จอร์จ เอส. คลินตัน เริ่มงานอาชีพทางการดนตรีด้วยการเป็นนักแต่งเพลง ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน และนักดนตรี ในเนชวิลล์ ในช่วงระหว่างที่เขากำลังเรียนปริญญาทางดนตรีและการละครที่มหาวิทยาลัย Middle Tennessee State University และในตอนซัมเมอร์ก่อนจบการศึกษาเขาได้ไปชมเทศกาลดนตรีที่ Atlanta Pop Festival และได้ยิน โจ คอคเกอร์เล่นเพลง With a Little Help from My Friends ทำให้เขาเดินทางจากแชตทานูกา เพื่อมาลอสแอนเจลิส และเตรียมพร้อมเพื่อร็อคแอนด์โรล
เขาได้เป็นเจ้าหน้าที่เขียนเพลงให้กับบริษัท วอร์เนอร์ส บราเดอร์ส มิวสิค และมีหลายเพลงที่อัดให้กับ ไมเคิล แจ๊คสัน, โจ ค๊อคเกอร์, จอห์นนี่ แมททิส และสโมคกี้ โรบินสัน เขายังคงทำงานเรียบเรียงเสียงประสานและเล่นดนตรี และในฐานะศิลปินบันทึกเสียง ได้ทำอัลบั้มถึง 4 ชุด ให้กับ บริษัท เอ็ม ซี เอ บริษัท อิเล็กตร้า บริษัท เอบีซี และบริษัท อลิสตร้า วงดนตรีที่จอร์จ คลินตันร่วมเล่นได้รับความชมเชยและได้รับความสนใจจากผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ โดยให้โอกาสกับจอร์จ ให้เสียงดนตรีให้กับภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือเรื่อง Cheech and Chong Still Smokin และต่อมาเป็นภาพยนตร์ของชีชและชองอีกเรื่องคือ Corsican Brothers เขายังได้พัฒนางานดนตรีให้กับภาพยนตร์แนวนินจาให้กับ บริษัท แคนนอน ฟิล์ม ภาพยนตร์ทางเน็ทเวิร์คและเคเบิ้ลและมินิซีรีส์อีกหลายเรื่อง โดยแต่งเพลงในหลายแบบหลายสไตล์ เพลงโซล หรืออิโรติค แจ๊สให้กับ รายการโชว์ของ ซัลแมน คิงส์ ที่เป็นโคลงจากเรื่อง Red Shoe Diaries ได้รับความสนใจจากสาธารณะชนเป็นอย่างมาก
การค้นพบทางดนตรีและความสามารถรอบตัวในด้านดนตรีออเคสตร้าและดนตรีป๊อปนั้นทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์ผลงานดนตรีประกอบภาพยนตร์อาทิเช่น เรื่อง Austin Powers: The Spy Who Shagged Me, Austin Powers in Goldmember, Mortal Kombat, The Santa Clause 2, Joe Somebody, 3000 Miles to Graceland, Wild Things, The Astronauts Wife และ Big Bounce นอกจากนี้คลินตันยังได้เขียนงานให้กับคอนเสิร์ตอีกหลายชิ้นและยังได้ร่วมทำงานทำนองให้กับสามเพลงคือ Family Love และเพลง Spirit of the Mountain ทั้งสองเพลงเป็นลิขสิทธิ์ของบริษัท คัมเบอร์แลนด์ คันทรี เพลย์เฮ้าส์ และ เพลง That Other Womans Child ซึ่งได้รับความนิยมเป็นเวลายาวนานที่ โรงละคร คอลบอร์ด ในลอสแอนเจลิส