วิลเลี่ยม เฮิร์ต เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ด ได้เข้ารับการศึกษาที่มหาวิทยาลัยทัฟท์ และสถาบันจูเลียร์ด สคูล ออฟ มิวสิค แอนด์ ดรามาแห่งนิวยอร์ก เขาได้รับการเสนอชื่อชิง 4 รางวัลออสการ์ รวมไปถึงการได้รับการเสนอชื่อจากบทสมทบของเขาในภาพยนตร์ของเดวิด โครเนนเบิร์กเรื่อง A History of Violence ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายทั้งในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต เฮิร์ตได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากทั้งสมาพันธ์นักวิจารณ์ภาพยนตร์ลอสแองเจลิสและสมาพันธ์นักวิจารณ์ภาพยนตร์นิวยอร์ก
เฮิร์ตถ่ายทำภาพยนตร์รีเมกของโยจิ ยามาดะปี 1997 เรื่อง Yellow Handkerchief ที่เขาแสดงประกบมาเรีย เบลโล ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เฮิร์ตมารับบทอดีตนักโทษที่ได้รับการปลดปล่อยจากคุกจากการฆาตกรรมผู้ชายคนหนึ่งโดยบังเอิญ อูดายัน พราซัด (My Son the Fanatic) เป็นผู้กำกับโปรเจ็กต์ เฮิร์ตมีผลงานใน Into the Wild ภาพยนตร์ที่กำกับโดยฌอน เพนน์ และ Mr. Brooks ทริลเลอร์จิตวิทยาที่เขาแสดงประกบเควิน คอสต์เนอร์ และกำกับโดยบรูซ อีแวนส์
ในช่วงต้นปี 2007 เฮิร์ตได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง The Good Shepherd ที่เขียนบทโดยเอริค รอธและกำกับโดยโรเบิร์ต เดอนีโร ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยแมตต์ เดมอน, โรเบิร์ต เดอนีโรและแองเจลินา โจลี และบอกเล่าประวัติศาสตร์กว่า 40 ปีขององค์กรซีไอเอ ที่บอกเล่าผ่านมุมมองของเอ็ดเวิร์ด วิลสัน หนึ่งในเจ้าหน้าที่ผู้ก่อตั้งองค์กร ในปี 2006 เฮิร์ตได้นำแสดงในภาพยนตร์ของเจมส์ มาร์ชเรื่อง The King กับเกล การ์เซีย เบอร์นัล ในภาพยนตร์เรื่อง Beautiful Ohio ที่กำกับโดยแชด โลว์และ Noise คอเมดีอินดีที่เขาแสดงประกบทิม ร็อบบินส์และบริดเจ็ต มอยนาฮัน
ในปี 2005 เฮิร์ตได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง Syriana ที่กำกับโดยสตีเฟน กาแกนและนำแสดงโดยจอร์จ คลูนีย์, แมตต์ เดมอนและอาแมนดา พีต ในปีเดียวกันนั้นเอง เขายังได้แสดงในภาพยนตร์อินดีเรื่อง Neverwas ประกบเซอร์เอียน แม็คเคลเลน, อลัน คัมมิงและแอรอน เอ็คฮาร์ดท์ ในปี 2004 เฮิร์ตได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ทริลเลอร์ของเอ็ม. ไนท์ ชยามาลานเรื่อง The Village ประกบวาคิน ฟินิกซ์และซิเกอร์นีย์ วีฟเวอร์ และภาพยนตร์อินดีเรื่อง Blue Butterfly
ในปี 2002 เฮิร์ตได้แสดงภาพยนตร์ของดิสนีย์เรื่อง Tuck Everlasting และได้รับคาเมโอในภาพยนตร์เรื่อง Changing Lanes ที่นำแสดงโดยซามวล แอล. แจ็คสัน ในปี 2001 เฮิร์ตได้นำแสดงในภาพยนตร์อินดีเรื่อง Rare Birds ซึ่งเข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์โตรอนโต เขายังได้รับบทสมทบในภาพยนตร์ของสตีเวน สปีลเบิร์กเรื่อง A.I. อีกด้วย
ในปี 2000 เฮิร์ตได้แสดงอย่างโดดเด่นในภาพยนตร์เรื่อง Unshine ที่เขาแสดงประกบราล์ฟ ไฟน์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ที่กำกับโดยอิสต์แวน ซาโบ ได้รับสามรางวัลจินนี อวอร์ด ซึ่งรวมถึงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
ในปี 1980 เฮิร์ตได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ Altered States เขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Broadcast News และ Children of a Lesser God ผลงานของเขาใน Spider Woman ทำให้เขาได้รับรางวัลอคาเดมี อวอร์ดและรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากบริติช อคาเดมีและเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ผลงานภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ ของเขาได้แก่ Body Heat, The Big Chill, Eyewitness, Gorky Park, Alice, I Love You to Death, The Accidental Tourist, The Doctor, The Plague, The Simian Line, Trial by Jury, Second Best, Smoke, Confidences a un Inconnu, Jane Eyre, Michael, Dark City, The Proposition, The Big Brass Ring และ One True Thing
ในปี 2006 เฮิร์ตหันไปสู่จอแก้วด้วยการแสดงในซีรีส์รายการพิเศษทางทีเอ็นทีเรื่อง Nightmares and Dreamscapes ที่สร้างขึ้นจากเรื่องของสตีเฟน คิง ซีรีส์ดังกล่าวนำแสดงโดยดาราดัง ซึ่งรวมถึงวิลเลี่ยม เอช. เมซี, ซาแมนธา เมธิส, แคลร์ ฟอร์ลันนีและรอน ลิฟวิงสโตน เอพิโซดของเฮิร์ต ซึ่งมีชื่อว่า Battleground เป็นตัวเปิดซีรีส์ ผลงานโทรทัศน์ของเฮิร์ตได้แก่มินิซีรีส์ทางฮอลมาร์คเรื่อง Frankenstein ที่เขาแสดงประกบโดนัลด์ ซุทเธอร์แลนด์, ซีรีส์ทางซีบีเอสเรื่อง The Flamingo Rising บทนำในมินิซีรีส์ทางซีบีเอสเรื่อง Master Spy: The Robert Hanssen Story ซีรีส์ทางไซไฟแชนแนลเรื่อง Dune และ Varians War ทางโชว์ไทม์
ในช่วงเริ่มแรกที่เป็นนักแสดงใหม่ ๆ เฮิร์ตได้แสดงละครเวทีในโรงเรียนการละคร ละครช่วงซัมเมอร์ โรงละครรีเพอร์ทอรีประจำท้องถิ่นและละครออฟบรอดเวย์ โดยเขาได้แสดงในละครกว่าห้าสิบเรื่อง ซึ่งรวมถึง Henry V, 5th of July, Hamlet, Richard II, Hurlyburly (ซึ่งเขาได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลโทนีอวอร์ด), My Life (ได้รับรางวัลโอบี อวอร์ดสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม), A Midsummer's Night's Dream และ Good
สำหรับงานด้านวิทยุ เฮิร์ตได้อ่านนิยายของพอล เธอโรซ์เรื่อง The Great Railway Bazaar ให้กับบีบีซี เรดิโอ โฟร์และเรื่อง Shipping News โดยอี. แอนนี พรูลซ์ เขาได้บันทึกเสียงเรื่อง The Polar Express และ The Boy Who Drew Cats และบรรยายเสียงสารคดีเรื่อง Searching for America: The Odyssey of John Dos Passos, Einstein - How I See the World และบรรยายเสียงภาคภาษาอังกฤษของเอลลี วีเซลใน To Speak the Unspeakable สารคดีที่กำกับและอำนวยการสร้างโดยปิแอร์ มาร์มิส
ในปี 1998 เฮิร์ตได้รับรางวัลสเปนเซอร์ เทรซี อวอร์ดจากยูซีแอลเอ