ข่าว > ข่าวหนังทั้งหมด > ข่าวหนัง

"มิเคียล ฮิวส์แมน" หนุ่มหล่อสุดเซ็กซี่ ท้าชะตาชีวิตและความรัก ไขปริศนาแห่งกาลเวลาใน "2:22"

5 มิ.ย. 2560 10:46 น. | เปิดอ่าน 1541 | แสดงความคิดเห็น
แชร์หน้านี้ แชร์หน้านี้
 

 

หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นหูนักกับชื่อของ มิเคียล ฮิวส์แมน แต่ถ้าบอกว่าเขาคือหนุ่มเซอร์ เครางาม เจ้าเสน่ห์ ที่ผลงานการแสดงของเขาเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตาของคอซีรี่ย์สุดอีปิคที่โด่งดังระดับโลกอย่าง Game of Thrones (เกมส์ ออฟ โทรน) รวมไปถึงภายนตร์โรแมนติก-ดราม่า ขวัญใจผู้ชม The Age of Adaline (ดิ เอจ ออฟ อดาไลน์) กลับมาคราวนี้เขาขอแท็กทีมกับ เทเรซ่า พาล์มเมอร์ ดาราสาวนัยย์ตาคม หญิงสาวที่ซอมบี้ตกหลุมรักมาแล้วใน Warm Bodies (วอร์ม บอดี้) และร่วมแสดงในผลงานดีกรีออสการ์คุณภาพ Hacksaw Ridge (ฮิกส์ซอว์ ไรด์) ล่าสุดทั้งสองเตรียมควงคู่กันเดินหน้าท้าชนวนเวลาขีดเส้นตายความรักใน "2:22 (ทู ทเวนตี้ทู) ไขปริศนาเวลาเฉียดตาย" ภาพยนตร์ทริลเลอร์-โรแมนติกไอเดียสดใหม่

ณ เวลา บ่าย 2 โมง 22 นาที ดีแลน แบรนสัน (มิเคียล ฮิวส์แมน) มือดีที่สุดของกองควบคุมทางอากาศของสนามบิน JFK นิวยอร์ก ผู้คลั่งไคล้การจัดรูปแบบทุกอย่างให้กับชีวิต พบแสงประหลาดที่ทำให้เขากลายเป็นอัมพาตไปชั่วขณะจนเกือบทำให้เครื่องบิน 2 ลำชนกันกลางอากาศ... เขาถูกสั่งพักงานทันที จากวันนั้นเขายังคงเห็นเหตุการณ์รูปแบบเดิม ๆ ไม่ว่าจะเป็น นักธุรกิจอ่านหนังสือพิมพ์ คู่รักจูบกัน คนท้อง กระจกแตก เสียงเบรก ซึ่งทุกอย่างล้วนนำไปสู่สถานีรถไฟแกรนด์เซนทรัลทุกบ่าย 2 โมง 22 นาที นี่ไม่ใช่แค่เรื่องบังเอิญ แต่มันคือ ปริศนาแห่งเวลา 2:22

ขณะเดียวกันเขาเริ่มมีความสัมพันธ์กับสาวสวยที่อยู่ในเครื่องบินที่เกือบตายยกลำในครั้งนั้นอย่าง "ซาร่า บาร์ตัน" ซึ่งตกหลุมรักกันและกันตั้งแต่แรกเห็น  แต่แล้วการเห็นภาพซ้ำ ๆ ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ดีแลน ต้องใช้พรสวรรค์ที่มีอยู่ไขปริศนาและหาคำตอบจากรูปแบบที่เขาเห็นและดึงตัวเองออกมาให้ได้ก่อนที่ห้วงเวลาแห่งความตายจะมาถึงตัว

 

 

ตัวละครของคุณ ดีแลน เขาเป็นคนยังไง?
ครั้งแรกที่เราได้รู้จักกับ ดีแลน แบรนสัน เขาเป็นคนเก็บตัว เขาดูเป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าฉีกออกไปจากชีวิตประจำวันเขาเท่าไหร่ เขาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศแห่งสนามบินเจเอฟเค หลังจากเกิดเรื่องที่ทำให้เขาเกือบเป็นต้นเหตุของโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ มันนำให้เขาไปสู่สถานีรถไฟ แกรนด์เซนทรัลรูปแบบพวกนี้ยังคงหลอนเขา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินบินผ่านหัว เสียงกระจกแตก เสียงเบรก เหมือนมันพยายามสื่อสารอะไรกับเขาอยู่ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ ๆ ผมว่า เมื่อมองในมุมหนึ่งชีวิตของ ดีแลน เหมือนควบคุมไม่ได้เพราะเขาต้องเจอกับเรื่องพวกนั้นซึ่งมันเริ่มคุกคามเขาขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนอีกมุมคือเขาไม่เคยรู้สึกว่ามีความกระหายในชีวิตมากเท่านี้มาก่อนตั้งแต่รู้จักกับ ซาร่า เมื่อแพทเทิร์นที่เขาพยายามไขความลับเริ่มเป็นภัยกับเขาขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงต้องทำอะไรซักอย่าง และเขาต้องนำมันไปก้าวหนึ่งเพื่อให้ ซาร่า และตัวเขาเองปลอดภัย

แล้วคุณต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อรับบทนี้?
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยและหนึ่งในเหตุผลที่ผมอยากแสดงบทนี้เพราะมันมอบโอกาสให้ผมได้เข้าสู่โลกของตัวละคร ยกตัวอย่างเช่นโลกของการควบคุมการจราจรทางอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อน ผมขึ้นเครื่องบินเกือบทุกอาทิตย์ไปทำงานหลายประเทศทั่วโลกแต่ผมไม่เคยรู้เลยว่ามีคนกี่คนอยู่เบื้องหลังเครื่องบินขึ้นลงแต่ละครั้ง ทันที่ที่ผมบินมาถึงเพื่อถ่ายทำ ผมต้องศึกษาการควบคุมการจราจรทางอากาศ รวมทั้งศึกษาการทำงาน กรอบความคิด และการทำงานร่วมกันเป็นทีม ในที่สุดผมก็ถึงจุดที่สามารถเข้าใจทุกสิ่งที่ผมพูดในหนัง นั่นเป็นก้าวแรกแห่งการเข้าถึงตัวละครคร ทุกเช้าตอนแต่งหน้าผมไล่อ่านหมายเลขเครื่องบิน ซ้ำแล้วซ้ำอีก พอเวลาถ่ายเสร็จผมเหมือนจะฝันเป็นมันเลยเพราะ ดีแลน คงฝันเห็นเลขพวกนี้เหมือนกัน

แล้วการทำงานกับ พอล เคอร์รี ผู้กำกับล่ะเป็นอย่างไรบ้าง?
ผมโชคดีที่ได้บทเรื่องนี้มาอยู่ในมือ ผมรู้สึกว่าการทำงานร่วมกับ พอล เป็นอะไรที่สนุกมาก เป็นโอกาสที่ให้ผมได้ใส่ความคิดตัวเองลงไปในงานและผมตื่นเต้นมากที่ได้โอกาสนั้น ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณพอลด้วยเช่นกัน ในช่วงเตรียมตัวผมติดงานอยู่อีกที่ทำให้ไปเจอ พอล เองลำบาก การคุยกันผ่านสไกป์เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาหนังเรื่องนี้ ก็เพราะเราอยู่ห่างกันคนละซีกโลก เราใช้โปรแกรมนี้คุยกัน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ 6 สัปดาห์ติด เราใช้สไกป์แม้ว่าผมสามารถบินไปเตรียมตัว 2 อาทิตย์ก่อนเปิดกล้องได้ เพราะว่าเวลาแค่นั้นมันไม่พอให้เราเตรียมตัวเพื่อให้แน่ใจว่าเราเก็บรายละเอียดได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย และเพื่อให้คนดูสัมผัสประสบการณ์แบบที่ทีมงานตั้งใจจะนำเสนอ ผมต้องทำให้แน่ใจว่าตัวเองเข้าใจพล็อตเรื่องทุกซอกทุกมุม รู้ประวัติตัวละคร ดีแลน อย่างละเอียด เพราะถ้ามีวันไหนระหว่างถ่ายทำที่เรารู้สึกตันไปต่อไม่ถูก เรากลับมาหวนคิดถึงสิ่งที่เราเคยคุยกันในสไกป์ซึ่งอาจจะมีอะไรที่ทำให้เราเดินหน้าต่อได้ผมไม่เคยมีอิสระที่จะได้พูดกับผู้กำกับว่า เราคุยเรื่องนี้ซีนนี้มาหลายรอบแล้ว แต่พอเล่นจริงมันไม่ใช่ ลองแบบนี้ได้ไหม คุณเห็นด้วยหรือเปล่า และส่วนใหญ่ พอล จะตอบว่า ผมว่าคุณพูดถูก เอาเลย ทำงานกับเขาสนุกมาก

พูดถึงการทำงานร่วมกับ เทเรซ่า พาล์มเมอร์
การเล่นเป็นคู่รักบนจอ เมื่อ เทเรซ่า กับผมลองวิเคราะห์ดูมันพบว่ามันมีซีนที่จะปูความสัมพันธ์ที่พิเศษระหว่าง ดีแลน และ ซาร่า อยู่ หลังจากนั้นทุกสิ่งเหมือนเริ่มพินาศ เรารู้สึกว่าภายในซีนที่เข้าร่วมกันนั้น พวกเราต้องแสดงความรัก ความผูกพัน ความหลงใหลของทั้งคู่ออกมา และเรารู้ว่าวิธีที่ดีสุดคือแสดงสิ่งที่ลึกซึ้งว่าที่หน้ากระดาษเขียนไว้ออกมาซึ่งบ้างครั้งมันเกิดขึ้นเองโดยไม่ต้องพยายามอะไร ผมชอบทำงานกับ เทเรซ่า ผมพอใจกับงานของเราและผมก็ภูมิใจมากที่เราทั้งคู่ค้นพบหัวใจหลักของ ดีแลน และ ซาร่า และทำให้มันมีชีวิตบนจอได้

ตอนคุณเริ่มทำงานในอเมริกาคุณเริ่มจากงานทีวีก่อนต่อด้วยภาพยนตร์ คุณต้องปรับตัวบ้างไหมมีอะไรที่มันต่างจากการทำงานในประเทศเนเธอร์แลนด์บ้านเกิดของคุณบ้าง?
ต่างกันเยอะเลยล่ะครับ ผมเคยรู้สึกแปลกแยกเพราะเรื่องภาษาเพราะภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาแม่ของผมซึ่งต้องใช้เวลาฝึกเป็นปีเลย บางครั้งผมยังรู้สึกเลยว่า "ว้าว เราก็พูดคล่องเหมือนกันนะเนี่ย" หลัง ๆ มานี้ผมเลิกกังวลแล้วล่ะ

แล้วมันใช้เวลาแค่ไหนคุณถึงรู้สึกสบายใจกับมัน?
ประมาณสี่ปี มันเป็นสี่ปีที่ผมได้มาเริ่มทำงานในอเมริกากับเรื่อง Treme ซึ่งช่วงนั้นผมฝึกกับโค้ชด้านการออกเสียงที่นิวยอร์กด้วย

แล้วคุณเคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อนหรือเพิ่งเริ่มเรียนเพราะการแสดงเท่านั้น
ผมเรียนมาตั้งแต่สมัยประถมแล้วเท่าที่จำความได้นะ ด้วยความที่เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่มีชายแดนติดกับหลายประเทศในยุโรป หนังทุกเรื่องไม่มีการพากย์เสียงทับ เด็กโตมาดูหนังพูดภาษาอังกฤษซึ่งมันช่วยได้พอสมควรนะ แต่ผมไม่ได้ฝึกกับโค้ชด้านการออกเสียงจนกระทั่งเรื่อง Treme ซึ่งผมใช้เวลาไม่น้อยเพื่อกำจัดสำเนียงเกิดของผม มันน่าตื่นเต้นมากนะและมันก็ยากไม่แพ้กัน มันเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาแต่ผมไม่เคยหยุดที่จะเรียนรู้

 

 

เกร็ดน่ารู้ของ มิเคียล ฮิวส์แมน
- เกิดเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 1981 ที่อัมสเทลวีน ประเทศเนเธอแลนด์ ใกล้กับอัมสเตอร์ดัม ก่อนเล่นเรื่อง Game of Thrones (2011) ฮิวส์แมนมีบทบาทเล็กน้อยในภาพยนตร์ดัตซ์เรื่อง Black Book (2006) และแสดงเป็น รูดอล์ฟ ในซีรี

ส์เรื่อง Margot (2009) ของ BBC TV
- เป็นผู้ชายคนแรกและคนเดียวที่เคยขึ้นปกนิตยสาร Elle ฉบับเนเธอร์แลนด์
- นอกจากการเป็นนักแสดงแล้วเขายังเป็นนักดนตรีที่ทั้งร้อง ทั้งเล่นกีต้าร์ และแต่งเพลงเอง ในปี 2005 อัลบั้มแรกของเขาที่ชื่อว่า Luchtige Verhalen  วางแผงในประเทศเนเธอร์แลนด์
- เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Chanel no. 5
- มิเคียลได้รับการโหวตให้เป็นผู้ชายหน้าตาดีที่สุดแห่งปี 2016 The most handsome face of 2016 โดย Indipendent Critics
- เขาติดอันดับผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดแห่งปี 2015

 

 

เมื่อ ชะตาชีวิต และ ความรัก ของพวกเขาล้วนถูกกำหนดไว้ร่วมลุ้นไปกับ ดีแลนและซาร่า ในภาพยนตร์ทริลเลอร์โรแมนติกไอเดียใหม่ อย่าง 2:22 (ทู ทเวนตี้ทู) ไขปริศนาเวลาเฉียดตาย พร้อมกัน 29 มิถุนายนนี้ทุกโรงภาพยนตร์

 

: มิเคียล ฮิวส์แมน, 2:22

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ลุ้นไปจนถึงวินาทีสุดท้าย "2:22 เวลาเฉียดตาย" ถ่ายทอดความระทึกผ่านความโรแมนติกแบบไฮคอนเซ็ป
  • มิเคียล ฮิวส์แมน กับกฏสุดเป๊ะของอาชีพ "ผู้ควบคุมจราจรทางอากาศ" ใน "2.22 เวลาเฉียดตาย"
  • ลุ้นตามจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ กับ 5 ที่สุดของความระทึกที่ห้ามพลาด ใน 2:22 ไขปริศนาเวลาเฉียดตาย
  • 5 คาแรคเตอร์ไม่ธรรมดา ของผู้หญิงที่ชื่อ "เทเรซ่า พาล์มเมอร์"
  • 9 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ "มิเคียล ฮิวส์แมน"
  •  
     
     
    ร่วมแสดงความคิดเห็น
     
    ชื่อ :
     
    ความคิดเห็น :