เตรียมพบกับภาพยนตร์แอนิเมชั่น ที่จะพาคุณเข้าสู่เรื่องราวของเด็กสาวนักผจญภัย ผู้ออกปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ของเธอกับภาพยนตร์เรื่อง "Moana โมอาน่า ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้" ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานที่เล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับผู้คนและวัฒนธรรมของหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิค นานหลายศตวรรษมาแล้วที่นักเดินทางผู้ยิ่งใหญ่ของโลกได้ตะลุยมหาสมุทรแปซิฟิคที่กว้างใหญ่ และได้ค้นพบเกาะจำนวนมากในมหาสมุทรแปซิฟิค แต่แล้วเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อน การเดินทางของพวกเขากลับหยุดชะงักไปเป็นพันปี แม้จะไม่มีทฤษฎีใดๆ ก็ไม่มีใครรู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงของเหตุการณ์นี้ เรามาทราบถึงเกร็ดหนังดีๆ ก่อนที่จะไปดู Moana ที่เปิดรอบพิเศษ 24-30 พ.ย. เวลา 14.00-15.00 น. ฉายจริง 1 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์ระบบ 3 มิติและ 4 มิติ
*ตัวละคร
**แต่งตัว – โมอาน่าได้สวมชุดทั้งหมดเจ็ดชุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงผ้าทาปาสีแดงที่เธอสวมสมัยเด็ก ตอนที่เธอได้พบกับตัวละครมหาสมุทรเป็นครั้งแรก
- ลุคหลักของโมอาน่ารวมถึงผ้าคาดอกที่ทำจากผ้าทาปา และกระโปรงที่ทำจากเตยทะเล สวมทับกระโปรงชั้นในที่ทำจากใบเตยทะเลฉีกเป็นเส้นเล็กๆ ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย เนย์ซา โบเว ได้ออกแบบชุดนี้เพื่อให้เหมาะกับนักผจญภัย “กระโปรงของเธอจะผ่าตรงด้านหน้าเพื่อทำให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว ไม่ว่าเธอจะว่ายน้ำ วิ่งหรือพายเรือแคนูก็ตาม” โบเวกล่าว
- ชุดหรูชุดหนึ่งที่เธอสวมระหว่างซีเควนซ์เต้นรำปรากฏต่อสายตาเพียงแค่หกวินาทีเท่านั้น
- โบเวได้รับแรงบันดาลใจจากพิธีทัวลูกาของชนเผ่าซามัวในการออกแบบชุดพิธีสำหรับโมอาน่าที่ปกคลุมไปด้วยเปลือกหอยและไข่มุก เครื่องประดับศีรษะของเธอประกอบไปด้วยเปลือกหอยจากมหาสมุทรและขนนกสีแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของราชวงศ์
ตัวละครทุกตัวใน “Moana” สวมชุดที่ทำจากวัตถุดิบที่พวกเขาน่าจะสามารถหาได้เมื่อ 2,000 ปีก่อน
** สถานการณ์ฟูๆ – แบบดีไซน์ช่วงเริ่มแรกของมาวอิ มนุษย์ครึ่งเทพผู้ทรงฤทธิ์ ไม่ได้มีทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาหรอกนะ แต่เขากลับมีหัวโล้นเหน่งที่ดูแข็งแกร่งเชียวล่ะ อย่างไรก็ดี กลุ่มโอเชียนิค สตอรี ทรัสต์จากตาฮิติได้แนะนำทีมผู้สร้างว่า มาวอิ ผู้ถูกกล่าวถึงในตำนานหลายเรื่อง มักจะถูกจินตนาการว่ามีผมเต็มศีรษะเสมอ ดังนั้น ผู้ออกแบบตัวละครก็เลยสร้างลุคใหม่ให้กับเขาและทีมช่างเทคนิคก็ต้องคิดหาวิธีทำให้ลุคนั้นกลายเป็นจริงขึ้นมาให้ได้
- จะต้องมีการปรับเทคโนโลยีเล็กน้อยเพื่อสร้างลุคเปียกปอนให้กับผมหยิกของโมอาน่า ด้วยความที่เธอได้ใช้เวลาพักใหญ่อยู่ใต้น้ำ นักวาดภาพได้เชิญอาสาสมัครที่มีทรงผมคล้ายๆ กันมาที่สตูดิโอและทำให้ตัวพวกเขาเปียกโชก เพื่อให้พวกเขาสามารถสร้างลุคที่สมบูรณ์ของโมอาน่าได้
** ที่มาจากพิน็อคคิโอ – รอยสักของมาวอิเป็นรูป “มินิ มาวอิ” ซึ่งเป็นภาพสองมิติของมาวอิ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวเตือนสติของมนุษย์ครึ่งเทพผู้นี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ในตอนที่เขาไม่อยากก็ตาม มินิ มาวอิ ซึ่งถูกสร้างขึ้นด้วยเทคนิควาดมือโดยอนิเมเตอร์ผู้ประสบความสำเร็จจากวอลท์ ดิสนีย์ สตูดิโอส์ อีริค โกลด์เบิร์กและทีมงานของเขา มักถูกนำไปเปรียบเทียบกับจิมินี คริกเก็ต ซึ่งเป็นตัวละครที่คอยเตือนสติตัวละครเอกในภาพยนตร์ปี 1940 เรื่อง “Pinocchio”
** ลึกสุดใจ – ทามาทัว ปูยักษ์ 50 ฟุต ที่มีปัญหาเรื่องการไว้วางใจคนอื่น ใช้ชีวิตอยู่ในโลกที่สว่างไสวเรืองรองที่มหัศจรรย์พอๆ กับตัวเขา ลาโลไท อาณาจักรแห่งอสุรกาย เป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่อยู่ใต้พื้นมหาสมุทร ชื่อของมันมาจากสถานที่ตั้งที่ไม่ธรรมดาของมันนั่นเอง ลาโลแปลว่า “ใต้” ส่วนไทมีความหมายว่า “ทะเล” ในภาษาโปรโต โพลีนีเซีย
** จ๋อมแจ๋ม – มหาสมุทรเป็นมากกว่าสถานที่ใน “Moana” เพราะมันเป็นตัวละครตัวหนึ่ง เมื่อได้รับมอบหมายให้สร้างกลไกที่จะทำให้อนิเมเตอร์สามารถจัดท่าทางให้กับมหาสมุทรและสร้างการเคลื่อนไหวที่จะแสดงให้เห็นถึงอารมณ์และจิตวิญญาณของตัวละครตัวนี้ได้ ทีมงานกลไกได้สร้างกลไกที่มีรูปทรงโค้งเหมือนกับเกลียวคลื่นขึ้นมา ซึ่งกลไกนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการในเนื้อเรื่อง
- กลไกนี้ทำให้ทีมเลย์เอาท์สามารถจัดท่าทางให้กับตัวละครได้และทำให้ทีมอนิเมชันสามารถสร้างการเคลื่อนไหวให้กับมันได้
- ทีมงานเอฟเฟ็กต์ได้เพิ่มเอฟเฟ็กต์น้ำ ซึ่งมีทั้งน้ำไหล น้ำกระเซ็นและหยดน้ำ เข้าไปเพื่อยกระดับลุคของเรื่อง
- กระบวนการสร้างสรรค์รวมถึงลุคแบบเจาะลึกของสิ่งที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับผมของราพันเซลในภาพยนตร์เรื่อง “Tangled”
** ไอเดียซื่อบื้อๆ – ในเวอร์ชันแรกๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้ เฮย์เฮย์เคยเป็นตัวละครฉลาดและแสบซ่าส์ แต่ทีมผู้สร้างรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้ไม่มีความแปลกใหม่เอาซะเลย มีหลายคนเรียกร้องให้เอาไก่ตัวนี้ไปให้พ้นจากภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่ทีมงานฝ่ายเรื่องราวกลุ่มเล็กๆ ได้ใช้เวลาหลายวันในการระดมความคิดเพื่อหาวิธีรักษาตัวละครตัวนี้เอาไว้ วิธีแก้ปัญหาของพวกเขาน่ะหรือ? ลดไอคิวของเขาลงน่ะสิ การนำเสนอของพวกเขาเรียกเสียงหัวเราะได้มากถึงขนาดที่เฮย์เฮย์กลายเป็นตัวละครที่ถูกเก็บเอาไว้ในที่สุด
- ทีมผู้สร้างต้องสร้างวิธีการทำงานเกี่ยวกับขนนกขึ้นมาเพื่อรับมือกับขนสำหรับเฮย์เฮย์และสำหรับเหยี่ยวมาวอิ ซึ่งเป็นร่างแปลงของมาวอิ ที่เขาใช้ตะขอเบ็ดมหัศจรรย์ของเขาในการแปลงร่าง ขนนกเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับแวดวงอนิเมชัน CG เพราะความจำเป็นในการวางขนนกทับซ้อนกัน
* การค้นคว้าข้อมูล
**ทำให้ถูกต้อง – ด้วยแรงบันดาลใจจากช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ในหมู่เกาะแปซิฟิค ทีมผู้สร้างได้สานต่อการทำงานร่วมกับผู้คนที่พวกเขาได้พบระหว่างการเดินทางของพวกเขาด้วย กลุ่มที่ปรึกษานี้กลายเป็นที่รู้จักในนามของกลุ่มโอเชียนิค สตอรี ทรัสต์ (โอเอสที) กลุ่มนี้ประกอบไปด้วยนักมานุษยวิทยา นักการศึกษา นักภาษาศาสตร์ นักสัก นักออกแบบท่าเต้น นักเต้นฮาก้า นักสำรวจและที่ปรึกษาทางวัฒนธรรม ผู้ร่วมงานกับทีมงานสร้างสรรค์ของดิสนีย์
** เปียกโชก – ด้วยความที่เรื่องราวส่วนใหญ่ของภาพยนตร์เรื่องนี้เกิดขึ้นในมหาสมุทรหรือใกล้ๆ นั้น ทีมผู้สร้างจึงต้องพยายามอย่างยิ่งในการสร้างระบบและกระบวนการในการสร้างน้ำที่สมจริงขึ้นมา ด้วยความกระตือรือร้นที่จะทำความเข้าใจกับความใสกระจ่างของน้ำ ทีมงานจึงได้สร้างกลไกที่มีความยาว 50 ฟุตขึ้นมา ลูกบอลที่ถูกทาสีเป็นสีเทา ดำและแดงจะถูกแขวนตามเชือกทุกๆ ห้าฟุต และมันก็จะถูกถ่ายภาพใต้น้ำในสระน้ำในแวนนุยส์, มิชชัน เบย์ในซานดิเอโก้ และนอกชายฝั่งเกาะโบรา โบรา ลองจินตนาการถึงการเอาของพวกนั้นผ่านด่านกรมศุลฯดูสิ!
** ดวงดาวโคจร – ในการสร้างท้องฟ้าที่พร่างพรายด้วยแสงดาวใน “Moana” ทีมผู้สร้างได้ใช้งานนักดาราศาสตร์ ผู้ค้นคว้าข้อมูลว่าดวงดาวไหนบ้างที่จะปรากฏบนฟากฟ้าของหมู่เกาะแปซิฟิคเมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว
- ตะขอเบ็ดตกปลาของมาวอิ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากกลุ่มดาวจริงๆ ที่มีชื่อเดียวกันในกลุ่มหมู่เกาะโอเชียเนียและกลุ่มดาวแมงป่องที่อยู่ที่อื่น ได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกับสมบัติล้ำค่าของตัวละครตัวนี้
** มือโปรทั้งนั้น – ลิน-มานูเอล มิแรนดา, โอเปไท โฟ’ไอ และมาร์ค แมนซินา ได้พบกันในนิวซีแลนด์ในงานปาซิฟิก้า ซึ่งเป็นงานวัฒนธรรมโพลีนีเซียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดงานหนึ่ง หลังจากมาถึงงานได้ไม่นาน มิแรนดาก็ถูกพวกแดนเซอร์ดึงตัวขึ้นเวทีเพื่อร่วมเต้นด้วยกัน มันกลายเป็นการแข่งขันกับผู้ชมคนอื่นๆ และเขาก็เป็นผู้คว้าชัยชนะมาได้
- “ผมอยู่นั่นสองวันแล้ว” แมนซินา “และผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าห้องน้ำอยู่ไหน แต่เขากลับกระโดดขึ้นเวทีและคว้าชัยชนะมาได้ซะนี่ เขาเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากๆ ครับ”
- “ผมประทับใจมากๆ และคิดว่า ‘นี่เป็นคนที่เหมาะกับงานนี้จริงๆ’ ครับ” โฟ’ไอ กล่าว “พอเราอยู่ด้วยกัน ก็เหมือนมีเวทมนตร์บังเกิดขึ้นเลยล่ะ”
** เต้นกันหน่อย – ทีมผู้สร้างได้เชิญนักออกแบบท่าเต้นแบบโพลีนีเซียให้มาสตูดิโอเพื่อออกแบบท่าเต้นและสาธิตการเคลื่อนไหวให้อนิเมเตอร์ได้ดู นักวาดภาพจะเฝ้ามอง ร่างภาพและเรียนรู้ความหมายของการเคลื่อนไหวแต่ละท่วงท่าจากมือโปร
* ได้รับแรงบันดาลใจ
** คลาสสิกจัง – ภาพยนตร์ดิสนีย์เรื่อง “Aladdin” ที่กำกับโดยผู้กำกับจอห์น มัสเคอร์และรอน เคลเมนท์สจาก “Moana” ทำให้ฮิรัม ออสมอนด์ หัวหน้าร่วมฝ่ายอนิเมชันของ “Moana” อยากจะเป็นอนิเมเตอร์ตั้งแต่เด็กๆ และหลายปีให้หลัง เขาก็ได้ร่วมงานกับอีริค โกลด์เบิร์ก อนิเมเตอร์คนหนึ่งของเรื่อง “Aladdin” ในเรื่อง “Moana”
- โกลด์เบิร์กเล่าว่าเขาอยากจะทำอาชีพนี้เพราะเรื่อง “Dumbo”
- จอห์น มัสเคอร์ ผู้กำกับ “Moana” ผู้กำกับ “Aladdin” ด้วย ได้รับแรงบันดาลใจจาก “Sleeping Beauty” และ “Pinocchio”
** ใต้ทะเล – เมื่ออายุเก้าขวบ ลิน-มานูเอล มิแรนดา ได้รับแรงบันดาลใจอย่างยิ่งจากเรื่อง “The Little Mermaid” ดังนั้น ในตอนที่ผู้กำกับจอห์น มัสเคอร์และรอน เคลเมนท์สจาก “Mermaid” มาเสนองานจากภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่ชื่อ “Moana” ในเกือบยี่สิบห้าปีให้หลัง มิแรนดาก็พร้อมเสียยิ่งกว่าพร้อมที่จะกระโจนใส่งานนี้
- มิแรนดาได้รับข้อเสนอสำหรับงานใน “Moana” อย่างเป็นทางการในสัปดาห์เดียวกับที่เขารู้ว่าเขาและภรรยากำลังจะมีลูกคนแรกด้วยกัน
- ทีมผู้สร้างรู้สึกขำที่ได้รู้ว่ามิแรนดาตั้งชื่อลูกชายของเขาว่า เซบาสเตียน การที่เขาจะได้แรงบันดาลจากปูแคริบเบียน ตัวละครใน “The Little Mermaid” รึเปล่านั้นยังคงเป็นปริศนา
Moana - ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้
เปิดรอบพิเศษ 24-30 พ.ย. เวลา 14.00-15.00 น.
ฉายจริง 1 ธันวาคม ในโรงภาพยนตร์ระบบ 3 มิติและ 4 มิติ