"เอ็มพิคเจอร์ส" ผู้จัดซื้อสิทธิภาพยนตร์ต่างประเทศเพื่อนำมาจัดจำหน่ายในประเทศไทยเผย ในอนาคตทางบริษัทฯ มีแนวโน้มปรับเปลี่ยนทิศทางการนำเข้าภาพยนตร์เอเชีย โดยอาจมีการมีการพิจารณายุติบทบาทการนำเข้าภาพยนตร์เอเชียมาฉายภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันภาพยนตร์ประเภทดังกล่าวไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทยเท่าไหร่นัก โดยปัจจัยในการปรับเปลี่ยนทิศทางการนำเข้าภาพยนตร์ของบริษัท อาจต้องพิจารณาจากรายได้และกระแสตอบรับจากแฟน ๆ ที่มีต่อหนังญี่ปุ่นทั้ง 2 เรื่อง อย่าง "Ajin: Demi-Human ฅนไม่รู้จักตาย" และ "Fireworks" ที่มีกำหนดเข้าฉายปลายปี
รัชโยธิน - นายพรชัย ว่องศรีอุดมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มพิคเจอร์ส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางบริษัทฯ ได้นำภาพยนตร์เอเชียเข้ามาฉายเพื่อทดลองตลาดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้รับรู้ถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อการรับชมภาพยนตร์เอเชีย โดยเฉพาะภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ทางค่ายนำเข้ามาฉายทั้ง 2 ประเภท ได้แก่ ภาพยนตร์แนวไลฟ์แอคชั่น (ภาพยนตร์เวอร์ชั่นคนแสดงที่สร้างจากต้นฉบับการ์ตูนหรืออนิเมชั่น) และภาพยนตร์แนวอนิเมชั่น ซึ่งจากการทดลองตลาดทำให้ทราบว่าภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นค่อนข้างมีความเสี่ยงในแง่ของการผลิตที่ทำออกมาไม่ถูกใจแฟน ๆ ขณะที่ภาพยนตร์แนวอนิเมชั่นแม้จะมีความปลอดภัยมากกว่าแต่ยังประสบปัญหาคล้ายคลึงกัน เช่นเดียวกับภาพยนตร์เกาหลีที่ได้รับความนิยมน้อยลงในปัจจุบัน ส่วนภาพยนตร์จีนยังถือว่าได้รับกระแสตอบรับในระดับที่ดี ดังนั้นในอนาคตบริษัทฯ อาจมีการพิจารณาปรับลดจำนวนการนำภาพยนตร์เอเชียลง โดยเฉพาะภาพยนตร์ญี่ปุ่นแนวไลฟ์แอคชั่น และอนิเมชั่น เพื่อให้สอดคล้องและตอบโจทย์กับความต้องการรับชมภาพยนตร์ของผู้บริโภคในประเทศให้มากที่สุด
นายพรชัย ว่องศรีอุดมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มพิคเจอร์ส จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายภาพยนตร์ในประเทศไทย เผยว่า "ในอนาคตบริษัทฯ อาจทำการพิจารณาปรับลดจำนวนหนังเอเชียที่จะนำเข้ามาฉายในประเทศเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในการรับชมภาพยนตร์มากขึ้น โดยเฉพาะภาพยนตร์ญี่ปุ่นแนวไลฟ์แอคชั่นและอนิเมชั่น ซึ่งหลังจากได้ทำการทดลองตลาดโดยการนำหนังทั้งสองประเภทเข้ามาฉายช่วงสามปีที่ผ่านมาพบว่า ภาพยนตร์ไลฟ์แอคชั่นค่อนข้างมีความเสี่ยงในแง่ที่ว่าส่วนใหญ่มักทำออกมาไม่ถูกใจแฟน ๆ ขณะที่ภาพยนตร์อนิเมชั่นนั้นค่อนข้างมีฐานแฟนคลับสนับสนุนและมีความปลอดภัยมากกว่า อย่างไรก็ตามในปัจจุบันภาพยนตร์ทั้งสองประเภทไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไรนักในประเทศไทย ทำให้ในอนาคตเราอาจต้องโฟกัสประเภทหนังที่น่าจะเหมาะกับคนไทยมากขึ้น โดยปัจจัยหลักในการพิจารณาปรับลดจำนวนการนำเข้าภาพยนตร์เอเชียของบริษัทฯ อาจต้องวัดจากกระแสตอบรับจากหนังญี่ปุ่นทั้ง 2 เรื่องของทางค่ายที่มีกำหนดเข้าฉายปลายปี อย่าง "Ajin: Demi-Human ฅนไม่รู้จักตาย" และ "Fireworks" เป็นตัวชี้วัด สำหรับอาจินคือไลฟ์แอคชั่นที่ค่อนข้างจะทำได้ตอบโจทย์แฟนมังงะ และคาดหวังว่าน่าจะได้ผลตอบรับที่ดี ขณะที่ Fireworks เป็นหนังอีกประเภทซึ่งเข้าฉายในช่วงส่งท้ายปีใหม่ที่คาดว่าคนดูน่าจะชอบ"
สำหรับบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด คือผู้จัดซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์ต่างประเทศที่ทำหน้าที่คัดสรรภาพยนตร์ดี ๆ จากทั่วทุกมุมโลกเข้ามาฉายเพื่อมอบความสุขแก่แฟนภาพยนตร์ชาวไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้หนังเอเชียที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ มากที่สุดคือภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง "Your Name" หรือ "Kimi no Na Wa" ที่ทางค่ายฯนำเข้ามาฉายในช่วงปลายปี 2016 ที่ผ่านมา ถือเป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จทั้งในแง่รายได้และกระแสตอบรับจากแฟน ๆ ภาพยนตร์อย่างท่วมท้นจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ฟีเวอร์ที่กวาดรายได้ในประเทศไทยไปทั้งสิ้น 44,381,673.99 บาท
อย่างไรก็ตามอาจต้องรอคอยกระแสตอบรับจากแฟนภาพยนตร์ภายในประเทศที่มีต่อภาพยนตร์เอเชียทั้งสองเรื่องของทางค่าย ที่มีกำหนดเข้าฉายปลายปีนี้
ประกอบด้วยโปรแกรมแรกกับภาพยนตร์เรื่อง "Ajin: Demi-Human ฅนไม่รู้จักตาย" ผลงานแอคชั่นทริลเลอร์ที่สร้างจากต้นฉบับการ์ตูนสุดฮิตที่มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 23 พฤศจิกายน
ตามด้วยภาพยนตร์อนิเมชั่นแนวโรแมนติกดราม่าอย่าง "Fireworks" ผลงานใหม่จากทีมผู้สร้าง Your name ที่มีกำหนดเข้าฉายส่งท้ายปี 2017 ในวันที่ 28 ธันวาคมนี้