หลังจากที่ตกเป็นข่าวมาพักใหญ่ สำหรับม่ายสาว วุ้นเส้น "วิริฒิพา ภักดีประสงค์" กับข่าวการหย่าร้าง "ชาคริต แย้มนาม" ที่เข้าพิธีวิวาห์กันไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในวันนี้เส้นทางรักของเธอได้จบลง จึงไม่แปลก ที่หลายคนหันมาจับตามอง กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของเธอ และในวันนี้พิเศษอีกครั้งกับการเปิดใจแบบเต็ม ๆ หลังจากที่กลับมาใช้ชีวิตเพียงลำพัง เอาล่ะ...เราไปคุยกับ วุ้นเส้น - วิริฒิพา กับชีวิตที่ผ่านมาในวันฟ้าหลังฝน
ที่มา: ดาวต่างมุม เดลินิวส์
ตั้งแต่ชีวิตอิสระ เป็นยังไงบ้าง?
ก็เหมือนเดิมเลยค่ะ มันก็แค่แบบอาจจะไม่มีใครที่เราต้องดูแล หรือว่ามีใครมานั่งห่วงอะไรมากมาย แต่จริง ๆ เราก็ห่วง เขาอยู่นะ แต่ว่าตอนนี้มันกลายเป็นว่า เราทำอะไรก็ต้องทำคนเดียว ตัดสินใจอะไรคนเดียว หรือทำกับเพื่อน ถามว่าตอนนี้แฮปปี้มั้ย ก็แฮปปี้ดีนะ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ วุ้นยังอยากจะแต่งงานกับชาคริตมั้ย?
แต่งสิ เรารักกันถึงแต่ง การที่เราเลิกกันมันไม่ใช่ความผิดพลาดอะไรนะ มันเหมือนเป็นการแบบที่เราทั้งคู่แก้ปัญหาที่เรามีกันไม่ได้ เราก็เลยหยุดปัญหาตรงนี้เลยดีกว่า ที่จะแบบทำปัญหามันยาว หรือเลยไปถึงจุดที่มองหน้ากันไม่ติด คือการที่เราแต่งงานกัน ก็เพราะรักกัน เขารักเรา เรารักเขา ไม่ได้แต่งเพราะคิดอะไร จริง ๆ การแต่งงานมันเกิดจากความรักอยู่แล้ว
คิดนานมั้ยกว่าจะตัดสินใจเซ็นใบหย่า?
ไม่ได้แบบคิดนานหลายปีหรืออะไร มันคือสิ่งที่เราค่อย ๆ คุยกันมาตลอด ก็คิดแล้วว่าแยกกันตอนนี้ดีกว่า ดีกว่าที่จะปล่อยให้เนิ่นนานไป ถ้ามีลูกขึ้นมาอีกก็ลำบาก แต่ถามว่าเราพยายามที่จะปรับจูนกันหรือยัง อย่างที่เป็นข่าว ว่าเราพยายามปรับกันมาตลอด ไม่ว่าคู่ไหน คือก็ปรับกันมาหลายปี ทุกคู่ก็ต้องมีการปรับ ที่ผ่านมาเราก็เก็บไว้เยอะเหมือนกันหลายปี แต่ช่วงปีหลังอย่างที่เป็นข่าวขึ้นมา เราก็พยายามปรับทุกครั้ง คือเราก็ปรับกันตั้งแต่เดือนแรกที่เราแต่งงานกัน แต่ถามว่ามันยากมั้ย ก็ไม่ได้ยากมากเพราะว่ามันมีบางเรื่องที่เราเข้ากันได้มาก ๆ แต่เรื่องบางอย่างที่เป็นตัวเขามาก ๆ อะไรที่เป็นตัวเรามาก ๆ มันก็เข้ากันไม่ได้ เราก็เลยมาคุยกัน เรามาให้เวลากันมากขึ้น เพราะว่าเราทั้งคู่ทำงานทั้งคู่ เวลาเติมเต็มมันก็น้อยกว่า แต่เราก็พยายามที่จะหาเวลาให้กันมากขึ้นในตอนนั้นนะ วุ้นยอมรับว่าถ้าวุ้นเป็นแม่บ้านเหมือนคู่อื่น ๆ มันจะไม่มาถึงวันนี้ก็ได้ วุ้นอาจจะไม่เลิกกับเขาก็ได้ แต่พอดีว่าเราเป็นผู้หญิงทำงาน เขาเป็นผู้ชายทำงาน เพราะฉะนั้นต่างคนต่างทำงาน แล้วพอมีอะไรมันก็เลยยากที่จะปรับจูนกันนิดหนึ่ง
ตั้งแต่โสด ดูจะเนื้อหอมมาก?
จริง ๆ คนที่เป็นข่าวก็เป็นเพื่อนเราอยู่แล้ว พอเราโสดเรา ไปอยู่ใกล้ใครก็เป็นข่าวได้หมด ซึ่งเป็นข่าวได้หมด กับหลวงก็รู้จักมานานแล้ว วุ้นพอเป็นโสดก็ไปเที่ยวกับเพื่อนกลุ่มเดิม แล้วเพื่อนแก๊ง พวกนี้เราเที่ยวกันมาก่อนที่จะรู้จักพี่คริตอีก แต่พอแต่งงานเราก็ ห่าง ๆ จากแก๊งพวกนี้ไป พอกลับมาเที่ยวใหม่คนก็สงสัยว่าเอ๊ะ ต้องแบบมีใครแน่เลย มันก็เรื่องปกติที่มีคนอยากรู้ และคงเห็นว่าพี่คริตมีข่าวแล้ว ก็ให้วุ้นมีบ้าง
เข็ดกับความรักมั้ยคะ?
ไม่เข็ดหรอก และก็ไม่รีบ วุ้นว่าความรักมันก็เป็นสิ่งที่ดี ทำให้เรามีความสุข แต่วุ้นไม่ได้รีบว่าจะต้องเป็นแฟนกับใครทันที วุ้นไม่ได้โหยหาความรักขนาดนั้น วุ้นรู้สึกว่าวุ้นมีความสุขกับเพื่อน วุ้นรู้สึกว่าอยู่กับเพื่อนผู้หญิงไปไหนมาไหนกันตลอด กินข้าว ดูหนัง แล้วถ้าใครจะเข้ามา เขาคงจะต้องชอบเรามาก ๆ ถึงจะแบบเข้ามาจีบ เพราะเราเคยแต่งงานแล้ว คนทั้งประเทศก็รู้ เพราะฉะนั้นคนที่จะเข้ามาเขาต้องแมนนิดหนึ่ง ถ้าเข้ามาแล้วคบเรากลัวดูไม่ดี วุ้นก็ไม่มองคนแบบนั้นอยู่แล้ว ก็คงมองที่เขาจริงใจแค่ไหนมากกว่า
วุ้น มีข้อจำกัดในเรื่องของความรักมากขึ้นมั้ยคะ?
จริง ๆ ไม่ถึงขนาดมีสเปกหรือคาดหวังอะไร เพราะทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตวุ้น มันเกิดขึ้นแบบธรรมชาติ เกิดจากโชคชะตา เพราะวุ้นไม่ได้ไปไขว่คว้าว่าให้เกิดความรัก ความสัมพันธ์ในสิ่งที่เราชอบ หรือเจอผู้ชายในแบบที่เราชอบ แต่ถ้าเจอจริง ๆ ก็ถือว่าโชคดี
วันหนึ่งถ้าได้เจอคนที่ใช่อีกครั้ง แล้วเขาขอแต่งงาน วุ้นจะแต่งมั้ย?
วุ้นไม่ได้กำหนดว่าจะต้องแต่งไม่แต่ง ถ้าคนที่เข้ามาเขาอยากแต่ง วุ้นก็แต่ง แต่ถ้าคนที่เข้ามาอยากเงียบ ๆ เราก็รับได้หมด เพราะเราสายชิล เอาที่สบายใจเพราะวุ้นไม่อยากจะให้คนที่อยู่กับวุ้นเขาไม่สบายใจ อึดอัด มีความรักอะ ทัศนคติของวุ้นคือ ถ้ามีแล้วอึดอัดไม่สบายใจอย่ามี จุดมุ่งหมายของความรักคือเราอยู่ด้วยกันแล้วต้องมีความสุข ไม่ใช่มาคอยนั่งจับผิดกัน ทะเลาะกัน คือมันเติมเต็มกันและกัน
พร้อมจะมีลูกเลยหรือเปล่า?
วุ้นแต่งงานกับใคร วุ้นก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์ มีลูกพร้อม ไม่ใช่วุ้นไม่อยากมีลูก แต่วุ้นแค่อยากแก้ปัญหาก่อน เพราะว่าถ้าปัญหาที่เราเป็นยังแก้ไม่ได้ เนี่ยแล้วพอมีวันนี้ขึ้นมา ถ้ามีลูกมันก็ลำบาก แต่ถ้าอนาคตก็ต้องแน่ใจจริง ๆ ว่าเรามีจุดยืนเหมือนกัน เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ถ้าเจอคนนั้นแล้ววุ้นก็พร้อมที่จะเป็นภรรยาที่ดี 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน แต่วุ้นไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอหรือไม่เจอ หรือเราอาจจะเป็นโสดไปตลอดก็ได้ มันเป็นเรื่องของอนาคตที่ตอบไม่ได้จริง ๆ
เรื่องที่เกิดขึ้น ทางคุณพ่อ คุณแม่เขาว่าไงบ้าง?
วุ้นต้องขอบคุณพ่อ แม่ ที่เขาเลี้ยงเรามาแบบนี้ หนึ่งเราเป็นผู้ใหญ่เร็ว เราตัดสินใจเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาใคร แล้วเป็นคนเข้มแข็ง เขาเลี้ยงเรามาถูก ถามว่าช่วงที่ผ่านมามีปรึกษาที่บ้านมั้ย ก็มีนะ แต่ไม่ขนาดที่ว่าให้เขาตัดสินใจให้ หรือว่าให้เขาเห็นความเจ็บของเรามากมาย เพราะว่า จริง ๆ แล้วสุดท้ายเราอยากให้พ่อ แม่ เห็นเรามีความสุขมากกว่า ที่ผ่านมาเขาก็ให้กำลังใจตลอด ให้เราตัดสินใจเอง ไม่เคยบังคับอะไร เพราะเขารู้ว่ายังไงเราก็ผ่านไปได้
ในฝั่งของคุณแม่ ชาคริต เขาว่าอย่างไรบ้างในช่วงนั้น?
คุณแม่พี่คริต เขาไม่ค่อยสบาย เราก็ไม่อยากจะเอาเรื่องของเราไปกวนใจเขา อยากให้เขารับรู้แต่เรื่องดี ๆ สบายใจ ถามว่าไปเยี่ยมคุณแม่พี่คริตบ้างมั้ย ก็มีบ้าง แต่ว่าเวลามันไม่ได้ตรงกัน และช่วงที่ผ่านมาวุ้นอยากให้พี่คริต กับวุ้น เยียวยาตัวเองไปก่อน เราพุ่งไปก็ไม่ดี แต่ยังรักและเคารพเหมือนเดิม
สุดท้ายให้วุ้นฝากถึงผู้หญิงที่ผ่านเรื่องราวแบบเราหน่อย?
จริง ๆ ในโลกนี้ไม่ได้มีแต่รักที่สมหวังเนอะ แล้วก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จในเรื่องของความรัก แต่ทุกคนต้องมีวันต่อไป เราต้องคิดว่าเราจะทำยังไงให้เรามีความสุขอีก แต่หาจุดนั้นให้เจอว่าความสุขนั้นของตัวเองคืออะไร ปัญหานั้นคืออะไร แต่ ถ้าเราเจอตัวเองแล้ว เรารู้จักตัวเองดีพอ ไม่ว่าเราจะเจอปัญหาอะไร เราจะไม่สะทกสะท้านกับปัญหาอะไรเลย เราจะรู้ว่ามันก็แค่ลมผ่านไป แล้วเดี๋ยวสิ่งดี ๆ จะเข้ามาแทนที่ ว่าฟ้าหลังฝนมันดีเสมอ เวลาที่วุ้นทุกข์ทีไร พอมันผ่านไปก็มีเรื่องดี ๆ เข้ามา แล้วก็อย่าคิดเกินในสิ่งที่มันเป็น วุ้นคิดถึงแต่สิ่งที่อยู่ในปัจจุบัน คิดถึงเหตุผลที่อยู่ตรงหน้าอย่างเดียว แล้วเดี๋ยวก็ผ่านไปค่ะ
เรียกว่าเป็นสาวสายสตรองจริง ๆ สำหรับ วุ้นเส้น - วิริฒิพา ภักดีประสงค์ เราก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้เริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างสวยงาม