เปโดร อัลโมโดวาร์ เกิดในกลางยุค 50 เขาย้ายไปยังเอสเทรมาดูร่าพร้อมกับครอบครัวตอนอายุ 8 ปี ที่นั่น เขาได้เรียนชั้นประถม และไฮสคูล พออายุ 17 ปีเขาออกจากบ้านและย้ายไปยังกรุงแมดริด ไม่มีทั้งเงิน ไม่มีทั้งงาน แต่มีโปรเจกต์จำเพาะเจาะจงในใจ ที่จะศึกษาด้านภาพยนตร์และการกำกับภาพยนตร์ เขาไม่สามารถลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียนภาพยนตร์ เพราะว่าไม่สามารถเรียนภาษาภาพยนตร์ เขาจึงตัดสินใจเรียนเนื้อหา ซึ่งก็คือ ชีวิต การดำรงชีวิต
ทั้ง ๆ ที่การปกครองแบบเผด็จการทำให้ประเทศระส่ำระสาย สำหรับวัยรุ่นจากต่างจังหวัด กรุงแมดริดเป็นตัวแทนวัฒนธรรม เอกราชและอิสรภาพ เขาทำงานหลายอย่างแต่ไม่สามารถซื้อกล้อง 8 มม. เครื่องแรกของเขาได้ จนกระทั่งเขาได้งานจริงจังที่บริษัทโทรศัพท์แห่งชาติของสเปนโดยเขาได้ทำงานถึง 12 ปีในฐานะผู้ช่วยฝ่ายบริหาร เป็น 12 ปีที่เขาได้อุทิศเพื่อกิจกรรมมากมายซึ่งเป็นการฝึกฝนในฐานะนักสร้างหนังและในฐานะบุคคล ช่วงเช้าหลายๆวันที่บริษัทโทรศัพท์ เขาได้รับความรู้ในช่วงเริ่มต้นของยุคผู้บริโภคที่ว่า ความเศร้าและโชคร้ายเป็นขุมทองสำหรับนักเล่าเรื่องในอนาคตอย่างแท้จริง ช่วงตอนเย็นและกลางคืน เขาเขียน แสดงร่วมกับกลุ่มละครเวทีอิสระลอส โกเลียร์ดอส และสร้างหนังหลายเรื่อง เขาร่วมงานกับนิตยสารใต้ดินหลายเล่ม เขียนเรื่อง ซึ่งบางเรื่องได้รับการตีพิมพ์ เขายังเคยเป็นสมาชิกกลุ่มพังก์ร็อคที่ชื่อ อัลโมโดวาร์และแม็คนามาร่าด้วย
เขาโชคดีที่ได้เปิดหนังเรื่องแรกของเขาในโฆษณาหนังช่วงเวลาเดียวกับการเริ่มต้นของประชาธิปไตยในสเปน หลังจากการถ่ายทำหนัง 16 มม.ที่ใช้เวลา 18 เดือนเรื่อง Pepi, Luci, Bom ที่ออกฉายในปี 1980 หนังไร้ทุน ซึ่งสร้างโดยความร่วมมือร่วมใจของทีมงานและนักแสดงที่เหลือ ซึ่งทั้งหมดเป็นมือใหม่ ยกเว้น คาร์เมน มัวร่า ในปี 1986 เขาก่อตั้งบริษัทสร้างหนัง เอล เดเซโอ้ เอส.เอ. ร่วมกับน้องชาย เอกัสติน โปรเจกต์แรกของพวกเขาคือ Law Of Desire ตั้งแต่นั้นมา พวกเขาได้อำนวยการสร้างหนังทั้งหมด ซึ่งเปโดรเขียนบทและกำกับ และอำนวยการสร้างผลงานของผู้กำกับหนุ่มอีกหลายคน
ในปี 1988 เรื่อง Women On The Verge Of A Nervous Breakdown ได้นำพาเขาให้เป็นที่รู้จักระดับนานาชาติ หลังจากนั้น หนังของเขาหลายเรื่องได้ฉายไปทั่วโลก ด้วยเรื่อง All About My Mother เขาได้รับรางวัลออสการ์รางวัลแรกสาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม และรางวัลลูกโลกทองคำ, รางวัลซีซ่าร์, 3 รางวัลยูโรเปี้ยน ฟิล์ม, รางวัลเดวิด เดอ โดนาเทลโล่, 2 รางวัลบาฟต้า, 7 รางวัลโกย่าส์ และรางวัลอื่นๆอีก 45 รางวัล 3 ปีให้หลัง เรื่อง Talk To Her ได้รับรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม, 5 รางวัลยูโรเปี้ยน ฟิล์ม, 2 รางวัลบาฟต้า, รางวัลนาสโตร เดอ อาร์เจนโต้, รางวัลซีซ่าร์ และรางวัลอื่นๆทั่วโลก (แต่ไม่ใช่ในสเปน) เขาเคยอำนวยการสร้างหนังพิเศษมากๆ 3 เรื่องที่ได้รับคำชมในระดับนานาชาติ (My Life Without Me, The Holy Girl และ The Secret Life Of Words) ในปี 2004 เรื่อง Bad Education ได้รับเลือกให้เปิดเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ตัวหนังได้รับคำวิจารณ์ในแง่ดีไปทั่วโลก เข้าชิงหลายรางวัลมากมาย (รางวัลอินดิเพนเด้นท์ สปิริต อวอร์ด, รางวัลบาฟต้า, รางวัลซีซ่าร์, รางวัลยูโรเปี้ยนฟิล์ม) และได้รับรางวัลภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมจากสถาบันนักวิจารณ์นิวยอร์ค และรางวัลนาสโตร เดอ อาร์เจนโต้จากสมาคมนักวิจารณ์ภาพยนตร์อิตาลี เขาอาจจะเป็นผู้กำกับที่มีอิสระในการทำงานมากที่สุดในปัจจุบัน