ภาพยนตร์เรื่อง พรจากฟ้า เป็นภาพยนตร์รักอบอุ่นที่ GDH ตั้งใจสร้างขึ้นด้วยน้อมรำลึกและขอร่วมสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อมอบเป็นของขวัญแด่ผู้ชมต้อนรับปี 2560 นี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวสามคู่กับการมอบของขวัญให้แก่กันและกันด้วยบทเพลง ซึ่งภาพยนตร์จะแบ่งออกเป็นสามส่วน ร้อยเรียงเกี่ยวข้องกัน ซึ่งผู้กำกับ ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร ก็ได้รับผิดชอบในส่วนของ บทเพลงพระราชนิพนธ์ Still on My Mind ซึ่ง ต้น-นิธิวัฒน์ ได้เปิดเผยถึงการทำงานในหนังเรื่องนี้ว่า
Still on My Mind บทเพลงพระราชนิพนธ์ ที่พระองค์ท่านทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องเป็นภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เองเป็นเพลงแรก
วันที่ได้มาคุยกับพี่เก้งเป็นครั้งแรก ถึงโปรเจ็คหนังเรื่องนี้ ผมได้ไปฟังบทเพลงพระราชนิพนธ์หลายบทเพลงด้วยกัน แต่ผมรู้สึกชอบเพลงพระราชนิพนธ์ Still on My Mind ผมรู้สึกว่าเป็น เพลงที่ไพเราะมาก ทั้งเมโลดี้ และความหมายของเนื้อร้องช่างตรงกับประเด็นของหนังที่จะพูดถึงมากที่สุด เป็นเพลงที่โรแมนติกมากๆ เป็นเพลงรักเพลงหนึ่งที่มีความหมายสำหรับตัวละครในเรื่องที่มีคุณพ่อเป็นอัลไซเมอร์ ผมรู้สึกว่าดนตรีสามารถบำบัดความเจ็บปวดได้ สามารถเยียวยาทั้งผู้ป่วยและผู้เล่นได้เหมือนกับตัวละครในเรื่องนี้
ซันนี่-มิว พระเอก นางเอกคู่ใหม่ กับเคมีที่ลงตัว
ช่วงที่เขีบนบทหนังเรื่องนี้ พระเอกในเรื่องต้องมีความกวนๆ และนำพาความสุข ความสนุกมาสู่ครอบครัวนางเอก ผมนึกถึงซันนี่ขึ้นมาทันที เพราะเป็นนักแสดงที่ผมอยากร่วมงานด้วยมานานแล้ว และเป็นอีกคาแร็กเตอร์หนึ่งที่เราไม่เคยเห็นเขาเล่นแบบนี้มาก่อน ก็มีการปรับลุคให้ต่างจากทุกเรื่องที่ผ่านมา ส่วนนางเอกที่เลือกมิว ก็เพราะว่า มิวเป็นนักแสดงที่มีแววตาความมุ่งมั่น ผมดูแฟนเดย์แล้วอยากเห็นเขาในจอภาพยนตร์อีกครั้ง และเมื่อทั้ง 2 คนมาเจอกันเป็นเคมีที่ลงตัวมากๆ และทั้งคู่มีความตั้งใจและทุ่มเทมากๆ ส่วนบทคุณพ่อเราเปิดคัดเลือกนักแสดง แต่สุดท้ายมาลงเอยที่คุณอาคิม เราให้ทั้ง 3 คนนี้มา เวิร์คช็อปด้วยกันด้วยแววตาซื่อๆ ของอาบวกกับน้ำเสียงของอาที่มีเสน่ห์เหมาะกับบทนี้มากที่สุด
เปียโนคืออีกหนึ่งตัวละครเอกของเรื่อง
ในเรื่องนี้ทั้งซันนี่และมิวต้องเล่นเปียโนได้ ผมเลยส่งทั้ง 2 คนไปฝึกเล่นเปียโน ซึ่งทั้งคู่มีความตั้งใจในการฝึกซ้อมมาก จากที่เล่นไม่เป็นเลย จนมาถึงวันที่มิวเข้าฉากเล่นเปียโนเพลง Still on My Mind ให้พ่อฟังเป็นครั้งแรก ผมได้ยินแล้วรู้สึกประทับใจมากๆ นี้คือความตั้งใจของนักแสดงคนหนึ่งที่พยายามอย่างมากที่สุดเพื่อหนังเรื่องนี้ การเล่นเปียโนของทั้ง 2 คน มีความหมายสำหรับผมและคนดูมากๆ นี่แหละคือการให้ดนตรีเป็นของขวัญสำหรับผู้ชม มันพิเศษแบบนี้นี่เอง นอกจากตัวละครที่มีบทบาทกับหนังแล้ว ผมรู้สึกว่าเปียโนเป็นอีกตัวละครสำคัญของหนังเรื่องนี้
ทีมเวิร์คคือหัวใจหลักของการทำงาน
หนังทุกเรื่องที่ผมทำล้วนมีความทรงจำเรื่องการทำงานเป็นทีมเวิร์ค เรื่องนี้ก็เหมือนกัน แต่ละซีน แต่ละฉากที่ผมนั่งมองอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ บางซีนทีมงานเฮกันเหมือนเชียร์มวย บางซีนแอบเห็นคนในกองน้ำตาไหล มองไปเห็นช่างไฟฮัมเพลง การทำหนังเรื่องหนึ่งแล้วมีทีมงานร่วมแรงร่วมใจกัน ไม่ใช่แค่ทำเสร็จแล้วก็จบ ผมว่าหนังเรื่องนี้ทุกคนตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุดด้วยกันทุกส่วนทุกฝ่ายจริงๆ ครับ
พรจากฟ้า คือหนังที่อยากมอบให้เป็นของขวัญสำหรับทุกคน
ผมเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะทำให้ทุกคนมีความสุข อย่างน้อยที่สุดก็จะได้รู้จักบทเพลงพระราชนิพนธ์ในอีกมุมมองหนึ่งที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยได้สัมผัสในความรู้สึกแบบนี้ มันดีต่อหัวใจมากครับ
"ที่สุดในชีวิตของพวกเราคนทำหนัง คือการได้ทำงานถวายพระองค์ท่าน ไม่มีเหตุผลใดๆ ให้ลังเลที่จะทำหนังที่มีบทเพลงของพระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจ"