เฮเลน เมียร์เรน คือหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีที่สุดและได้รับการยอมรับนับถือที่สุด ไม่เพียงเฉพาะในอังกฤษเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระดับโลก เธอมีผลงานทั้งในแวดวงละครเวที ภาพยนตร์จอเงินและจอแก้ว โดยเธอสั่งสมชื่อเสียงจากการรับบทท้าทาย และเคยคว้ารางวัลมาแล้วมากมายจากผลงานการแสดงอันทรงพลังและหลากหลายหาตัวจับได้ยาก หนึ่งในบทบาทยอดเยี่ยมเหล่านั้น ก็คือบทควีนชาร์ล็อตต์ ในภาพยนตร์ของนิโคลาส ฮิตเนอร์ เรื่อง THE MADNESS OF KING GEORGE ซึ่งเป็นเพียงครั้งเดียวที่เมียร์เรนคยรับบทเป็นราชินีในภาพยนตร์จอเงินก่อนหน้าจะมารับบทแสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง THE QUEEN บทดังกล่าวนั้นทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม และคว้ารางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมจากงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 1995
เมียร์เรนเริ่มต้นเข้าวงการแสดงกับคณะละคร The National Youth Theatre และในปี 1967 เธอได้เข้าร่วมแสดงกับคณะละคร Royal Shakespeare Company อาทิเช่น เคยรับบทเป็นเครสซิด้า ในละครเรื่อง Troilus and Cressida และรับบทเป็นเลดี้แม็คเบ็ธ ในละครเวทีเรื่อง Macbeth ผลงานของเทรเวอร์ นันน์ ในปี In 1972 เธอได้ร่วมงานกับคณะละครของผู้กำกับเลื่องชื่อ ปีเตอร์ บรู๊กส์ และได้เปิดการแสดงไปทั่วโลก
อาชีพในแวดวงภาพยนตร์ของเมียร์เรนเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายยุค 1960 กับภาพยนตร์ของไมเคิล พาวเวลล์ เรื่อง Age of Consent ซึ่งเธอแสดงนำร่วมกับเจมส์ เมสัน แต่บทแจ้งเกิดของเมียร์เรนมาถึงในภาพยนตร์ของจอห์น แม็คเคนซี่ เรื่อง The Long Good Friday บทวิคตอเรีย ที่เมียร์เรนแสดง ซึ่งเป็นชู้รักสุดเซ็กซี่ของตัวละครของบ็อบ ฮอสกิ้นส์ ทำให้เธอได้รับคำชมไปอย่างท่วมท้นในฐานะดาราภาพยนตร์มาแรงคนใหม่
หลังภาพยนตร์เรื่อง Long Good Friday เมียร์เรนแจ้งเกิดในวงการภาพยนตร์อย่างเต็มตัว และได้แสดงนำในภาพยนตร์ที่ได้รับคำวิจารณ์ชื่นชมอีกหลายเรื่องด้วยกัน อาทิเช่น ภาพยนตร์ผจญภัยแฟนตาซีของจอห์น บัวร์แมน เรื่อง Excalibur และภาพยนตร์ทริลเลอร์ไอริชของนีล จอร์แดน เรื่อง Cal ในภาพยนตร์เรื่องนี้ การรับบทเป็นผู้หญิงที่ตกหลุมรักชายอายุน้อยกว่า ทำให้เมียร์เรนได้รับรางวัลดารานำหญิงยอดเยี่ยมที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 1984 เธอยังคงเดินหน้าผลักดันขอบเขตต่อไปในภาพยนตร์อย่างผลงานของปีเตอร์ เวียร์ เรื่อง The Mosquito Coast, ภาพยนตร์ของปีเตอร์ กรีนนาเวย์ เรื่อง The Cook, The Thief, His Wife and Her Lover, ภาพยนตร์ของชาร์ลส์ สเตอร์ริดจ์ เรื่อง Where Angels Fear to Tread และภาพยนตร์ของเทอร์รี่ จอร์จ เรื่อง Some Mother's Son ซึ่งเธอร่วมอำนวยการสร้างด้วย
เมียร์เรนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 2 จากบทบาทในภาพยนตร์ของโรเบิร์ต อัลท์แมน เรื่อง Gosford Park และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากภาพยนตร์ของไนเจล โคล เรื่อง Calendar Girls และเธอแสดงนำร่วมกับโรเบิร์ต เร็ดฟอร์ด ในภาพยนตร์เรื่อง The Clearing
ในช่วงต้นยุค 1990 เมียร์เรนแสดงนำในซีรีส์ที่คว้าทั้งรางวัลเอ็มมี่และรางวัลบัฟต้า เรื่อง Prime Suspect ซึ่งเธอรับบทเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่สืบสวน เจน เทนนิสัน เมื่อไม่นานมานี้เธอเสร็จสิ้นจากการถ่ายทำ Prime Suspect ปีสุดท้าย ในปี 1999 เธอคว้ารางวัลเอ็มมี่และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำจากการรับบทนำในผลงานเรื่อง The Passion of Ayn Rand
บทนำในผลงานทางทีวีอเมริกันของเธอ ยังรวมถึงเรื่อง Losing Chase ที่ทำให้เธอคว้ารางวัลลูกโลกทองคำดารานำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์และมินิซีรีส์ที่สร้างสำหรับฉายทางทีวีในปี 1996, The Passion of Ayn Rand (ได้รับรางวัลเอ็มมี่สาขาดารานำหญิงยอดเยี่ยม), Door to Door (ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ, รางวัลเอ็มมี่ และรางวัลจากสมาคมนักแสดง), The Roman Spring of Mrs Stone (ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ, รางวัลเอ็มมี่ และรางวัลจากสมาคมนักแสดง) และผลงานการร่วมสร้างของซีโฟร์และเอชบีโอ เรื่อง Elizabeth I ซึ่งได้รับคำชมไปอย่างท่วมท้นทั้งในอังกฤษและอเมริกา
เมียร์เรนประสบความสำเร็จในแวดวงละครเวทีเช่นกัน ผลงานการแสดงของเธอที่ได้รับคำชมในยุค 1970 ได้แก่ Teeth n Smiles ซึ่งเปิดการแสดงที่เดอะโรยัลคอร์ต และเรื่อง The Seagull ที่ไลริค เธอยังได้รับคำชมจากละครเวทีเรื่อง Antony and Cleopatra ที่เธอร่วมแสดงกับไมเคิล แกมบอน, ผลงานละครเวทีของอาร์เธอร์ มิลเลอร์ เรื่อง Two-Way Mirror, Orpheus Descending, A Month in the Country ซึ่งถือเป็นละครบรอดเวย์เรื่องแรกของเธอ และยังทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโทนี่ และเรื่อง The Dance of Death on Broadway ซึ่งเธอแสดงนำร่วมกับเซอร์เอียน แม็คเคลเลน เมื่อเร็วๆ นี้ เธอยังแสดงนำในละครเวทีเรื่อง Mourning Becomes Electra ที่โรงละครเนชั่นแนลเธียเตอร์ ซึ่งทำให้เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโอลิวิเย่ สาขาดารานำหญิงยอดเยี่ยม
เมียร์เรนได้รับยศ Dame of the British Empire ในปี 2003
