ทาคาชิ มิอิเกะ สำเร็จการศึกษาจาก Yokohama Housou Eiga Senmon Gakuin (ปัจจุบันคือ Japan Academy of Moving Images) เขาเริ่มงานกับผู้กำกับฯ มากประสบการณ์ อย่างโชเฮ อิมามูระ และฮิเดโอะ องจิ ก่อนจะมีผลงานกำกับของตัวเองเรื่องแรก เป็นหนังวิดีโอเรื่อง Eyecatch Junction มิอิเกะผ่านงานกำกับหนังวิดีโอมาแล้วมากมาย จนกระทั่งปี 1995 ถึงได้มีผลงานกำกับทางจอเงิน นั่นคือ Daisan No Gokudo กับ Shinjuku Triad Society เขากลายเป็นที่รู้จักจากสไตล์การกำกับอันสร้างสรรค์ไม่ซ้ำใครใน Fudoh (1996) เด่นดังยิ่งขึ้นใน Bird People of China (1998) และดังเป็นพลุแตกจาก Dead or Alive (1999) ในขณะที่สไตล์การถ่ายทำอันแปลกประหลาดใน Audition นั้น พาเขาข้ามน้ำข้ามทะเลไปดังระเบิดยังต่างบ้านต่างเมือง โดยชนะรางวัล KNF award และ FIPRESCI จากเทศกาลภาพยนตร์ Rotterdam International Film Festival ครั้งที่ 29 นอกจากนี้ มิอิเกะยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสิบผู้กำกับซึ่งประสบความสำเร็จมากที่สุดจากนิตยสาร TIME ตั้งแต่นั้นมา เขาก็กลายเป็นผู้กำกับฯชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งมีผลงานออกมาไม่ขาดสาย ทั้งยังถ่ายทำเร็ว สร้างผลงานได้ถึงสองสามเรื่องต่อปี ส่งผลให้เขามีผลงานหลากหลาย ตั้งแต่หนังอาชญากรรมดิบเถื่อนไปจนถึงหนังเพลง อาทิ The City of Lost Souls (2000), Ichi the Killer (2001), The Happiness of the Katakuris (2001), Graveyard Of Honor (2002) และ Zebraman (2003)
ปี 2003 ผลงานเรื่อง Gozu ได้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ และสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นหนังวิดีโอเรื่องแรกซึ่งได้รับเลือกให้เข้าชิงในสาขา Directors Fortnight อย่างเป็นทางการ ปีถัดมา ผลงานเรื่อง One Missed Call กลายเป็นภาพยนตร์สุดฮิตถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศ ในขณะที่ ผลงานอีกชิ้นหนึ่ง นั่นคือ IZO ก็ได้เข้าชิงอย่างเป็นทางการในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเวนิส มาถึงปี 2005 ผลงานอย่าง The Great Yokai War นั้น กวาดรายได้ไปมหาศาล ส่วน A Big Ban Love : Juvenile ได้รับเลือกให้เข้าฉายอย่างเป็นทางการในเทศกาลภาพยนตร์กรุงเบอร์ลิน ทว่าภาพยนตร์ภาษาอังกฤษเรื่องแรก Masters of Horror Imprint กลับถูกระงับฉายในอเมริกา เนื่องจากสยดสยองเกินกว่าจะรับได้ อย่างไรก็ตาม เขายังมีผลงานตื่นเต้นเร้าใจในอนาคตอันใกล้อีกมากมาย เป็นต้นว่า Bishonen and Yattaaman (ฤดูใบไม้ผลิปี (2009)
นอกจากการกำกับภาพยนตร์แล้ว มิอิเกะยังร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่องต่าง ๆ ด้วย อาทิ Kenka No Hanamichi (1996) และ Agitator ซึ่งเขากำกับเอง รวมทั้งภาพยนตร์โดยผู้กำกับฯ ทาเคชิ มิยาซากะ เรื่อง Kyoufu!! Namamushi Yakata No San-shimai (1997), ภาพยนตร์โดย เป็นเอก รัตนเรือง ในปี 2003 เรื่อง Last Life in The Universe (เรื่องรัก น้อยนิด มหาศาล), ภาพยนตร์โดย ยาซูโอะ อิโนะอุเอะ เรื่อง The Neighbor No.Thirteen (2005) และภาพยนตร์โดยผู้กำกับฯ เอลิ รอธ ในปี 2006 เรื่อง Hostel ซึ่งมี เควนติน ตารันติโน เป็นผู้อำนวยการสร้าง ในทางกลับกัน เควนตินจะมาร่วมแสดงใน Sukiyaki Western Django ด้วยเช่นกัน อันเปรียบเสมือนการแลกเปลี่ยนมิตรภาพระหว่างอัจฉริยบุคคลทางด้านภาพยนตร์ทั้งสองนั่นเอง