บ๊อบ นิวฮาร์ต เป็นที่รู้จักดีจากผลงานแสดงสนทนาโทรศัพท์คนเดียว และภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง The Bob Newhart Show เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 7 ครั้ง และ Emmy 4 ครั้ง
บนเส้นทางหนังใหญ่ เขาประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจากภาพยนตร์เรื่อง Elf แสดงนำโดยวิล ฟร์เรล นิวฮาร์ตได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง In and Out for กำกับโดยแฟรงค์ ออซ โดยแสดงคู่กับ เควิน ไคลน์
นิวฮาร์ตเริ่มอาชีพการทำงานหลังจากเป็นทหาร มาเป็นนักบัญชีและก็อปปี้ไรต์เตอร์งานโฆษณา เขายังได้ทำงานแสดงให้กับคณะละครสต็อก (งานที่เขารักอย่างแท้จริง) ในบ้านเกิดของเขาที่ชิคาโก นิวฮาร์ต และเอ็ด กาลาเฮอร์ เพื่อนของเขาที่ทำงานบริษัทโฆษณา เคยเล่นกันอย่างสนุกสนานด้วยการแกล้งโทรศัพท์หากันด้วยคำพูดตลก ๆ เป็นเวลานาน ๆ และทั้งสองได้บันทึกเป็นเทปเอาไว้ หรืออย่างที่ บ๊อบ เรียกว่า "สมาคมโชว์ที่ยากไร้ทางวิทยุของ บ๊อบ & เรย์" เมื่อกาลาเฮอร์เลิกทำงานนี้ นิวฮาร์ตก็ยินยอม "รับหน้าที่" แต่โดยดี และแจ้งเกิดในการเป็นนักแสดงเดี่ยวที่พูดโทรศัพท์สองสาย
ในปี 1959 นักจัดรายการวิทยุที่ชิคาโกได้แนะนำให้ นิวฮาร์ตได้พบกับผู้คัดเลือกของ Warner Bros. Records ซึ่งได้จับให้เขาเซ็นสัญญาทันที ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เกิดรายการ The Button-Down Mind of Bob Newhart และได้กลายเป็นคอมเมดี้อัลบั้มแรกที่ขึ้นสู่อันดับ 1 ของชาร์ต เขาได้แสดงในคอมเมดี้คอนเสริตที่ขายตั๋วได้หมดทันทีทั้งใน ไนท์คลับและโรงละครทั่วประเทศอเมริกา
งานเน็ตเวิร์คโทรทัศน์ ทำให้นิวฮาร์ตกลายเป็นที่สนใจอย่างมากมายของผู้ชม และเขาได้รับข้อเสนอจากรายการคอมเมดี้วาไรตี้โชว์เป็นครั้งแรกชื่อ The Bob Newhart Show รายการนี้ได้รับรางวัลอย่าง Peabody Award และ Emmy รายการที่สอง ได้แก่ The Bob Newhart Show (ซิทคอม) ออกฉายครั้งแรกทางCBS ในปี 1972 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของรายการที่ยืนยงถึงหกปี ร่วมแสดงโดย ซูซาน เพลเช็ตต์ และเป็นหนึ่งในบรรดานักแสดงยอดเยี่ยมแห่งจอภาพยนตร์ ที่มีงานแสดงทางโทรทัศน์ ตามที่นักวิจารณ์และนักประวัติศาสตร์ได้เคยบันทึกไว้
ในปี 1970 นิวฮาร์ตได้หันมาทำงานภาพยนตร์ สำหรับผลงานที่สร้างชื่อของเขาก็คือเรื่อง On a Clear Day You Can See Forever แสดงกับบาร์บร่า สตรัยแซนด์, Little Miss Marker แสดงกับ วอลเตอร์ แมทธาว และ First Family แสดงกับกิลด้า แรดเนอร์
ในปี 1982 นิวฮาร์ตได้กลับมาทาง CBS ใน Newhart กับบทนักเขียนหนังสือการทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ชาวนิวยอร์คที่กลายมาเป็นเจ้าของโรงแรมเล็กในเวอร์มอนท์ และอีกครั้งที่ถูกแวดล้อมด้วยตัวละครที่ไม่ธรรมดาหลายคน ซีรี่ส์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลถึง 8 ซีซัน ผลงานอื่น ๆ ของนิวฮาร์ตทางโทรทัศน์ ได้แก่ Toast of the Town, What's My Line, The Judy Garland Show, The Entertainers, The Andy Williams Show, Rowan & Martin's Laugh-In, Murphy Brown, Saturday Night Live, The Simpsons, Bob และ George & Leo นิวฮาร์ตยังได้สร้างชื่อในงานอัตถชีวประวัติความยาวสองชั่วโมง A&E Biogaphy เกี่ยวกับชีวิตและอาชีพของเขา
ปี 1995 นิวฮาร์ตได้ก้าวเข้าสู่อีกอาณาเขตของงานคอมเมดี้ ด้วยการทำงานในวิดีโอ ชิ้นแรกของเขา ที่ได้รับการบันทึกจากการแสดงสด ซึ่งเป็นผลงานคอมเมดี้คุยโทรศัพท์เดี่ยวคลาสสิคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา - Nick at Nite Records ยังเป็นผลงานเสียงในส่วนที่แปลงจากวิดีโอเป็น CD
นิวฮาร์ตยังมีการแสดงคอมเมดี้คอนเสริตทีเป็นงานแสดงสดต่อไป ก่อนที่จะสร้างผลงานชนิดตั๋วขายหมดไปทั่วโลก สิ่งที่เขาทำเป็นกิจวัตรก็คือการสร้างสรรค์จากบทความในหนังสือพิมพ์ ในรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง นิวฮาร์ตจึงได้รับทั้งเสียงวิจารณ์อย่างชื่นชมและความพึงพอใจของผู้ชม เมื่อสองปีที่แล้ว นิวฮาร์ตได้ถูกจารึกชื่อไว้ที่ Academy of Television Arts and Sciences Hall of Fame