ร้อยตรี หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล ชื่อเล่น ปลื้ม พิธีกร และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ อดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2552 และความรู้ความสามารถในการเป็นพิธีกร ทั้งเรื่องประเด็นข่าวเศรษฐกิจ และต่างประเทศอีกด้วย
หม่อมปลื้มเกิดวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2519 เป็นบุตรชายของหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลชั่วคราว หลังรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 และอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ชีวิตส่วนตัว หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์สมรสกับณัฐรดา อภิธนานนท์ หรือ แจ็กเกอรีน หรือ แจ็กกี้ นักแสดงสาวลูกครึ่งไทย-แคนาดา ในวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ณ ห้องสกุณตลาบอลรูม โรงแรมเพนนินซูล่า โดยมีบุตร 1 คนชื่อ ด.ช.กริชกุลธร เทวกุล ณ อยุธยา หรือ น้องเจม
หม่อมปลื้มจบการศึกษาระดับประถมศึกษา โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร, มัธยมศึกษา โรงเรียน ณ มัธยมศึกษา ณ รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา, ระดับปริญญาตรี รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน สหรัฐอเมริกา และระดับปริญญาโท ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ (The Paul H. Nitze School of Advanced International Studies (SAIS)) สหรัฐอเมริกา
หม่อมปลื้มมีผลงานทางด้านภาพยนตร์ในเรื่อง ถอดรหัส...วิญญาณ Soul's Code (พ.ศ. 2551) รับบทเป็น ผ.บ.กานนท์ ซึ่งได้รับรางวัลทุเรียนทองคำ สาขานักแสดงนำชายยอดแย่ไปครอง
หม่อมปลื้มเคยให้สัมภาษณ์ว่าในชีวิตของตนอยากที่จะเล่นการเมือง ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2551 หม่อมปลื้มได้ทำการเปิดตัวเป็นผู้สมัครคนแรก ๆ แต่ยังไม่ทันได้ลงรับสมัครจริง เมื่อทราบว่าคะแนนความนิยมตามโพลล์ยังห่างจากนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน มากนัก จึงได้ถอนตัวไป ต่อมาได้ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2552 ซึ่งหม่อมปลื้มได้หมายเลข 8 มีคะแนนนำมาเป็นลำดับที่หนึ่งตามโพลล์แค่ในช่วงต้น ผลการเลือกตั้งสุดท้ายได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 3
ในช่วงวิกฤตการณ์การเมืองในประเทศไทย พ.ศ. 2548-2552 หม่อมปลื้มซึ่งมีบทบาทเป็นสื่อสารมวลชน ได้วิพากษ์วิจารณ์การเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและกลุ่มแนวร่วมอย่างรุนแรงตลอด และวิจารณ์บทบาทการทำหน้าที่ของ นางสาวรสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร อย่างรุนแรง หม่อมปลื้มมีบทบาทในการเสนอแนะแนวคิดให้กับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และได้ออกมาตอบโต้แทนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติถึงกรณีผังล้มเจ้า ผ่านทางวอยซ์ทีวี เขาออกขอโทษประชาชนกรณีวาทกรรม คอรัปชั่นไม่ใช่อุปสรรคในการพัฒนาประเทศ
ในปี พ.ศ. 2559 เขาวิจารณ์ว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ อาจอยู่เบื้องหลัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่สั่งฟ้อง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา คณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำลังเชือดไก่ให้ลิงดู[ ในวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2557 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ สั่งให้เขาถูกพักงานกับ วอยซ์ทีวี ตามที่ทาง วอยซ์ทีวี เสนอส่งผลให้เขาเป็นอดีตพิธีกร ทุกรายการของ วอยซ์ทีวี ทันที จนกระทั่งครบกำหนดพักงาน เขากลับมาทำงานเป็นพิธีกรอีกครั้ง ในวันที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2559