"โสภิตนภา ชุ่มภาณี" กลับมาโด่งดังสุดขีดอีกครั้งกับละครกระแสดีทางช่อง 7 สี ใน "น้ำเซาะทราย" บทบาทเมียน้อย ที่เราไม่เคยเห็นนักแสดงสาวคนนี้ทุ่มสุดตัวกับบทบาทแบบนี้มาก่อน เรียกได้ว่าวันนี้เธอตีบทแตก จนถูกพูดถึงกันอย่างมากมายทั้งในโลกอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่เจ้าตัวเองที่ไปไหนมาไหน มีแต่คนเข้ามาทักทายและพูดถึงละคร กับบทบาทบ้านหลังเล็ก แต่สำหรับชีวิตจริงของเจี๊ยบ โสภิตนภา นั้นต่างจากละครอย่างสิ้นเชิง และเธอมีเคล็ดลับในการดูแลครอบครัวและ เบียร์ (ธิตินันท์ ชุ่มภาณี) และลูกชาย น้องเบเน่ (เด็กชายอภินันท์ ชุ่มภาณี ) ของเธออย่างไรนั้น วันนี้เราไปพูดคุยกับเธอกัน กับทุกบทบาทในชีวิตจริง
การกลับมาเล่นละครอีกครั้งกับทางช่อง 7 ใน น้ำเซาะทราย เจี๊ยบคิดนานมั้ยกว่าจะรับละครเรื่องนี้ ?
ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณ คุณกบ-สุวนันท์ และ คุณหนุ่ม-ศรราม เขานะคะ เขาเป็นคู่ขวัญที่กลับมาลงจออีกครั้ง แล้วก็มีเรานี่แหละพ่วงไปด้วยในฐานะที่เป็นเมียน้อยตัวร้ายในเรื่อง ก็เลยไป ๆ มา ๆ ก็ได้ดีกับเขาไปด้วย ตอนแรกที่เขาติดต่อมาไม่ได้อ่านบทเลย คือติดต่อมาก็รับเลย การที่เขาเอาละครที่เป็นบทประพันธ์อมตะมาทำ ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากเลยค่ะ แล้วพี่หลุยส์ (สยาม สังวริบุตร) โทรฯมาอีก ตอนนั้นนั่งอยู่กับพี่เบียร์พอดี ก็คุยกัน แล้วโทรฯกลับไปหาพี่หลุยส์ ก็รับเล่นเลยค่ะ คือเจี๊ยบไม่อ่านบทเลย รับเลยเพราะเราเชื่อใจพี่หลุยส์อยู่แล้ว เราเคยเล่นกับพี่หลุยส์มาหนึ่งเรื่องทีมงานน่ารักมาก
แล้วพอเห็นบทเป็นยังไงบ้าง ?
เป็นลมไปเลย (หัวเราะ) คือก่อนจะเล่นพี่เบียร์ (สามี) เขารู้อยู่แล้วว่าในเรื่องมีตัวละคร 3 คน ที่เขาเป็นเพื่อนรักกัน แล้วตอนหลังมาแย่งสามีเพื่อน ซึ่งก่อนที่จะถ่ายพี่หลุยส์ เขาบอกว่าขอความหวือหวานะ เขาขอเลิฟซีนด้วยนะ เจี๊ยบก็บอกเลยว่าเรามีลูก เลิฟซีนเราต้องมีขอบเขต พี่เขาก็เข้าใจ ถ่ายออกมาไม่น่าเกลียด คือเราก็เข้าใจในการทำงาน เพราะว่าเราเองก็มีครอบครัวที่อบอุ่น แล้วอายุเราก็ขนาดนี้แล้ว เพราะฉะนั้นการถ่ายทอดออกมาของตัวละครมันดูแล้วเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แล้วอีกอย่างเรื่องนี้ถ้าเราดูให้ดี มันสอนคนด้วยนะ ว่าไม่ได้แล้วเป็นเมียหลวงต้องอย่าหยุดสวย มันสอนกลับมาให้กับคนเหมือนกัน มันเหมาะสมกับวัยเราที่เล่นไปแล้วได้สอนคนดูไปด้วย
ในบทพุดกรอง ตัวเจี๊ยบเล่นไปแล้วมีขัดใจกับตัวละครบ้าง มั้ย ?
เจี๊ยบ ทะเลาะกับพี่หลุยส์ตลอด บางซีนอ่านแล้วพี่หลุยส์ เจี๊ยบทำไม่ได้ แต่พี่หลุยส์เขาเป็นคนทำบทและพัฒนาบทมา เพราะบทบางตอนเจี๊ยบอ่านแล้วก็ไม่เชื่อว่าคนเราจะทำแบบนี้ คิดแบบนี้ มีด้วยเหรอ เขาก็บอกว่าเจี๊ยบ เราจะเอาเจี๊ยบ โสภิตนภา ไปคิดแทนพุดกรองไม่ได้ เจี๊ยบต้องคิดแบบพุดกรองแล้วลุยเลย ตรงนี้ต้องขอบคุณพี่หลุยส์ด้วยนะคะ เพราะมันเป็นสิ่งที่ไกลตัวเรา แต่พี่เขากำกับแบบใกล้ชิดมาก
เสียงตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง ?
วันแรกเลยนะ เหมือนเรากลับไปเล่นละคร เหมือนตอนเด็ก ๆ อีกครั้งหนึ่ง เพราะมันเป็นอะไรแบบชั่วข้ามคืน คือตลกมากเลย วันนั้นไปคุยงานแล้วเราก็แวะซื้อทุเรียนที่ตลาด อ.ต.ก. ไปแบบไม่ได้ตั้งใจ พอเข้าไปในตลาดแม่ค้า เขาก็แซวกันกล้ามาเดินด้วยนะ คือทุกคนน่ารักมาก แซวแบบยิ้มแย้มแจ่มใส แล้วมีอีกวันเจี๊ยบไปเดินสยาม ก็เจอคนตะโกนมาจากไกล ๆ ว่าขอตบทีหนึ่ง เราก็แบบดีใจ คนอินกับละครที่เราเล่น มีคนเดินมาขอถ่ายรูปกับเราเยอะแยะมากมาย ก็รู้สึกดีมากจริง ๆ ค่ะ ที่คนชอบ
มาถึงวันนี้เจี๊ยบ คิดว่าตัวเองยังต้องปรับปรุงอะไรบ้างในเรื่องของการแสดง ?
ทุกครั้ง เจี๊ยบไม่เคยพอใจในสิ่งที่ตัวเองทำหรอก คือเจี๊ยบเป็นคนพูดเร็วมาก แล้วเวลาที่เราเล่นละคร เราต้องพูดช้าลง คนในอินเทอร์เน็ตเขาก็ว่า เจี๊ยบจะพูดอะไรเป็นห้วง ๆ เจี๊ยบยอมรับนะ ขอโทษจริง ๆ เลย คือเจี๊ยบเป็นคนพูดเร็ว ไม่มีช่องไฟ แล้วในละครมันต้องค่อย ๆ พูด ตรงนี้ยอมรับเลยว่าวันนี้อายุ 40 กว่าแล้วยังเว้นวรรคไม่ค่อยเป็น พี่หลุยส์ บอกเสมอว่าต้องไปเรียนเดี๋ยวนี้ เจี๊ยบก็คิดนะว่าสักวันหนึ่งคงต้องไปเรียนจริง ๆ บางฉากเจี๊ยบก็ทำได้ดี แต่บางฉากก็ยังพูดเป็นห้วง ๆ อยู่ เจี๊ยบก็จะพยายามปรับปรุงไปเรื่อย ๆ นะคะ
ถ้าในชีวิตจริงเจอแบบในละคร เจี๊ยบจะทำยังไง ?
เจี๊ยบขอพูดนะ บางคนที่ดูละครแล้วก็จะมีแบบทีมเมียหลวง ทีมเมียน้อย ทีมคุณภีม จริง ๆ ในชีวิตจริงเราไม่รู้เลยว่าเรื่องราวในความรักของคนแต่ละคน หรือจะของคน 2 คน 3 คน 4 คน เราไม่มีทางรู้เลยว่าใครผิดใครถูก หรือเขามีเหตุผลอะไร ในความสัมพันธ์ของแต่ละคู่ แต่ในเรื่องละครเราว่ากันได้ แต่ในชีวิตจริงเราไม่มีทางรู้เลย ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนเหล่านั้น เพราะฉะนั้นเจี๊ยบจะไม่ใช้คำพูดที่แรงมาก เพราะเราไม่รู้ในความสัมผัสเหล่านั้นเป็นยังไงจริง ๆ
ในชีวิตจริง ตัวเจี๊ยบเอง เคยมีระแวงอะไรสามีตัวเองบ้างมั้ย ?
ความหวาดระแวงมันมีอยู่แล้วนะคะ แต่เจี๊ยบอยู่กับพี่เบียร์มา 14 ปี มันต้องมีบ้างที่เราเอ๊ะ อ๊ะ แต่เราก็ต้องประคับประคองกันไป เจี๊ยบเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ที่การหักห้ามใจ ทุกคนมันมีเสียงสีแสงเข้ามาอยู่แล้ว แต่ถ้าเราทำสถาบันครอบครัวของเรามันให้อบอุ่น และเราดูน้ำเซาะทรายแล้วเราคิดได้ ดูละครแล้วย้อนดูตัวเอง เจี๊ยบว่ามันทำให้ลดความเสี่ยงตรงนั้นได้
เจี๊ยบ มีเคล็ดลับยังไงในการดูแลครอบครัว ประคับประคองความรัก ?
พี่เบียร์เขาเป็นคนไม่ปล่อยเรา ไม่ให้เราหลงในแสง สี เสียง จริง ๆ เราเคยอยู่ในช่วงที่เราดังที่สุด และเราเคยอยู่ในช่วงที่เฉย ๆ มาก เราอยู่ในช่วงที่เราเปลี่ยนบทบาทไปหลายหน้าที่มาก 14 ปีที่ผ่านมาเจี๊ยบก็ผ่านอะไรมาเยอะ และเจอคนมาเยอะ แต่พี่เบียร์เขาจะอยู่ในทุกช่วงของชีวิตเรา เขาจะคอยดูแล เขาจะคอยตาม เจี๊ยบว่าดีนะ ไม่ใช่ต่างคนต่างไปไหนก็ไม่รู้ ไปรู้จักคนโน้นคนนี้ แล้วพอกลับมาบ้าน กลายเป็นว่าเรารู้จักกันน้อยลง พี่เบียร์เขาจะแบบไม่ยอมปล่อย เราต้องกลับบ้านไปกินข้าวเย็นด้วยกัน เสาร์ อาทิตย์ต้องอยู่ด้วยกัน มีเพื่อนก็พามาที่บ้านให้มารู้จักกันให้หมด ซึ่งเจี๊ยบว่าสำคัญนะ ไม่ใช่ออกไปไหนไม่รู้แล้วก็กลับมาบ้านไม่พูดกัน แบบนั้นมันยิ่งทำให้สถาบันครอบครัวแตกแยก สำหรับเจี๊ยบ สิ่งที่พี่เบียร์ทำให้มาตลอด 14 ปี คอยตาม คอยเช็ก เป็นห่วง มันทำให้เราอยู่กันอย่างมีความสุข เข้าใจกัน ครอบครัวอบอุ่น ซึ่งเจี๊ยบว่าสำคัญ
ลูกชายเราได้ดูละครมั้ย ?
ไม่ให้ดูเลย แรก ๆ เขาก็แบบทำไมเขาดูไม่ได้ เราก็บอกเดี๋ยวโตขึ้นค่อยดูเขาเข้าใจนะ เราจะเล่าให้เขาฟัง แล้วเขาตามไปกองถ่ายบ่อยมาก เพราะฉะนั้นเขาจะรู้ว่า สิ่งที่เจี๊ยบทำอยู่ไม่ใช่เรื่องจริง พุดกรอง ไม่ใช่แม่เขา แล้วทุกคนที่โรงเรียนก็น่ารักมาก มีมาแบบดูละครแม่ด้วยนะ ฝากบอกแม่ด้วยนะ ว่าชอบมากเลย ละครสนุก คือเขาไม่มาพูดอะไรที่ทำร้ายจิตใจลูกเรา คือคนสมัยนี้เขาจะแยกแยะได้ ลูกเราก็ภูมิใจ กับคำชมเหล่านั้นด้วย
วันนี้ยังคงเป็นคุณแม่ยังสาวและสวยมาก เจี๊ยบดูแลตัวเองยังไง ?
ต้องขอบคุณพี่เบียร์เนอะตรงนี้ เพราะตั้งแต่เด็ก ๆ นะ เขาจะให้ออกกำลังกายตลอด แต่เรื่องอาหารไม่เคยให้คุม เจี๊ยบอยากกินอะไรกิน แต่ให้ออกกำลังกาย แล้วเขาก็จะพาเราไปกินของอร่อย ๆ แต่พอกินอิ่มแล้วเราก็ต้องหาเวลาออกกำลังกาย แล้วตอนนี้พออายุมากขึ้น ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเราก็จะเหมือน 20 แล้ว พี่เบียร์เขาก็จะคอยแซะเราออกจากเตียง ให้ไปวิ่ง ตัวเขาเองก็ออกด้วย ลูกก็ออกด้วย เพราะฉะนั้นยังไงเจี๊ยบก็ไม่อ้วนแน่ ส่วนหน้าตา ถึงเราป่วยหรือไม่ป่วย จะดังหรือไม่ดังแล้ว เราก็ต้องดูแลตัวเองอยู่เสมอค่ะ คือไม่อยากแก่ (หัวเราะ)
แล้วการแต่งตัวละคะ เจี๊ยบเป็นคนตามแฟชั่นหรือเปล่า ?
เจี๊ยบจะมีแฟชั่นของตัวเอง เราเป็นผู้หญิงที่มีคาแรกเตอร์แบบหนึ่ง เราก็ไม่พยายามที่จะแต่งตัวเหมือนคนอื่น แต่แต่งตัวแบบที่เราเป็น เลือกเสื้อผ้าแบบที่เราชอบ เราเคยพยายามแล้วที่จะใส่กระโปรงยาว แต่ก็ไม่รอด เราก็ต้องดูอะไรที่เหมาะกับเรา ไม่ได้ตามแฟชั่นทุกอย่าง คือเจออะไรที่เหมาะกับเราก็ซื้อเก็บไว้ แล้วก็เอามาใส่กับโน่นนี่ ที่เรามั่นใจและดูดีในแบบของเรา เจี๊ยบเป็นคนที่ใส่เสื้อผ้าซ้ำนะคะ ไม่ได้แบบแฟชั่นจ๋า เจี๊ยบไม่ได้เป็นคนที่ซื้อเสื้อผ้าแพงเสมอ แต่เป็นคนที่เลือกซื้ออะไรที่เหมาะกับเรามากกว่า
นอกจากงานละครแล้วเห็นตอนนี้ทำธุรกิจอยู่ด้วย ?
ค่ะตอนนี้ก็มีทั้งงานละครที่เราเป็นผู้จัด เร็ว ๆ นี้ก็จะมาทำให้กับทางช่อง 7 ด้วยนะคะ ส่วนเรื่องธุรกิจอย่างลาวิช ตอนนี้ก็เตรียมที่จะส่งออกไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน คือทุกอย่างเจี๊ยบก็จะทำให้สุด กับลาวิช เจี๊ยบรู้สึกภูมิใจทุกครั้งนะคะ ที่เวลาคนส่งข้อความเข้ามา แล้วบอกว่ากินลาวิช แล้วเขาดีขึ้น มันเป็นความภูมิใจของเราจริง ๆ เพราะอย่างที่บอกกว่าจะเป็นลาวิชได้ เจี๊ยบลองแล้วลองอีก ลองด้วยตัวเองจนออกมาเป็นตัวนี้ ก็อยากจะให้ทุกคนสุขภาพดีเหมือนกับเรา ส่วนละคร เจี๊ยบก็ตั้งใจเต็มที่ทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องบท ตัวนักแสดง ก็อยากให้ทุกคนรอติดตามกันนะคะ