ดีเอ็มเอ็กซ์ หรือ เอิร์ล ซิมมอนส์ (Earl Simmons) มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกในงานของไฮพ์ วิลเลี่ยม เรื่อง Belly อีกทั้งเขายังได้รับบทซิลค์ เจ้าของคลับฮิปฮ็อปที่พยายามเอาตัวรอดทางธุรกิจ ท่ามกลางสงครามระหว่างแกงค์ในหนังของผู้อำนวยการสร้างซิลเวอร์ และผู้กำกับการแสดงบาร์ตโกเวียก ใน Romeo Must Die การถ่ายทอดบทบาทของ DMX นั้นทรงพลังมากจนกระทั่งนำไปสู้การได้แสดงร่วมกับสตีเวน ซีกัล ในหนังของผู้อำนวยการสร้างซิลเวอร์ และผู้กำกับการแสดงบาร์ตโกเวียกเรื่องถัดมาในทันที กับเรื่อง Exit Wounds เรื่อง Cradle 2 the Grave นับเป็นการร่วมงานภาพยนตร์ครั้งที่สามของเขากับซิลเวอร์ และบาร์ตโกเวียก และงานชิ้นที่สองร่วมกับเจ็ท ลี
DMX เป็นศิลปินแร็ปชั้นนำ สามอัลบั้มแรกของเขานั้น วางตลาดด้วยการขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง และขายดีถึง 15 ล้านแผ่นภายในเวลาเพียงสองปี หลังจากแทร็คที่โดดเด่นอย่างงานของ LL Cool J - 4.3.2.1., ของ The Lox Money, Power, Respect และ Mase's 24 Hours to Live, DMX ได้รับความสนใจจากทั่วโลกด้วยเพลงของเขาเอง Get At Me Dog อัลบั้มแรกที่ดังเป็นพลุของเขา ได้แก่ It's Dark and Hell is Hot วางแผงเดือนพฤษภาคม 1998 และทำรายได้ขึ้นอันดับหนึ่ง และได้อันดับแพลตตินั่มมากมาย ในเวลาอันรวดเร็ว ต่อมาเขาก็มีผลงานให้กับฟิล์มระทึกขวัญคลาสสิคใน Flesh of My Flesh, Blood of My Blood ซึ่งยังขึ้นอันดับท็อปสป็อตของชาร์ต ซึ่งทำให้ DMX กลายเป็นศิลปินคนแรกที่มีผลงานขึ้นอันดับหนึ่งจากการวางแผงครั้งแรกในปีเดียวกัน ส่วนงานชื่อ And Then There Was X วางแผงในปี 1999 และเช่นกันอีกครั้งที่ได้เข้าสู่อันดับหนึ่งของชาร์ท ผลงานซาวน์ดแทร็คของ DMX ได้แก่ งานเพิ่มเติมที่ทรงพลังให้กับหนังฮิตเรื่อง The Fast and the Furious และ Rush Hour 2