จูจินโม จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย Inchun Junior ที่ประเทศเกาหลีใต้ จูจินโมเป็นคนที่เอาใจใส่เรื่องการดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกายอยู่เสมอ ๆ กีฬาสุดโปรดที่เขามักชอบเล่นอยู่บ่อย ๆ ก็คือ เทวันโด, ว่ายน้ำ และการเพาะกาย จู จินโม เริ่มต้นผลงานแสดงด้วยการรับบทเป็นนักแสดงสมทบในภาพยนตร์เรื่อง Farewell My Darling ในปี 1996 และ Park vs. Park ในปี 1997 ก่อนที่ปี 1999 เขาจะได้รับบทนำในภาพยนตร์เป็นครั้งแรกถึง 2 เรื่องด้วยกัน คือเรื่อง Dance Dance ในภาพยนตร์เรื่องนี้เขารับบทเป็นครูสอนเต้นรำหนุ่มที่ชื่อว่า จุนยอง และภาพยนตร์อีกเรื่องคือเรื่อง Happy End ในภาพยนตร์นี้รับบทเป็นคิมอิลบอม ชู้รักของชเวโบรา หญิงที่มีสามีแล้วซึ่งรับบทโดย จอนโดยอน ที่ทั้งสองแอบมีความสัมพันธ์แบบลับ ๆ กัน หลังจากที่ชเวโบราแต่งงานและมีลูกคนแรกที่เพิ่งคลอดออกมาได้ไม่นานนัก ในปี 1999 อีกเช่นกันที่จูจินโมมีโอกาสรับงานละครเป็นครั้งแรกในละครเรื่อง Temptation ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ KBS ในละครเรื่องนี้ จูจินโมรับบทเป็นคู่รักของชายหนุ่มวัยทำงานที่แอบมีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับชายหนุ่มที่แต่งงานไปแล้ว นอกจากผลงานภาพยนตร์แล้วนั้นจูจินโมก็ยังเคยเล่นละครเวทีมาแล้วเหมือนกันเมื่อปี 1998 กับละครเวทีที่ชื่อเรื่องว่า Taxi driver
ปี 2000 จูจินโมกลับมารับงานภาพยนตร์ที่ท้าทายความสามารถทางด้านการแสดงของเขาอีกครั้งในภาพยนตร์เรื่อง Real Fiction ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นใช้เวลาถ่ายทำกันไม่ถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง โดยที่ไม่มีการเทคใหม่แต่อย่างใด ใน Real Fiction นั้น จูจินโมรับบทเป็นศิลปินหนุ่มที่ชีวิตมีแต่เรื่องผิดหวัง จนกระทั่งกลายเป็นความกดดันทำให้เขากลายเป็นฆาตกรโหดที่ฆ่าคนได้อย่างไร้ความปรานี ในส่วนของงานละคร จูจินโมก็มีละครเรื่อง Angry Face ที่ได้รับคำชมจากแฟนๆละครอย่างท่วมท้นเลยทีเดียว ในปี 2001 จูจินโมมีงานภาพยนตร์เข้ามาถึง 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือ Musa ภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่แห่งปีที่ร่วมทุนสร้างระหว่าง 2 ประเทศ เกาหลีใต้และจีน ซึ่งนำแสดงโดย จางจียี่ นักแสดงสาวผู้โด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon ภาพยนตร์อีกเรื่องของ จูจินโมก็คือภาพยนตร์ Wanee and Junah ที่เล่าเรื่องราวความรักของจูนาห์ นักเขียนบทภาพยนตร์หนุ่ม กับวานี (รับบทโดย คิมฮีซัน) สาวนักเขียนการ์ตูนผู้มีอดีตฝังใจกับรักแรก ระหว่างเธอกับพี่ชายต่างสายเลือดของเธอ หลังจากนั้นจูจินโมก็หยุดรับงานแสดงตลอดปี 2002
ปลายปี 2003 จูจินโมกลับมาอีกครั้งกับผลงานละครเรื่องใหม่ Ddae Ruh! ในละครเรื่องนี้ จูจินโมรับบทเป็นลีฮันเซ นักมวยหนุ่มที่ชีวิตต้องพลิกผันหลังจากการชกในนัดสำคัญ ที่เขาทำให้คู่ชกของเขา จางยูชอล (รับบทโดย คิมควางอิล) ต้องเสียชีวิต หลายปีผ่านไปมีเหตุการณ์ที่ทำให้ลีฮันเซ ต้องมารับหน้าที่เป็นผู้ฝึกสอนวิธีการชกมวยให้กับจางอูบิน (รับบทโดย ชินมินอา) น้องสาวแท้ ๆ ของจางยูชอล โดยที่จางอูบินไม่รู้มาก่อนเลยว่า ลีฮันเซเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้พี่ชายของเธอต้องเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน
ปี 2004 จูจินโมมีผลงานภาพยนตร์เข้าฉายในปีนี้ถึง 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือภาพยนตร์สงครามฟอร์มยักษ์เรื่อง The Trigger ในผลงานการกำกับของพัคกวางซู โดยเขาได้แสดงร่วมกันกับจีจินฮี เรื่องที่สอง Bighouse Dotcom และปิดท้ายปลายปีด้วยภาพยนตร์แนวตลกเรื่อง Liar ในผลงานการกำกับของ ผกก. คิมคยองฮยอง จากภาพยนตร์เรื่อง My Tutor Friend