คาร์ล ไรเนอร์ เป็นตำนานทางด้านการแสดงตลกอย่างแท้จริง ในอาชีพที่ยาวนานกว่า 60 ปี เขาได้เขย่าลูกคอด้วยการแสดงของเขาทางจอแก้ว จอเงินและอัลบั้มตลกและหนังสือต่าง ๆ มากมาย เขาเริ่มมีชื่อเสียงในตอนแรกในระหว่างการร่วมแสดงทางของ Golden Age of Television ในรายการโชว์ที่ชื่อ Your Show of Shows โดยเขาได้เปลี่ยนรูปแบบการโชว์ตลกทางโทรทัศน์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ของเขาให้กับรายการ The Dick Van Dyke Show ในฐานะผู้สร้างภาพยนตร์ เขาได้กำกับการแสดงภาพยนตร์อาทิ Oh, God! และเรื่อง The Jerk ในช่วงต้นของปีนี้ทางสมาคม Directors Guild of America นำมอบรางวัลสมาชิกกิติมศักดิ์ตลอดชีพ Honorary Life Member Award ให้กับเขา
เขาเกิดในบรองซ์ ไรเนอร์สมัครเข้าเรียนโรงเรียนการแสดงเมื่ออายุได้ 16 ปีและไม่นานก็ได้รับบทบทในเรื่อง The Merry Widow ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง เขาได้ฝึกเป็นพนักงานวิทยุให้กับกองทัพอากาศและได้เรียนภาษาฝรั่งเศสเพื่อปฏิบัติงานในฐานะล่ามและยังคงทำหน้าที่ให้ความบันเทิงในฐานะนักแสดงตลกและดาราอย่างต่อเนื่องโดยร่วมกับมอร์ริส อีแวนส์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ความบันเทิง Special Services Entertainment Unit โดยออกทัวร์ไปทั่วทวีปแปซิฟิคเป็นเวลาถึง 18 เดือนในละครชุดของ G.I.
เมื่อเขาปลดประจำการอย่างทรงเกียรติในปี 1946 ไรเนอร์ก็ได้รับบทเด่นในคณะละครแห่งชาติเรื่อง Call Me Mister สามปีต่อมาในงานละครเพลงของบรอดเวย์หลายเรื่อง เขาก็ได้ก้าวเข้าสู่วงการโทรทัศน์โดยร่วมงานกับ ซิด ซีซาร์และอิมโมจีน โคคาในรายการโชว์ที่ชื่อว่า Your Shows of Shows ในปี 1954 ไรเนอร์ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลเอมมี่ อวอร์ดสำหรับการแสดงของเขาในภาพยนตร์ซีรี่ส์ ต่อมาเขาได้รับรางวัลเอมมี่ อวอร์ดถึงสองรางวัลสำหรับผลงานของเขาในรายการโชว์ที่มีชื่อว่า Caesar's Hour
ในปี 1961 ไรเนอร์ได้สร้างสรรค์รายการ The Dick Van Dyke Show ซึ่งได้กลายมาเป็นหนึ่งในรายการซิดคอมที่ได้รับความชื่นชอบรายการหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวงการโทรทัศน์ ทำให้ผู้ร่วมงานทั้งดารานำและแมรี่ ไทเลอร์ มัวร์ดังเป็นพลุแตก ผู้ชมจะจดจำไรเนอร์ได้ในบทบาทที่เขาแสดงเป็น อลัน แบรดี้ ผู้อำนวยการสร้างที่ชอบใส่ผมปลอม ในระหว่างที่รายการออกอากาศในช่วงเวลาห้าปี ไรเนอร์ได้รับรางวัลเอมมี่ อวอร์ดถึงห้ารางวัลสำหรับผลงานของเขาในฐานะผู้อำนวยการสร้างและผู้เขียนของซีรี่ส์นี้ ในปี 1967 ไรเนอร์ยังได้รับรางวัลเอมมี่ อีกครั้งหนึ่งในฐานะ Outstanding Writing for Variety Show สำหรับรายการพิเศษกับซิด ซีซาร์ อิโมจีน โคคาและโฮเวิร์ด มอร์ริส ในระหว่างที่ทำงานรายการ The Dick Van Dyke Show ไรเนอร์ก็ได้เขียนภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือเรื่อง The Thrill of It All นำแสดงโดยดอร์ริส เดย์ เจมส์ การ์เนอร์
เขาได้เริ่มงานการกำกับการแสดงภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในปี 1967 เรื่อง Enter Laughing ซึ่งเขาได้ร่วมแสดง โดยมีเค้าโครงมาจากหนังสือของเขาเอง จากนั้นเขาก็กำกับการแสดงเรื่อง The Comic ซึ่งเขาได้ร่วมแสดงและอำนวยการสร้าง ไรเนอร์ได้กำกับการแสดงภาพยนตร์สี่เรื่องนำแสดงโดย สตีฟ มาร์ติน; เรื่อง The Jerk เรื่อง All of Me เรื่อง Dead Men Dont Wear Plaid และเรื่อง The Man with Two Brains โดยทั้งสองเรื่องหลังนั้นเขาได้ร่วมเขียนอีกด้วย ผลงานสร้างชื่อของเขาในฐานะผู้กำกับการแสดงยังรวมไปถึงเรื่อง Wheres Poppa? นำแสดงโดย จอร์จ ซีกัลและรูธ กอร์ดอน; เรื่อง Oh, God! นำแสดงโดย จอร์จ เบิร์นและจอห์น เดนเวอร์; เรื่อง The One and Only ร่วมกับ เฮนรี่ วิลค์เลอร์; เรื่อง Summer Rental นำแสดงโดย เจมส์ แคนดี้; เรื่อง Summery School นำแสดงโดย มาร์ค ฮาร์มอน; เรื่อง Bert Rigby, Youre a Fool ซึ่งเขายังได้ร่วมเขียน; เรื่อง Sibling Rivalry กับ คริสตี้ อัลเลย์; เรื่อง Final Instinct กับอาร์แมนด์ แอสซานเต้และเคธ เนลลิแกนและเรื่อง That Old Feeling นำแสดงโดย เบธ มิดเลอร์และเดนนิส ฟาริน่า
ในฐานะนักแสดง ไรเนอร์ได้เป็นท่านรัฐบุรุษอาวุโส ในภาพยนตร์รวมดาราดังของสตีเวน โซเดอเบิร์กเรื่อง Oceans Eleven และเรื่อง Oceans Twelve ผลงานการแสดงในภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ยังรวมไปถึงเรื่อง The Russians Are Coming, The Russians Are Coming เรื่อง Its a Mad Mad Mad Mad World เรื่อง The Gazebo เรื่อง Generation เรื่อง Dead Men Dont Wear Plaid เรื่อง The End และเรื่อง Slums of Beverly Hills
ในปี 1995 ไรเนอร์ได้รับรางวัลเอมมี่ อวอร์ดสำหรับการเป็นนักแสดงรับเชิญให้กับซีรี่ส์คอมเมดี้เรื่อง Mad About You ผลงานทางจอแก้วล่าสุดยังรวมไปถึงการเป็นดารารับเชิญให้กับเรื่อง Beggars and Choosers ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลเอมมี่ รายการ The Bernie Mac Show เรื่อง Crossing Jordan เรื่อง Life with Bonnie และเรื่อง Boston Legal ในปี 2004 ไรเนอร์ได้อำนวยการบริหารและร่วมแสดงในรายการ The Dick Van Dyke Show Revisited ซึ่งทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลเอมมี่ในฐานะ Outstanding Special Class Program ไรเนอร์ยังเป็นนักประพันธ์ที่สามารถ
ในปี 1958 หนังสือเรื่องแรกของเขาซึ่งเป็นนิยายเกี่ยวกับอัตตะชีวะประวัติเรื่อง Enter Laughing ได้รับการตีพิมพ์ หลายปีต่อมาหนังสือเล่มนี้ได้กลายมาเป็นละครของบรอดเวย์ (ดัดแปลงโดย โจเซฟ สไตน์) และเป็นภาพยนตร์ทางจอเงิน ผลงานหนังสือเรื่องต่อมาของเขายังรวมไปถึงนิยายเรื่อง All Kinds of Love (ปี 1993) นิยายเรื่อง Continue Laughing (ปี 1995) หนังสือรวมเรื่องสั้นชื่อว่า How Paul Robeson Saved My Life (ปี 1999) เรื่องเล่าจากความทรงจำ My Anecdotal Life (ปี 2003) หนังสือสำหรับเด็ก Tell Me A Scary Story (ปี 2003) เรื่อง The Two Thousand Year Old Man Goes to School (ปี 2005) และเรื่อง NNNNN: A Novel (ปี 2006)
ในปี 1997 ไรเนอร์และเมล บรู๊ค ได้ออกซีดีและหนังสือในรูปแบบใหม่มีชื่อว่า The 2000 Year Old Man in the Year 2000 ซึ่งทำให้พวกเขาได้รับรางวัล แกรมมี่ อวอร์ดในฐานะ Best Spoken Word/Comedy Album ในปี 1999 ชื่อของไรเนอร์ได้ถูกนำไปสู่ Television Hall of Fame และในปีต่อมาเขาได้รับรางวัล Mark Twain Humour Award ที่ศูนย์ Kenndy Center ในกรุง วอชิงตัน