ฮิวจ์ แกรนท์ เขาเข้าสู่วงการภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในชื่อ ฮิวจี้ แกรนท์ กับผลงานเรื่อง Priviledged (1982) หลังจากนั้น เขาร่วมแสดงละครเบาสมองอยู่ระยะหนึ่ง แล้วจึงก่อตั้งคณะของตัวเอง ชื่อว่า Jockeys of Norfolk ต่อจากนั้น เขามีงานทางโทรทัศน์อยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์ระดับอาชีพเป็นเรื่องแรกใน White Mischief (1987) ซึ่งแม้จะเป็นเพียงบทสั้น ๆ เท่านั้น แต่ในปีเดียวกัน เขาก็ได้บทที่เป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น เช่นบท ลอร์ดไบรอน ใน Rowing With the Wind แล้วตามด้วยบท คลีฟ เดอร์แฮม ใน Maurice ที่ผู้กำกับ เจมส์ ไอโวรี่ ดัดแปลงจากงานนิยายของ อี เอ็ม ฟอร์สเตอร์ ซึ่งบทหลังสุดนี้ ยังทำให้แกรนท์ได้รับรางวัลผู้แสดงนำยอดเยี่ยม จากเทศกาลหนังเมืองเวนิซด้วย
แม้ว่าจะมีผลงานที่ได้รับเสียงชื่นชมดังกล่าว แต่หนังเรื่องต่อมา ๆ ของแกรนท์กลับวนเวียนอยู่กับเรื่องราวรัก ๆ ใคร่ ๆ ที่ไม่มีอะไรน่าจดจำ ยกเว้นอยู่เพียงเรื่องเดียวที่พอมีอะไรชวนให้นึกถึงอยู่บ้าง คือ The Lair of the White Worm (1988) ของ เคน รัสเซล ซึ่งแกรนท์แสดงนำเป็น ลอร์ดเจมส์ ดิแอมป์ตั้น ผู้พยายามหยุดยั้งแวมไพร์สาวสวยเซ็กซี่ (อแมนด้า โดโนโฮ)
แกรนท์กลับมาร่วมงานกับผู้กำกับ เจมส์ ไอโวรี่ อีกครั้ง ในเรื่อง The Remains of the Day (1993) ที่เขาได้ร่วมแสดงกับ แอนโทนี่ ฮ็อพกินส์ และ เอ็มม่า ทอมป์สัน แต่เรื่องที่สร้างความโด่งดังให้กับเขา เป็นอีกสองเรื่องต่อมาในปี 1984 คือ Sirens และ Four Weddings and a Funeral โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องหลัง ที่ทำให้เขากลายเป็นดาราดังในชั่วข้ามคืน และได้ขึ้นปกนิตยสารชั้นนำ ตลอดจนเป็นแขกรับเชิญในรายการทอล์คโชว์ต่าง ๆ เป็นว่าเล่น
เพียงปีถัดมา แกรนท์ก็โด่งดังขึ้นหน้าหนึ่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นข่าวฉาวที่เขาถูกตำรวจจับ ในข้อหาซื้อบริการทางเพศจากหญิงขายบริการชาวแอลเอคนหนึ่ง ทำให้หนังเรื่อง Nine Months (1995) ที่เขาแสดงนำและเข้าฉายในช่วงนั้นพอดี ได้แรงกระพือจากข่าวคาวของเขา เช่นเดียวกับเรทตั้งของรายการ The Tonight Show ที่ผู้ชมได้เห็นแกรนท์กล่าวคำขอโทษต่อ เอลิซาเบธ เฮอร์ลีย์ ดาราสาวผู้เป็นคู่ควงของเขาในขณะนั้น
อย่างไรก็ตาม แกรนท์สามารถกลับมาชนะใจผู้ชมได้อีกครั้ง จากการแสดงได้อย่างถึงบทในเรื่อง Sense and Sensibility (1995) ซึ่งเป็นการร่วมงานกับ เอ็มม่า ทอมป์สัน อีกครั้ง แต่ผลงานเรื่องถัดมาของเขา ในหนังระทึกขวัญเรื่อง Extremem Measures (1996) ที่เป็นงานสร้างของบริษัทของเฮอร์ลีย์ คือ ซิเมียน ฟิล์มส กลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คาด
แกรนท์ก็หายหน้าหายตาไปพักใหญ่ จนกระทั่งในปี 1999 ผู้ชมจึงได้เห็นเขาอีกครั้ง ในหนังรักเบาสมองเรื่อง Notting Hill ที่เป็นเหมือนภาคต่อของ Four Weddings หนังประสบความสำเร็จดี ทั้งด้านรายได้และเสียงวิจารณ์ และยังเป็นเชื้อไฟให้เขาพบกับความสำเร็จต่อเนื่องอีก กับ Mickey Blue Eyes ในปีเดียวกัน ตลอดจนในผลงานการกำกับของ วู๊ดดี้ อัลเลน เรื่อง Small Time Crooks (2000), เรื่อง Bridget Joness Diary (2001) และผลงานล่าสุด คือ About A Boy (2002).