ซี.เอส. ลูอิส ชื่อเกิด ไคลฟ์ สเตเปิลส์ ลูอิส (Clive Staples Lewis) หนึ่งในนักเขียนที่มีผลงานมากที่สุดและได้รับการยกย่องสูงสุดในศตวรรษที่ 20 ได้เขียนผลงานออกมามากมาย ตั้งแต่นิทานสำหรับเด็กไปจนถึงเรื่องแฟนตาซี ไซไฟและนิยาย งานทางวิชาการของเขา ตั้งแต่วรรณกรรมยุคกลางและเรอเนซองส์ไปจนถึงทฤษฎีทางวรรณกรรมและการตีความความเชื่อในศาสนาคริสต์ที่เฉียบแหลมและเปี่ยมด้วยจินตนาการของเขา ทำให้เขากลายเป็นอาจารย์ทางสติปัญญาและจิตวิญญาณของผู้คนนับล้าน
ไคลฟ์ สเตเปิลส์ ลูอิส เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนมัธยมหลายแห่งก่อนที่จะเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดในปี 1917 การศึกษาในมหาวิทยาลัยของเขาถูกขัดขวางจากการที่เขาโดนเรียกตัวไปรับใช้กองทัพในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยเขาอยู่ในกองทหารราบซอร์มเซ็ท ไลท์ในยศร้อยตรี หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บจนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในปี 1918 เขาก็ได้กลับไปเรียนที่อ็อกซ์ฟอร์ดอีกครั้งในปี 1919 และสำเร็จการศึกษาเกียรตินิยมในปี 1923 ก่อนที่เขาจะเป็นอาจารย์สอนวิชาปรัชญาที่อ็อกซ์ฟอร์ดในหนึ่งปีให้หลัง ในปี 1925 ลูอิสเริ่มต้นการสอนยาวนานสามทศวรรษของเขาที่อ็อกซ์ฟอร์ดเมื่อเขาได้รับเลือกให้เป็นอาจารย์พิเศษที่วิทยาลัยแม็กเดเลน, อ็อกซ์ฟอร์ด เขาดำรงตำแหน่งดังกล่าวจนถึงปี 1954 ซึ่งเขาได้รับเลือกให้เป็นศาสตราจารย์ด้านวรรณคดียุคกลางและเรอเนซองส์ที่วิทยาลัยแม็กเดเลน, เคมบริดจ์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เขายึดถือจนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปี 1963
เขาเป็นนักเขียนหนังสือกว่าสี่สิบเล่ม ซึ่งมีแทบจะทุกแนวเว้นแต่ชีวประวัติและดรามา ลูอิสได้แสดงความสนใจที่จะเป็นนักกวีครั้งแรกด้วยการตีพิมพ์บทโคลงสองเล่มของเขา Spirits in Bondage (1919) และ Dymer (1926) ซึ่งเขียนภายใต้นามปากกาไคลฟ์ แฮมิลตัน (ชื่อแรกของเขาและนามสกุลเดิมของแม่เขา)
ชื่อเสียงของเขาในฐานะนักวิชาการของเขาเริ่มขึ้นด้วยหนังสือปี 1936 ของเขาเรื่อง The Allegory of Love: A Study in Medieval Tradition ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลกอลแลงซ์ เมโมเรียล ไพรซ์สาขาวรรณกรรม เขาได้ก้าวสู่โลกนิยายด้วยนิยายปี 1938 ของเขาเรื่อง Out of the Silent Planet ซึ่งเป็นนิยายเล่มแรกในไตรภาคไซไฟของเขา ซึ่งยังรวมถึง Perelandra (1943) และ That Hideous Strength (1945) ซึ่งกล่าวถึงสงครามจักรวาลระหว่างความดีและความชั่ว