จากผลงานใน A Separation เมื่อปี 2011 อัสการ์ ฟาร์ฮาดี ผู้กำกับชาวอิหร่านก็กลายเป็นคนทำหนังที่ทั่วโลกจับตามอง ครั้งนั้นนอกจากจะคว้ารางวัลหมีทองคำจากเบอร์ลิน, หนังต่างประเทศยอดเยี่ยมจากเวทีลูกโลกทองคำ ฟาร์ฮาดียังไปได้ไกลที่สุดด้วยการคว้าออสการ์มาครองได้สำเร็จ "นึกถึงตอนขึ้นไปรับรางวัล ผมก็ยังใจเต้นอยู่" ฟาร์ฮาดีย้อนความหลัง "และทุกวันนี้ผมก็ยังติดต่อพูดคุยกับเพื่อนคนทำหนังที่ได้เข้าชิงในปีเดียวกันอยู่ นับเป็นประสบการณ์ที่มอบหลายอย่างให้ชีวิตผม"
ปีนี้ อัสการ์ ฟาร์ฮาดี กลับมาพร้อมผลงาน The Salesman หนังที่ดูเผิน ๆ อาจจะคล้ายหนังดราม่าว่าด้วยชีวิตผัวเมียชนชั้นกลางในอิหร่านทั่ว ๆ ไป แต่เนื้อในนั้นกลับเข้มข้นไปด้วยอารมณ์ระทึกขวัญชั้นเยี่ยม และแง่มุมสะท้อนสังคมที่เฉียบแหลม หนังได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกตอนไปเปิดตัวที่เมืองคานส์ และยังคว้า 2 รางวัลจากเมืองคานส์มาได้อย่างสมศักดิ์ศรี คือรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
The Salesman เล่าเรื่องของคู่รักที่อยู่ในแวดวงละครเวที พวกเขาย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นท์หลังใหม่พร้อมกับได้เจอกับคนแปลกหน้าที่บุกมาทำร้าย และเหตุการณ์ในครั้งนั้นก็นำพาไปสู่จุดพลิกผันที่ไม่มีใครคาดคิด
ฟาร์ฮาดีบอกว่า เขาถนัดทำหนังว่าด้วย "ความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน" แต่ในทุก ๆ ความสัมพันธ์นั้น มันไม่เคยดำเนินไปอย่างง่าย ๆ ด้วยคนสองคน เราต้องเจอคนอืกมากมายในชีวิตประจำวัน เงื่อนไขต่าง ๆ อีกมากมาย นั่นคือที่มาของพล็อตเรื่อง มันเริ่มต้นจากจุดง่าย ๆ ผลจากคำวิจารณ์จากทุกเทศกาลที่เข้าฉาย ทำให้อิหร่านเลือก The Salesman เป็นตัวแทนของประเทศในการเข้าชิงรางวัลออสการ์อีกครั้ง และล่าสุด (เดือนธันวาคมที่ผ่านมา) ออสการ์ก็ประกาศผลสาขานี้ในคืนที่ผ่านมา มีชื่อของ The Salesman เข้าชิงรางวัลใหญ่นี้ด้วย นักวิจารณ์หลายคนออกความเห็นว่า มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่อัสการ์ ฟาร์ฮาดีจะได้ออสการ์อีกครั้ง
"ผมไม่ได้คาดหวังกับรางวัลมากขนาดนั้น" เขากล่าว "ผมคิดว่าคนทำหนังทุกคนพึงพอใจแล้วเมื่อหนังเสร็จออกมาตามที่คิดไว้ สำหรับรางวัลออสการ์นั้น ผมชอบรางวัลนี้ตรงที่ มันคืองานเพื่อศิลปะจริง ๆ การได้พบกับคนทำหนังหลายเชื้อชาติ ประเทศเขากับประเทศเราอาจมีปัญหากันในทางการเมือง แต่ในโลกของศิลปะ ทุกคนเป็นมิตรกัน"
คอหนังชาวไทย เตรียมตัวชม The Salesman ในโรงภาพยนตร์
พร้อมกับลุ้นผลรางวัลออสการ์ 16 กุมภาพันธ์นี้