ก่อนที่ “ฮิวจ์ แจ็คแมน” จะได้รับบทเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ “วูล์ฟเวอรีน” ดาวเด่นแห่งกลุ่ม X-Men อันเป็นบทเด่นที่สุดในชีวิต และส่งให้เขากลายเป็นนักแสดงระดับโลก เคยมีนักแสดงที่ “เกือบ” คว้าบทนี้มาแล้วหลายคน
ก่อนจะโด่งดังอยู่ในระดับแถวหน้าของฮอลลีวูด, คว้ารางวัลใหญ่มามากมาย และเป็นพิธีกรงานใหญ่ทั้งออสการ์ และโทนี นักแสดงชาวออสเตรเลีย ฮิวจ์ แจ็คแมน สามารถแจ้งเกิดได้จากบท วูล์ฟเวอรีน ในหนัง X-Men ภาคแรกเมื่อ 15 ปีก่อน ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นตัวเลือกแรกสำหรับบทนี้ด้วยซ้ำไป
อันที่จริงแล้วผู้กำกับ ไบรอัน ซิงเกอร์ เคยหมายตา รัสเซล โครว์ เอาไว้ในบท วูล์ฟเวอรีน แต่ โครว์ ก็บอกปัดข้อเสนอไปในที่สุด เพราะไม่พอใจในค่าตัว หลังจากนั้นทางผู้สร้างจึงมองไปที่ตัวเลือกอื่น ที่ข่าวระบุว่ามีทั้ง แอรอน แอ็คฮาร์ต, ฌอง-คล็อค แวน แดมม์, วิกโก มอร์เทนเซน และ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน ส่วนทาง Fox ที่เป็นผู้สร้างก็สนใจอยากให้ เคียนู รีฟส์ กับ แกรี ซีนีส มารับบทนี้มาก
ก่อนที่บท วูล์ฟเวอรีน จะมาลงตัวที่นักแสดงชาวสก็อตแลนด์ ดูเกรย์ สก็อตต์ จนมีการเซ็นสัญญากัน ซึ่งสัญญายังครอบคลุมไปถึงหนังภาคต่อไปด้วย แต่ด้วยปัญหาเรื่องตารางการทำงาน เพราะเขารับงานแสดงในหนัง Mission Impossible II ไปก่อนหน้านั้นแล้ว สก็อตต์ จึงต้องถอนตัวจากบทนี้ไปอีกคน
ในที่สุดบท วูล์ฟเวอรีน จึงมาตกอยู่กับนักแสดงชาวออสเตรเลียที่ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นที่รู้จักในวงกว้างที่ชื่อว่า ฮิวจ์ แจ็คแมน โดยเขาถูกเลือกให้รับบทนี้ก่อนที่หนังจะเปิดกล้องเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น
นอกจากนักแสดงเหล่านี้แล้วดารารุ่นใหญ่ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนอย่าง บ็อบ ฮอสกิน ก็คืออีกคนที่เกือบจะได้แสดงเป็น วูล์ฟเวอรีน ด้วย
ย้อนหลังไปเมื่อปี 1990 เจมส์ คาเมรอน เพิ่งจะเปิดสตูดิโอผลิตภาพยนตร์ Lightstorm Entertainment ของตัวเองขึ้น และ คาเมรอน เคยเชิญทั้ง คริส แคลร์มอนต์ ผู้แต่งหนังสือการ์ตูน X-Men และ สแตน ลี มาที่ออฟฟิศของตัวเอง เพื่อระดมไอเดียในการสร้างหนัง X-Men ขึ้น
โดยตอนนั้น คาเมรอน คิดว่าเขาจะมอบหมายให้ แคตเธอริน บิเกโลว์ ที่คบหาดูใจกับเขาอยู่ในช่วงนั้นให้เป็นผู้กำกับ และยังวางตัวนักแสดงนำในหนังเอาไว้บางโดยมองว่า แอนเจลา แบซเซ็ต น่าจะเหมาะกับบท สตอร์ม ส่วนบท วูเวอร์รีน นั้นวงสนทนาในวันนั้นคิดว่าน่าจะติดต่อนักแสดงร่างเล็ก บ็อบ ฮอสกิน ให้มารับบท
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายโครงการหนังเรื่องนี้ก็เป็นแค่ไอเดีย ที่ล่มไปในเวลาอันรวดเร็ว ก่อน X-Men เวอร์ชันภาพยนตร์จะสำเร็จออกมาในอีก 9 ปีต่อมา
ขอบคุณข่าวจาก :: http://www.manager.co.th/