ฟิลลิป กลาส เป็นหนึ่งในบรรดาผู้เริ่มคิดค้นงานเพลงสมัยใหม่ เกิดในบัลติมอร์, แมรีแลนด์ เขาได้เริ่มต้นฝึกเรียนดนตรีตอนอายุ 6 ขวบและเรียนฟลุตตอน 8 ขวบ ต่อมาเขาได้เข้าเรียนที่ University of Chicago ตอนอายุ 15 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ประพันธ์เพลง เขาได้ย้ายไปนิวยอร์กหลังจากได้เข้าเรียนและจบการ ศึกษาจาก Julliard School เมื่ออายุ 23 เขาได้ย้ายไปปารีสและใช้เวลา 2 ปี ในการเรียนหลักสูตรเร่งลัดกับนาเดีย บูแลงเกอร์ ในปารีส กลาสได้ถูกว่าจ้างให้ถอดเพลงอินเดียของราวิ แชนการ์ให้เป็นโน้ตเพลงตะวันตก และเมื่อเขากลับไปนิวยอร์คเขาก็เริ่มนำเทคนิคตะวันออกมาใช้ในงานเพลงของเขา
ในปี 1974 กลาสได้ร่วมทำงานในโปรเจ็คที่สร้างสรรค์และโดดเด่นเป็นจำนวนมาก และสร้างสรรค์คอลเล็คชั่นเพลงสมัยใหม่สำหรับวงของเขา The Philip Glass Ensemble และทำงานให้กับ Mabou Mines Theater Company ซึ่งกลาสได้ร่วมก่อตั้ง ในช่วงนั้นแต่งให้กับ Music in Twelve Parts ตามมาด้วยผลงานโอเปร่าเรื่องดัง Einstein on the Beach ซึ่งเขาสร้างสรรค์ร่วมกับโรเบิร์ต วิลสันในปี 1976
นับตั้งแต่เรื่อง Einstein กลาสได้ขยายความสามารถของเขาไปเป็นงานเพลงโอเปร่า, แดนซ์, ละครเวที, วงเชมเบอร์, ออเคสตร้า, และภาพยนตร์ ผลงานของเขาในภาพยนตร์ของ มาร์ติน สกอร์เซสซี เรื่อง Kundun ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง และผลงานของเขาในภาพยนตร์ของ ปีเตอร์ เวียร์เรื่อง The Truman Show ทำให้เขาได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ ผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ของเขาในภาพยนตร์ของ สตีเฟ่น ดัลดรี เรื่อง The Hours ได้รับการเสนอชื่อเข้างชิงรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัลตุ๊กตาทอง รวมทั้งได้รับรางวัล Anthony Asquith Award ในด้าน Achievement in Film Music จาก British Academy of Film and Television Arts โปรเจ็คอื่น ๆ ได้แก่ The Fog of War สารคดีของโรเบิร์ต แมคนามารา
ในปี 2002 กลาสได้เปิดการแสดง Symphony No. 6 (Plutonian Ode) ซึ่งแต่งเนื้อร้องโดย แอลเลน กินสเบิร์ก ที่ Carnegie Hall เป็นการฉลองวันเกิดครบรอบ 65 ปีของกลาส และการแสดงโอเปร่า Galileo Galilei กำกับฯโดย แมรี่ ซิมเมอร์แมน ที่ Goodman Theatre ในชิคาโก้ สำหรับโครงการทัวร์ในตอนนี้ Philip on Film กลาสแสดงสดกับวงสำหรับงานหนังสั้นหลายเรื่อง รวมทั้งผลงานคลาสสิคอย่าง Koyaanisqatsi, Powaqqatsi, La Belle et La Bête และ Dracul