คริส โคลัมบัส เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลกภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด (Hollywood) ยุคใหม่นับตั้งแต่ผลงานโดดเด่นที่ผสมผสานเนื้อหาหลาย ๆ แนวเข้ามาใส่ไว้ในภาพยนตร์เรื่องเดียวอย่าง Gremlins กับ The Goonies เมื่อปี 1980 ขึ้นหิ้งผลงานคลาสสิค มาจนถึง Harry Potter ที่กลายเป็นภาพยนตร์ซึ่งสร้างอ้างอิงจากหนังสือขายดีที่ประสบความสำเร็จสูงสุดตลอดกาล
โคลัมบัสเกิดในเมืองสแปงเกลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย และเติบโตในย่านนอกเมืองยังสทาวน์ รัฐโอไฮโอ ช่วงวัยรุ่นเขาก็ได้รับอิทธิพลจาก Marvel Comics และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างหนังสือการ์ตูนกับสตอรี่บอร์ด จนกระทั่งเข้าเรียนชั้นมัธยมก็เริ่มสร้างหนัง 8 มิลลิเมตร และวาดสตอรี่บอร์ดเอง ซึ่งเขาก็ยังทำเช่นนั้นมาจวบจนทุกวันนี้ พอจบชั้นมัธยมแล้วเขาก็เข้าเรียนหลักสูตร Directors Program ของ Tisch School of the Arts สถาบันชื่อดังแห่ง New York University
โคลัมบัสประสบความสำเร็จจากการเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์ก่อน โดยขาย Jocks บทภาพยนตร์เรื่องแรกที่เป็นกึ่งอัตชีวประวัติเฮฮาว่าด้วยชีวิตของเด็กผู้ชายในโรงเรียนแคธอลิค ผู้พยายามหาทางเป็นสมาชิกของทีมฟุตบอลให้จนได้ เมื่อจบการศึกษาจาก NYU แล้วโคลัมบัสก็เขียนบท Reckless (1984) ภาพยนตร์ดราม่าที่ว่าด้วยเมืองเล็กที่อ้างอิงจากประสบการณ์ที่เขาไปเป็นพนักงานโรงงานเล็ก ๆ ในโอไฮโอ ที่เจมส์ โฟลี่ มากำกับ และนำแสดงโดยไอแดน ควินน์ กับดาริล แฮนน่า
โคลัมบัสดังเป็นพลุคับฮอลลีวู้ด เมื่อสตีเว่น สปีลเบิร์ก อำนวยการสร้างภาพยนตร์หลายเรื่องจากบทของเขา และประสบความสำเร็จติดต่อกันไม่เว้นปี รวมทั้ง Gremlins (1984) ที่โจ ดังเต้ กำกับ, และ The Goonies (1985) ที่ริชาร์ด ดอนเนอร์ กำกับและกลายเป็นผลงานพลิกโฉมวงการด้วย มุขฮาหลุดกรอบ, และขยันแทรกประเด็นแปลกใหม่ไม่คุ้นตาต่างไปจากหนังลุ้นระทึกผจญภัยที่ขึ้นหิ้งคลาสสิคทั้งหลาย หลังจากนั้นโคลัมบัสเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Young Sherlock Holmes ที่กำกับโดยแบร์รี่ เลวินสัน
ความสำเร็จจากงานเขียนบทภาพยนตร์ส่งให้โคลัมบัสได้กำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ Adventures in Babysitting (1987) ที่นำแสดงโดย เอลิซาเบ็ธ ชู การพบกับจอห์น ฮิวจ์ ทำให้เขาได้กำกับ Home Alone (1990) ภาคแรกของไตรภาคสุดฮา ซึ่ง Home Alone ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนต้องสร้างภาคต่อ Home Alone 2: Lost in New York ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากทั่วทุกมุมโลกและเป็นการแจ้งเกิดแม็คคูเลย์ คัลคิ้น ในโลกมายาอย่างเต็มตัว ส่วน Only the Lonely (1991)
ผลงานดราม่าตลกหวานปนขมขื่นที่โคลัมบัสกำกับจากบทภาพยนตร์ของเขาเองก็ได้รับการยกย่องว่าส่งให้จอห์น แคนดี้ ผู้ล่วงลับไปแล้วได้แสดงบทที่เหมาะกับเขาสุด ๆ และยังเป็นผลงานหวนคืนสู่จอภาพยนตร์อีกครั้งของมัวรีน โอฮาร่า ด้วย
ผลงานตลกของโคลัมบัสเรื่อง Mrs. Doubtfire (1993) ที่รอบิ้น วิลเลี่ยม กับแซลลี่ ฟิลด์ นำแสดงก็ชนะใจนักวิจารณ์และผู้ชมทุกเพศทุกวัย หลังจากนั้นเขาก็กำกับ Nine Months (1995) ที่นำแสดงโดยฮิวจ์ แกรนท์ กับจูเลียน มัวร์ ก่อนจะกำกับ Stepmom (1998) ที่นำแสดงโดยจูเลีย โรเบิร์ต กับซูซาน ซาแรนดอน เขายังรับชานหินเมื่อถูกทาบทามให้กำกับ Harry Potter and the Sorcerers Stone (2001)
ภาพยนตร์ภาคแรกที่สร้างอ้างอิงจากหนังสือขายดีของเจ เค โรว์ลิ่ง ที่ผู้อ่านหนังสือทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัยตั้งตารอคอย ซึ่งโคลัมบัสเลือกนักแสดงเยาวชนหน้าใหม่อย่างแดเนียล แรดคลิฟ, เอ็มม่า วัตสัน และรูเพิร์ต กรินท์ มารับบทแฮร์รี่ พอตเตอร์, เฮอร์ไมโอนี่ แกรงเกอร์ และรอน วีสลี่ย์ ซึ่งก็เหป็นการพิสูจน์ความสามารถของเขาในการปั้นและกำกับนักแสดงรุ่นเยาวชนให้กลายเป็นนักแสดงภาพยนตร์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ
ความสำเร็จอย่างมหาศาลของ Harry Potter and the Sorcerers Stone ตามมาด้วย Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002) ซึ่งก็ประสบความสำเร็จไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เขายังเป็นผู้อำนวยการสร้าง Harry Potter and the Prisoner of Azkaban, กำกับ RENT ซึ่งดัดแปลงจากละครเวที Broadway เจ้าของรางวัล Pulitzer Prize และอำนวยการสร้าง Night at the Museum (2006) ที่นำแสดงโดยเบน สติลเลอร์, กำกับโดยชอว์น เลวี่, จากบทของโรเบิร์ต เบ็น กาแรนท์ กับโธมัส เล็นนอน และกวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 550 ล้านเหรียญสหรัฐฯ