แลร์รี่ โคเฮน เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ด้วยชื่อเสียงสองรูปแบบ อย่างแรกคือ เขาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำในการสร้างสรรค์หนังอิสระประเภทสมัยใหม่ ซึ่งทั้งประพันธ์ กำกับ และอำนวยการสร้างหนังกว่า 20 เรื่อง และอย่างที่สองยังประสบความสำเร็จในอาชีพผู้เขียนบทภาพยนตร์ให้กับหนังเรื่องดัง ทั้งทางจอเงินและโทรทัศน์
โคเฮนเป็นผู้ที่ชื่นชมภาพยนตร์มาตั้งแต่ครั้งยังอยู่ชั้นประถม สร้างชื่อเสียงด้วยการเขียนบทโทรทัศน์ในสมัยวัยรุ่น ในช่วงที่ศึกษาใน City College of New York เขายังได้เป็นผู้เขียนเรื่องราวตอนคลาสสิค False Faceให้กับเรื่องสยองขวัญ Way Out ซึ่งดำเนินรายการโดย โรอัล ดาห์ ซึ่งต่อมานักประพันธ์มีระดับอย่างเรจินัลด์ โรส ได้ค้นพบความสามารถของเขา และได้กลายมาเป็นผู้ทุ่มเทให้กับซีรี่ส์โทรทัศน์เรื่องดังที่ได้รับรางวัลอย่าง The Defenders ด้วยการเขียนบทถึง 13 ตอน ซึ่งทำให้เขาได้รับเกียรติคว้าสองรางวัล Television Academy
ต่อมาโคเฮนได้สรรค์สร้างงานเขียนใน The Fugitive ก่อนงานซีรี่ส์สองเรื่อง The Invaders และ Branded ซึ่งทำให้กลายเป็นนักประพันธ์บทที่ได้รับการเรียกหา และยังเขียนภาคต่อของเรื่อง Magnificent Seven ที่ประสบความสำเร็จ ในต้นศตวรรษที่ 70 เขาได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้นในการเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ ให้กับหนังมากมาย เช่น Return of the Seven นำแสดงโดย ยูล บรินเนอร์, Daddy's Gone A-Hunting กำกับการแสดงโดยมาร์ค ร็อบสัน และ El Condor กำกับการแสดงโดย จอห์น กิลเลอมิน และอำนวยการสร้างโดยอังเดร เดอ โทท์
โคเฮนเริ่มกระตือรือล้นในอันที่จะกำกับการแสดงงานของตนเอง และผลงานกำกับเรื่องแรกของเขา คือ Bone หลังจากนั้นเขากำกับและอำนวยการสร้างหนังอย่างต่อเนื่อง จากงานเขียนบทของตนเอง รวมทั้งเรื่องราวดราม่าอย่าง The Private Files of J. Edgar Hoover กับดารามากมายรวมถึงเจ้าของรางวัลออสการ์อย่าง โบรเดอริค, ครอว์ฟอร์ด, แดน เดลีย์ และโฮเซ่ เฟอเรอร์ ใน God Told Me To, It Lives Again, The American Success Company (แสดงโดยเจฟ บริดเจ็ตส์), Full Moon High (โดยอดัม และอลัน ฮาร์กิน) เรื่องเสียดสีสังคมอย่าง The Stuff, Its Alive, A Return To Salem's Lot (แสดงโดยผู้กำกับการแสดงแซมมวล ฟุลเลอร์ และแนะนำน้องใหม่ทารา รีด), Wicked Stepmother (แสดงโดยเบ็ตตี้ เดวิส) และ Ambulance (แสดงโดยอีริค โรเบิร์ตส, เจมส์ เอิร์ล โจนส์ และเรด บัตตันส์ เจ้าของรางวัลตุ๊กตาทอง) ผลงานกำกับเรื่อง Original Gangstas กับแพม ไกรเออร์
ในช่วงปีศตวรรษ 70 และ 80 นอกเหนือจากงานด้านภาพยนตร์ของเขา ยังได้เขียนบทให้ละครบรอดเวย์ เรื่อง Trick แสดงโดยแทมมี่ กริมส์ อำนวยการสร้างโดย โจชัว โลแกน และละครเวทีอื่น ๆ ได้แก่ ละครอังกฤษ เรื่อง Motive (กับออนเนอร์ แบล็กแมน) และนอกเวทีบรอดเวย์ เรื่อง Nature of The Crime กับโทนี่ โลเบียงโก ผลงานเขียนบทคือเรื่อง Fallen Eagle ให้กับ The Sandford Meisner Theatre Company แห่งลอสแองเจลิส
หลังจากกว่า 20 ปีแห่งการเขียนบท กำกับ และอำนวยการสร้าง จนกลายมาเป็นปูชนียบุคคลที่โด่งดังในโลกไซไฟและแฟนตาซี โคเฮนได้เบนเข็มกลับสู่เส้นทางที่เขาแรกรักในการเขียนบทให้ทั้งงานโทรทัศน์และภาพยนตร์ ในระหว่างนั้นเขาได้จารึกงานมากมาย ที่เป็นหนังดังฉายเป็นตอนทางโทรทัศน์ ได้แก่ Columbo, The New Defenders, Ed McBain's 87th Precinct,, NYPD Blue, มินิซีรี่ส์ทางโทรทัศน์ The Invaders และเรื่องรีเมค Body Snatchers สำหรับผลงานสร้างชื่อบนจอใหญ่ของเขา ได้แก่ หนังระทึกขวัญลึกลับ Best Seller แสดงโดยไบรอัน เดนเนฮี และเจมส์ วู้ดส และเรื่อง Guilty As Sin แสดงโดยรีเบกก้า เดอ มอร์เนย์ และกำกับการแสดงโดย ซิดนีย์ ลูเม็ต ซึ่งเป็นหนังของทัชสโตน
ตลอดระยะเวลาหลายปี โคเฮนได้กวาดรางวัลอันทรงเกียรติและชื่อเสียง จากภาพยนตร์ของเขาซึ่งขจรขจายไปทั่วโลก เขายังได้รับรางวัล Avoriaz Film Festival Jury Prize ถึงสองครั้งจากคณะกรรมการซึ่งนำโดยโปลันสกี้ และสปีลเบิร์ก และเมื่อปีกลายได้รับเกียรติให้นำเสนอภาพยนตร์ในความทรงจำของเขาถึงสิบเรื่องที่ Stockholm Film Festival และเช่นเดียวกันที่ Brisbane Film Festival ในออสเตรเลีย, งาน Joseph Papp's New York Shakespeare Festival ซึ่งได้ให้เกียรติกับงานของโคเฮนเรื่อง Gods And Demons A Tribute To The Maverick Independent Filmmaker เป็นเวลาถึงหนึ่งเดือนเต็ม ซึ่งเป็นการต่อเนื่องของการฉายนานหนึ่งเดือนที่ Chicago Art Institute กับเรื่อง It's a Bird, It's a Plane, Its Larry Cohen!