ราล์ฟ วินเตอร์เกิดและเติบโตในเกลนเดล (Glendale) เป็นชาวแคลิฟอร์เนีย (Californian) โดยกำเนิด เขาจบการศึกษาศิลปศาสตร์บัณฑิตด้านประวัติศาสตร์ (B.A. in History) จาก U. C. Berkeley และเริ่มสั่งสมประสบการณ์ผลงานบันเทิงครั้งแรกจากการผลิตวิดีโอฝึกหัดพนักงานของ Broadway Department Stores
วินเตอร์เริ่มทำงานในวงการบันเทิงที่ Paramount Pictures เมื่อปี 1978 โดยทำงานโพสต์โปรดักชั่นรายการโทรทัศน์อย่าง Happy Days, Laverne & Shirley, และ Mork & Mindy แล้วจึงขยับขยายมาร่วมงานกับฮาร์ฟ เบ็นเน็ท (Harve Bennett) ใน Star Trek หลายภาค โดยเป็นผู้ช่วยอำนวยการสร้าง Star Trek III
เป็นผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาค IV, และเป็นผู้อำนวยการสร้างภาค V และภาค VI ด้วย ต่อมาในปี 1991 เขาย้ายมาร่วมงานกับ Walt Disney Company โดยบริหารงานอำนวยการสร้าง Captain Ron ที่นำแสดงโดยเคิร์ท รัสเซล (Kurt Russell) กับมาร์ติน ชอร์ท (Martin Short), Hocus Pocus ที่นำแสดงโดยซาร่า เจสสิก้า ปาร์คเกอร์ (Jessica Parker), กับเบต มิดเลอร์ (Bette Midler), และ The Puppet Masters
ต่อมาในปี 1995 วินเตอร์หันมาทำงานกับค่ายอิสระโดยอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Hackers ที่นำแสดงโดยแองเจลิน่า โจลี่ (Angelina Jolie) และกำกับโดบเอียน ซอฟท์ลี่ (Iain Softley จาก K-Pax กับ The Skeleton Key) ให้ United Artists จัดจำหน่าย และสตีเว่น สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) ทาบทามให้เขาอำนวยการสร้าง High Incident ทาง ABC ที่นำแสดงโดยเดวิด คีธ (David Keith) และแบลร์ อันเดอร์วู้ด (Blair Underwood)
ในปี 1996 พอปี 1997 วินเตอร์ก็กลับมาที่ Disney เพื่อร่วมกับทอม เจคอบสัน (Tom Jacobson) อำนวยการสร้าง Mighty Joe Young ผลงานปัดฝุ่น RKO (1949) สุดคลาสสิคที่ได้รอน อันเดอร์วู้ด (Ron Underwood จาก City Slickers) มากำกับ ปีถัดมาเขาก็บริหารอำนวยการสร้าง Inspector Gadget ที่นำแสดงโดยแมทธิว บรอเดอริค (Matthew Broderick) และรูเพิร์ต เอฟเวอเร็ต (Rupert Everett)
หลังจากประสบความสำเร็จจาก Disney แล้ว วินเตอร์ก็ร่วมกับ Twentieth Century Fox อำนวยการสร้าง X-Men ของ Marvel ที่กำกับโดยไบรอั้น ซิงเกอร์ (Bryan Singer) ในปี 1999 และกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 296 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ความสำเร็จครั้งนี้ส่งให้ Fox ทาบทามให้เขาอำนวยการสร้าง Planet of the Apes (2001) ที่กำกับโดยทิม เบอร์ตั้น (Tim Burton) ซึ่งก็กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 362 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
และได้ร่วมงานกับซิงเกอร์อีกครั้งในการสร้างภาคต่อ X2 ที่ทำรายได้ทั่วโลกถึง 406 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อมาในปี 2005 เขาก็อำนวยการสร้าง Fantastic Four ภาคแรกที่กำกับโดยทิม สตอรี่ (Tim Story) ที่กวาดรายได้ถึง 329 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ล่าสุดก็เพิ่งอำนวยการสร้าง X-Men: The Last Stand (2006) ภาคสามของ X-Men ที่กำกับโดยเบร็ท แร็ทเนอร์ (Brett Ratner) ที่กลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของซัมเมอร์ปีนั้น