรกใน Dark Phoenix ลึก ๆ เขาจึงรู้สึกกังวลว่านี่อาจจะเป็นเรื่องราวที่มีแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่ต้องการจะถ่ายทอดออกมา เพราะครั้งหนึ่งไบรอัน ซิงเกอร์ ผู้กำกับหนัง X-Men สองภาคก่อนหน้านี้ก็เคยเลี่ยงประเด็นนี้ไปแล้ว “หนังเรื่องนี้มันชัดเจนมากเลยนะในหัวของผม ทั้งเรื่องของอารมณ์แล้วเรื่องของภาพที่ออกมา ซึ่งนั่นมันคงจะฆ่าผมได้เลยล่ะเพื่อที่จะส่งต่อหน้าที่นี้ให้ใครคนอื่นเข้ามากำกับ”
X-Men: Dark Phoenix เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 1992 ซึ่งเป็นเวลาหลังจาก X-Men: Apocalypse ผ่านไปประมาณ 10 ปี Dark Phoenix จะเปิดเรื่องด้วยเหล่าเอ็กซ์-เมนทั้ง มิสทีค (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์), บีสต์ (นิโคลัส ฮอลท์), สตอร์ม (อเล็กซานดร้า ชิปป์), ไนท์คลอเลอร์ (โคดี้ สมิท-แมคฟี) และควิกซิลเวอร์ (อีแวน ปีเตอร์ส) รวมไปถึงตัวละครใหม่ที่คุณคาดไม่ถึง ชาร์ลส์ ซาเวียร์ (เจมส์ แม็คอะวอย) ได้ขึ้นปกนิตยสาร Time แต่อีโก้ที่เพิ่มมากขึ้นของเขากลับทำให้ทีมต้องเผชิญกับความเสี่ยง “ความภาคภูมิใจคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาอยากเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น แล้วเขาก็เป็นคนที่ผลักดันเหล่าเอ็กซ์-เมนไปเจอกับภารกิจที่ท้าทายยิ่งกว่าเดิม” คินเบิร์กกล่าว หลังจากพวกเขาถูกส่งไปยังอวกาศเพื่อภารกิจในการช่วยเหลือ พลังงานแสงอาทิตย์ก็เล่นงานยานเอ็กซ์-เจ็ท แล้วก็ซัดคลื่นพลังเผาไหม้ที่เป็นอันตรายเข้ามา รวมไปถึงพลังความกระหายที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นฟีนิกซ์ในตัวของจีน (โซฟี เทอร์เนอร์) ด้วย
ยึดจากเรื่องราวบางส่วนในการ์ตูนของคริส แคลร์มอนท์ ฟีนิกซ์จะได้เป็นส่วนสำคัญในซีรี่ย์ชุดนี้บางช่วงบางตอน อย่างครั้งแรกที่เหล่าเอ็กซ์-เมนเดินทางไปนอกโลก แล้วมันก็ยังเป็นเรื่องร้ายซะส่วนใหญ่ด้วย มันจะมีทั้งเรื่องของความมืดมน แล้วก็บทเรียนจากการผจญภัยที่มันจะมีการหักมุมครั้งใหญ่กลางทาง “แน่นอนว่านี่มันเป็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของ X-Men ซะส่วนใหญ่ที่เราได้ทำกันไป แล้วมันก็ใช้เรื่องของความเวทนาเป็นตัวขับเคลื่อนซะส่วนใหญ่ด้วย” แม็คอะวอยกล่าว “มันจะมีเรื่องของความเสียสละแล้วก็ความอดทนอดกลั้นเยอะแยะเลยล่ะ” หนังเรื่องนี้จะกลายเป็นการต่อสู้เพื่อจิตวิญญาณของจีน เช่นเดียวกับการคุกคามของฟีนิกซ์เพื่อที่จะโจมตีจิตใจของเธออย่างฉับพลัน และทำให้เอ็กซ์-เมนแตกหัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างจีนกับชาร์ลส์ที่ปรึกษาของเธอ “มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับทฤษฎีผีเสื้อขยับปีกสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้” เทอร์เนอร์ผู้ที่ได้ศึกษาเรื่องของโรคจิตเภทและความผิดปกติทางจิตใจหลาย ๆ รูปแบบเพื่อมารับบทจีน เกรย์เผย “มันจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนที่คุณรักที่สุดตกลงไปสู่ความมืดมน?”
X-Men: Dark Phoenix มีแผนเข้าฉายในเดือนพฤศจิกายนปีหน้า