ควีน ลาติฟาห์ เป็นนักดนตรี นักแสดงทางโทรทัศน์ และภาพยนตร์, ประธานบริษัทเพลง นักเขียน และนักธุรกิจ เธอมีพรสวรรค์ในเรื่องสไตล์และวัตถุดิบ ควีน ลาติฟาห์กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงที่เบ่งบานในความเป็นองค์กรบันเทิงโดยหญิงเดี่ยว ได้รับคำชมจากสื่อและวงการว่าเป็นพลังที่ควรตระหนัก ลาติฟาห์ทำมาแล้วทุกอย่าง และยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอความเร็วลง
เธอได้รับคำชมอย่างท่วมท้น และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ลูกโลกทองคำ และ SAG Award™ สาขา Best Supporting Actress จากการรับบทเป็นมาม่า มอร์ตันในภาพยนตร์เพลงยอดเยี่ยมของ Miramax เรื่อง Chicago ต่อจากเรื่อง Chicago ลาติฟาห์ได้แสดงในหนังฮิตบ็อกซ์ออฟฟิศเรื่อง Bringing Down the House ซึ่งเธอได้อำนวยการบริหารด้วย
ลาติฟาห์จะสานต่อความสำเร็จในอีกสองปีข้างหน้าด้วยการรับบทในภาพยนตร์ของ MGM เรื่อง Barbershop 2: Back in Business (ภาคต่อของหนังเรื่องฮิต Barbershop) เรื่อง Cookout ภาพยนตร์เรื่องแรกจากบริษัทโปรดักชั่นของเธอ Flavor Unit ภาพยนตร์แอ็คชั่นของพาราเมาท์ Bad Girls กับเจด้า พิงเก็ต สมิธ (ซึ่งลาติฟาห์จะอำนวยการสร้างด้วย) และภาพยนตร์รีเมคของ Miramax จากหนังเกาหลี My Wife as a Gangster
ควีน ลาติฟาห์ยังเป็นหนึ่งในบรรดาศิลปินเร็พเปอร์ที่เป็นที่นับถืออย่างยิ่ง จากผลงานบันลือโลกครั้งแรกของเธอในปี 1989 เรื่อง All Hail the Queen ซึ่งเป็นการตั้งมารตฐานให้กับภาพพจน์และพื้นฐานให้กับแร็พเปอร์หญิง จนถึงก้าวที่หาญกล้าของเธอสู่เพลง R&B ลาติฟาห์ยังคงชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงในวงการเพลงควรเป็นอย่างไร เธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ รวมทั้ง Grammy Award for Best Solo Rap Performance ในปี 1994 สำหรับ Black Reign ซึ่งเธอได้แสดงความสามารถทั้งเต้นเร็พและร้องเพลง ในอัลบั้มนี้ลาติฟาห์ร่วมทำงานกับ Missy Elliot และกลุ่มศิลปินหน้าใหม่ภายใต้ชื่อบริษัท Flavor Unit ของเธอ รวมทั้งกับ Cole, Gotti และ Picasso
เธอมี CD เพลงร้องอัลบั้มแรก The Dana Owens Album (ชื่อจริงของเธอ) CD นี้รวมผลงานคลาสสิคเพลงป็อพ แจ๊ซ และ R&B อย่างเช่น Lush Life, I Put a Spell on You, Hard Times และ Hello Stranger
และต่อมาก็มี Flavor Unit Entertainment บริษัทที่มีควีน ลาติฟาห์ และหุ้นส่วน ชา-คิม คอมแปร์ เป็นเจ้าของและดำเนินงาน บริษัทตั้งอยู่ที่นิวเจอร์ซีย์และจัดการให้กับศิลปินเพลงชื่อดังหลายคน เป็นเวลาสองปีที่ควีน ลาติฟาห์ เป็นพิธีกรให้กับรายการทอล์คโชว์ความยาวหนึ่งชั่วโมง ที่มีชื่อว่า Queen Latifah โปรแกรมประจำวันนี้นำเสนอความบันเทิงและเรื่องดังๆ รวมทั้งประเด็นของคนจริงๆ และเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง มีความตรงไปตรงมา เที่ยงตรง เปิดเผย และมีมุมมองที่มีสีสันของมันเอง เป้าหมายในการแก้ปัญหา ซีรีส์โทรทัศน์ชุดแรกของเธอ Living Single ประสบความสำเร็จอย่างสูง
นับแต่การปรากฎตัวในจอครั้งแรกของลาติฟาห์กับภาพยนตร์ของสไปค์ ลีเมื่อปี 1992 เรื่อง Jungle Fever อาชีพภาพยนตร์ของเธอก็เริ่มขึ้น เธอแสดงใน Set it Off ซึ่งทำให้เธอได้เข้าชิงรางวัล Spirit Award สาขา Best Actress และร่วมแสดงดับฮอลลี่ ฮันเตอร์ และแดนนี่ เดอ วิโต้ ในหนังที่ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ เรื่อง Living Out Loud ในปี 1999 เธอแสดงในเรื่อง The Bone Collector กำกับฯ โดยฟิลลิป นอยซ์และนำแสดงโดยเดนเซล วอชิงตัน ในปี 2002 เธอร่วมแสดงกับเทย์ ดิกส์ และซาน่า เลแธม ในหนังของฟ็อกซ์ เซิร์ชไลท์ เรื่อง Brown Sugar
นอกเหนือจากการทำงานเพลง ภาพยนตร์และโทรทัศน์ ควีน ลาติฟาห์ ยังได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับแรงผลักดันของตัวเอง ในชื่อ Ladies First: Revelations of a Strong Woman
ควีน ลาติฟาห์ เป็นคนที่ขยันในการไขว่คว้าหาความเป็นเลิศ ดังมีหลักฐานจากบรรดารางวัลที่เธอได้รับจากผลงานในภาพยนตร์และเพลง ความห่วงใยอย่างจริงแท้ต่อผู้อื่นเห็นได้จากการสละเวลาและทรัพย์สินจำนวนมากให้กับองค์กรที่มีคุณค่าหลายแห่ง ทุก ๆ ปี ควีน ลาติฟาห์จะทำหน้าที่ประธานร่วมของ Lancelot H. Owens Scholarship Foundation, Inc. ก่อตั้งโดยมารดาของเธอ ริต้า โอเวนส์ เพื่อเป็นที่ระลึกแห่งความทรงจำของบุตรชายและพี่ชายอันเป็นที่รัก มูลนิธิมอบทุนให้กับนักเรียนซึ่งเรียนดีเป็นเลิศแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์