ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา (เกิด 8 ตุลาคม พ.ศ. 2483) มีชื่อเล่นว่า เอ๊ะ เกิดที่วชิรพยาบาล เป็นบุตรคนที่สองของหม่อมหลวงมานิจ ชุมสายกับเฉลิมขวัญ ชุมสาย ณ อยุธยา เอ๊ะเป็นวิศวกรชาวไทย ผู้เคยเป็นลูกทีมจำลองแบบชิ้นส่วนระบบลงจอดของงานอวกาศในบริษัทคู่สัญญาของมาร์ติน มาเรียทต้า ซึ่งเป็นผู้สร้างยานอวกาศไวกิ้งให้กับองค์การนาซาของสหรัฐอเมริกาเพื่อนำไปใช้ในภารกิจสำรวจดาวอังคาร เคยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคพลังธรรม และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนสัตยาไสที่ดำเนินการตามแนวทางความเชื่อของตนเอง
อาจองศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ที่วิทยาลัยทรินิตี มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ระหว่างศึกษาเริ่มมีความสนใจในพระพุทธศาสนาและเริ่มฝึกหัดการนั่งสมาธิ อาจองจบปริญญาตรีด้านวิศวกรรมเครื่องกล ศึกษาต่อปริญญาเอกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าจนจบในปี 2509 โดยมีผลงานวิจัยเกี่ยวกับคลื่นไมโครเวฟแล้วจึงเดินทางกลับประเทศไทย เป็นอาจารย์สอนที่ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนถึงปี พ.ศ. 2516 จึงลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว
หลังจากนั้นได้เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ทำงานเป็นวิศวกรในบริษัทรับเหมาช่วง ของบริษัทมาร์ติน มาริเอทต้า (ปัจจุบัน คือ ล็อกฮีด มาร์ติน) ซึ่งเป็นคู่สัญญาหลักกับนาซาในการสร้างยานไวกิงสำหรับสำรวจดาวอังคาร โดยอาจองได้เล่าว่าได้รับมอบหมายให้เขียนโปรแกรมจำลองการลงจอดบนดาวอังคารจากบริษัท และได้ค้นพบวิธีการแก้ปัญหาจากผลของการนั่งสมาธิบนยอดเขา หลังจากส่งงานให้บริษัทแล้ว อาจองได้ลาออกจากบริษัททันทีและเดินทางกลับประเทศไทย โดยไม่ทราบว่าผลงานจากแบบจำลองคอมพิวเตอร์ของตนเองได้ถูกนำไปใช้งานต่อหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างระบบลงจอดดาวอังคารที่ใช้งานจริงในยานไวกิ้งซึ่งสร้างโดยบริษัทมาร์ติน มาเรียทต้า หลังจากยานไวกิ้ง ทำภารกิจลงจอดบนดาวอังคารเป็นผลสำเร็จ ในปี พ.ศ. 2519 อาจองได้ให้สัมภาษณ์แก่หนังสือพิมพ์ในประเทศไทยว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมในการออกแบบระบบลงจอดของยานไวกิ้ง และได้กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงด้านวิทยาศาสตร์คนหนึ่งของประเทศไทย
ดร. อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา แสดงภาพยนตร์ไทย 2 เรื่อง คือ ข้างหลังภาพ (ภาพยนตร์ปี พ.ศ. 2544) แสดงเป็น เจ้าคุณอธิการบดี และ มายเบสท์บอดี้การ์ด แสดงเป็น ผู้พันนที