แมตต์ รีฟส์ สร้างความโดดเด่นให้ภาพยนตร์ในช่วงที่เขากำกับภาพยนตร์ไซไฟแนวสยองขวัญยอดนิยม เรื่อง Cloverfield (2008) ซึ่งเป็นเรื่องราวการมาเยือนของสัตว์ประหลาดยักษ์ที่เมืองนิวยอร์ก และส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมากที่อยู่ที่นั่น เขาใช้การถ่ายทำแบบจินตนาการเหนือความจริง โดยให้นักแสดงนำเพียงคนเดียวถือกล้องเอาไว้ ภาพยนตร์สะท้อนถึงความหวาดกลัวหลังเหตุการณ์ 9/11 และขณะเดียวกันมีการถ่ายทอดสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์เต็มรูปแบบ ภาพยนตร์ใช้ต้นทุนเพียงไม่เท่าไหร่ สร้างสถิติขึ้นเป็นอันดับ 1 ในประเทศช่วงที่ฉายเดือนมกราคมและกวาดรายได้ทั่วโลกไปมากกว่า 175 ล้านเหรียญ
ต่อจากเรื่อง Cloverfield รีฟส์ได้กำกับฯ Let Me In (2010) ผลงานที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์และผู้ชมภาพยนตร์เป็นผลงานรีเมคจากหนังสยองขวัญของชาวสวีเดน เรื่อง Let the Right One In ซึ่งเป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหนุ่มจอมเกเร (โคดี้ สมิต-แม็คพี) และเพื่อนบ้านคนใหม่ของเขาซึ่งเป็นหญิงสาวที่กลับเป็นแวมไพร์
รีฟส์ร่วมสร้างทีวีซีรี่ส์ยอดนิยม เรื่อง Felicity นำแสดงโดย เครี่ รัสเซล นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัล Golden Globe Award รีฟส์เป็นผู้อำนวยการสร้างบริหารร่วมกับเจ.เจ. อับรัมส์ หุ้นส่วนและผู้ร่วมสร้างฯ เขากำกับฯ ผลงานหลายตอนอยู่เป็นประจำในช่วงที่มีการฉายผลงาน 4 ฤดูกาล รวมถึงผลงานตอนแรกเมื่อปี 1998 ให้กับสถานี WB
รีฟส์กำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรกเมื่อปี 1996 ในดาร์กคอมเมดี้ เรื่อง The Pallbearer นำแสดงโดย เกว็นเนธ พัลโทรว์, เดวิด ชวิมเมอร์ และ บาร์บาร่า เฮอร์ชีย์ เขาพัฒนาบทฯ ร่วมกับเจสัน คามิตส์ผ่าน Sundance Institute ของโรเบิร์ต เรดฟอร์ด ในปี 1999 รีฟส์ร่วมเขียนฯ และร่วมผลิตฯ ภาพยนตร์ที่ได้รับคำชมของเจมส์ เกรย์ เรื่อง The Yards นำแสดงโดย มาร์ค วาห์ลเบิร์ก, โจควิน ฟีนิกส์ และ ชาร์ลีซ ธีรอน
รีฟส์เกิดที่ Rockville Centre นิวยอร์ค เขาโตที่ลอสแองเจลิสและเริ่มสร้างหนัง 8 มม.ตอนอายุ 8 ขวบ ในช่วงวัยรุ่นเขาพบว่าระบบเคเบิลท้องถิ่นที่มีการถ่ายทอดรายการทางบ้าน และมีการติดต่อรายการ Word of Mouth เพื่อฉายผลงานของเขา รีฟส์ไม่ได้จัดการภาพยนตร์ที่ฉายในโปรแกรมเท่านั้น แต่ยังถูกเจอราร์ด ราเวลสัมภาษณ์อีกด้วย รีฟส์ได้พบกับผู้สร้างภาพยนตร์อายุน้อยที่สร้างแรงบันดาลใจให้อย่างเจ.เจ.อับรัมส์ และ ไบรอัน บูร์ค ทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหุ้นส่วนด้านการผลิตผลงานในเวลาต่อมา ที่สำคัญสุดคือในงานเทศกาลรีฟส์ได้รู้จักกับผู้สร้างฯ สตีเฟ่น สปีลเบิร์ก ที่มาว่าจ้างรีฟส์หลังจากที่เขาอ่านบทความาจาก Los Angeles Times (ผลงานชื่อ The Beardless Wonders of Film Making) อับรัมส์และบูร์คปัดฝุ่นภาพยนตร์ 8 มม.ในช่วงวัยรุ่นของเขา และซ่อมแซมจุดเชื่อมต่อด้วยเงิน 300 เหรียญ
ในที่สุดรีฟส์และบูร์คได้ศึกษาที่ University of Southern California พวกเขาร่วมกันทำโปรเจ็กต์วิทยานิพนธ์ของรีฟส์เป้นหนังสั้นแนวแฟนตาซี เรื่อง Mr. Petrified Forest ซึ่งเป็นเรื่องราวของตากล้องที่หลงใหลความหายนะ โปรเจ็กต์มีฉากเครื่องบินชนซึ่งอับรัมส์ต้องกลับไปที่ East Coast เพื่อจำลองขึ้นมาที่สนามหน้าบ้านพ่อแม่ ผลงานเรื่อง Mr. Petrified Forest ได้รับคำชมในงานเทศกาลภาพยนตร์นักศึกษา ผลงานนี้ทั้งได้รับรางวัลและเป็นที่สนใจในวงการรวมถึงตัวแทนของรีฟส์ ต่อมาเขาได้ร่วมงานในภาพยนตร์หลายเรื่อง เช่น ภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยที่กลายเป็นภาพยนตร์ของสตีเฟ่น ซีเกิล เรื่องUnder Siege 2: Dark Territory (1995) ในเวลาต่อมา
สำหรับผลงานทางทีวี รีฟส์เคยควบคุมผลงานตอนแรกให้เรื่อง Gideons Crossing และ Miracles for ABC, Conviction ของทาง NBC และผลงานหลายตอนให้ NBC เรื่อง Homicide: Life on the Street และผลงานทาง ABC เรื่อง Relativity