ลอว์ร่า ลินนีย์ ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทอง รวมไปถึงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Screen Actors Guild Award, ลูกโลกทองคำ และ Independent Spirit Award จากบทที่ได้แสดงเป็นแซมมี่ เพรสค็อตในภาพยนตร์ของ เคนเน็ธ โลเนอแกน เรื่อง You Can Count On Me ซึ่งแสดงคู่กับ แมทธิว โบรเดอริค และจอน เทนนีย์ และได้รับรางวัล Best Actress จาก New York Film Critics Circle และ National Society of Film Critics
ผลงานการแสดงภาพยนตร์ของลินนีย์ ก็คือการแสดงคู่กับ เควิน สเปซี และ เคท วินสเล็ต ในภาพยนตร์เรื่อง The Life of David Gale, The Laramie Project, The Mothman Prophecies แสดงคู่กับ ริชาร์ด เกียร์ และแสดงคู่กับ กิลเลียน แอนเดอสันในเรื่อง The House of Mirth และภาพยนตร์ที่ได้รับคำชื่นชมเรื่อง The Truman Show แสดงคู่กับ คลินท์ อีสท์วู้ดในเรื่อง Absolute Power กำกับการแสดงโดย อีสท์วู้ด และคู่กับ ริชาร์ด เกียร์ ในภาพยนตร์ตื่นเต้นระทึกขวัญสุดฮิตของ Paramount เรื่อง Primal Fear และการได้แสดงในภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ในภาพยนตร์ผจญภัยในป่ากว้างของ Paramount เรื่อง Congo นั้นเธอยังได้รับบทในการแสดงนำอีกด้วย
ผลงานด้านภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ ของลินนีย์ ได้แก่ บทสนับสนุนในภาพยนตร์เรื่อง Lorenzo's Oil, Dave, Searching for Bobby Fischer, และ A Simple Twist of Fate การทำงานด้านภาพยนตร์โทรทัศน์ของลินนีย์ ได้แก่การแสดงที่ได้รับรางวัลเอ็มมี่ ในภาพยนตร์ของ Showtime เรื่อง Wild Iris และเธอยังได้แสดงคู่กับโจแอน วู้ดเวิร์ดในภาพยนตร์ของ the Hallmark Hall of Fame presentation เรื่อง Blind Spot และแสดงนำในมินิซีรส์ที่ได้รับรางวัล PBS เรื่อง Tales of the City ซึ่งเธอได้กลับมาแสดงอีกครั้งในปี 1998 ให้กับ Showtime เรื่อง More Tales of the City
ลินนีย์จบการศึกษาจาก Julliard school และกลายเป็นดาราละครชื่อดัง ซึ่งมีผลงานเรื่องสุดท้ายบนเวทีบรอดเวย์กับ เลียม นีสันในละครของ อาร์เธอร์ มิลเลอร์ เรื่อง The Crucible ซึ่งได้รับเสนอเข้าชิงรางวัล Tony ก่อนหน้านั้นเธอมีผลงานแสดงในภาพยนตร์ของ เจอรัลด์ กุเทียเรซ เรื่อง Honour คู่กับ เจน อเล็กซานเดอร์ เธอได้รับรางวัล Theatre World Award และถูกเสนอเข้าชิงรางวัล Drama Desk ในการแสดงในเรื่อง Sight Unseen ผลงานด้านละครเวทีได้แก่การแสดงใน the Broadway กับผลงานของ ฟิลลิป แบรี่ เรื่อง Holiday เล่นคู่กับ โทนี่ โกล์ดวิน เรื่อง Six Degrees of Separation, The Seagull และ Hedda Gabler ภายหลังเธอได้รับรางวัล Calloway Award ในปี 1994