วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ เกิดที่กรุงเทพมหานคร จบการศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งนิตยสารอะเดย์(A Day)(2543) ร่วมกับนิติพัฒน์ สุขสวยและภาสกร ประมูลวงศ์ เคยเป็นบรรณาธิการอำนวยการนิตยสาร Aday, นิตยสาร Hamburger, นิตยสาร Knock Knock และบรรณาธิการที่ปรึกษาสำนักพิมพ์ A Book ก่อนจะลาออกมาเนื่องจากดีลขายหุ้น
วงศ์ทนงเกิดและเติบโตย่านสำเหร่ ฝั่งธนบุรี ในครอบครัวชนชั้นกลาง มีพี่น้องท้องเดียวกัน 7 คน ผู้ชาย 2 คน และผู้หญิง 5 คน โดยวงศ์ทนง เป็นลูกคนที่ 6 ของครอบครัว ซึ่งตลอดวัยเด็กนั้นได้คลุกคลีอยู่กับพี่สาวและน้องสาวตลอด เนื่องจากพี่ชายไปเติบโตและเรียนหนังสือที่อังกฤษ ด้วยอุปนิสัยชอบอยู่คนเดียว และมีโลกส่วนตัวสูงจึงชอบอ่านหนังสือ ตอนเด็กๆ แม่จะชอบซื้อนิตยสารไว้ที่บ้านมาก ไม่ว่าจะเป็นดิฉัน แพรว ลลนา ขวัญเรือน หรือสตรีสาร พอโตขึ้นก็เข้าไปอ่านหนังสือในศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ราชดำเนิน ต่อมาก็ไปคลุกตัวอยู่ที่หอสมุดแห่งชาติ ต่อมาสอบเข้าได้ที่สาขาวิชาสังคมศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เขาชอบเมืองปัตตานีสมัยนั้นมาก เพราะเป็นเมืองที่ผสมผสานด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลาย
เขาตั้งใจว่าจะเรียนให้ได้เกียรตินิยม แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นตอนอยู่ปี 1 จำได้ว่าไปลอกข้อสอบในห้อง เพราะอยากได้เกรด A จนถูกอาจารย์จับได้ และให้ติด E ทันที (เกรด E เทียบได้กับ F ในหลายมหาวิทยาลัย) เขาผันตัวไปเล่นละครเวที และจบด้วยวิชาโทรัฐศาสตร์ เมื่อเข้าสู่ชีวิตการทำงาน โหน่งเล่าว่า ตอนแรกได้ตระเวนสมัครงานตามบริษัทต่าง ๆ ทั้งเป็นเซลส์ขายของ ผู้ช่วยผู้จัดการเซเว่น อีเลฟเว่น แต่ไม่มีบริษัทใดรับเข้าทำงาน จึงกลับมาทบทวนว่าเขาน่าจะทำงานหนังสือและได้งานที่นิตยสาร Hi Class เป็นที่แรก และทำงานกองบ.ก. อีกสองสามที่ต่อมาก่อนจะก่อตั้งนิตยสาร a day
นิตยสาร a day มีเนื้อหานิตยสารที่ขึ้นชื่อในเรื่องความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร ด้วยวิธีการคิดนอกกรอบ เนื้อหาของ a day จะมี 3 ส่วน ส่วนแรกคือ "ไอเดีย" (Idea) ความคิดสร้างสรรค์ ส่วนที่สองคือ "ซัมบอดี้" (Somebody) คือเรื่องของคนเก่งๆ ที่มีดี ส่วนที่สามคือ "นอสตาลเจีย" (Nostalgia) เป็นเรื่องราวย้อนอดีต ที่ให้ความสุข และความประทับใจ ปี 2543 เขาก่อตั้งนิตยสาร a day ร่วมกับ นิติพัฒน์ สุขสวย และภาสกร ประมูลวงศ์ ด้วยวิธีการระดมทุนจากผู้อ่าน ขายหุ้นให้กับกลุ่มคนทั่วไปที่ชื่นชอบงานเขียนและสนใจไอเดียของเขา โดยเขาได้นั่งลงเขียน จดหมายร่ายยาว 5 แผ่น บรรยายภาพนิตยสาร a day ที่เขาอยากจะให้มีขึ้น จนผู้อ่านเห็นภาพที่ชัดเจน พร้อมประกาศขายหุ้น ๆ ละ 1,000 บาท แก่ผู้ที่สนใจ โดยตัวเขาลงทุนซื้อเอง 1 แสนบาท "ผมบอกเขาว่า มันจะเป็นนิตยสารเล็ก ๆ ที่จะอยู่ได้ด้วย การสนับสนุนจากผู้อ่าน อ่านสนุก ขณะเดียวกัน ก็ให้แรงบันดาลใจ และความประทับใจ คอลัมน์จะมีอะไรบ้าง ทำหน้าปกให้ดู และมีใบแนบว่า จะซื้อหุ้นรึเปล่า"
พร้อมกันนั้น ยังได้ทำโปสเตอร์ เผยแพร่ความคิด ที่เริ่มต้นด้วยประโยคว่า "ถ้าชีวิตนี้สามารถเป็น เจ้าของนิตยสาร ได้สักเล่ม คุณสนใจไหม?" ไปติดตามร้านอาหาร สถาบันศึกษา และแหล่งชุมชนทั่วไป ฟังดูเป็นเรื่องจริงที่เหลือเชื่อ เพราะภายในเวลา เพียงสองเดือน หลังจากส่งจดหมาย เชิญชวนออกไป เงินทุนที่ต้องการก็ครบถ้วน จนต้องปิดรับหุ้นก่อนกำหนด ทุกวันนี้ a day มีจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 2,500 หุ้น ได้เงินไปร่วม 2.5 ล้านบาท จากผู้ร่วมทุน 459 ท่าน คอนเซ็ปท์ของ a day คือ "หนังสือของความคิดสร้างสรรค์" หนังสือช่างคิด ที่อ่านแล้วให้ความคิด ให้แรงบันดาลใจ ให้ความประทับใจ นิตยสาร a day ฉบับแรก ที่วางจำหน่าย เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2543 ก็ขายดีมากจนต้องพิมพ์ถึง 2 ครั้ง บรรณาธิการ a day ถูกเปลี่ยนตัวอย่างน้อย 3 คน เริ่มตั้งแต่ โหน่ง วงศ์ทนง, วชิรา รุธิรกนก และทรงกลด บางยี่ขัน วาระการเป็น บก.คนละ 3-4 ปี เปลี่ยนเพื่อความสดใหม่
25 ก.ค.2551 วงศ์ทนง มีความคิดที่จะทำหนังสือ a day bulletin เป็นรายสัปดาห์ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง จึงมีการขายหุ้นให้กับ นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย แห่ง ทราฟฟิก คอนเนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสื่อและมีเดียรายใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท จาก บริษัท เดย์อาฟเตอร์เดย์ จำกัด เป็น บริษัท เดย์ โพเอ็ทส์ จำกัด (Day Poets Co. Ltd.) ผลิตนิตยสาร a day, a day bulletin, Hamburger และ Knock Knock และเป็นผู้ถือหุ้นใน บริษัท เน็ก แอนด์ เดอะ ซิตี้ จำกัด ของน้าเน็ค-เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา จำนวน 29,999 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 60 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว) ทั้งยังถือหุ้นใน บริษัท อีส แอม อาร์ ดอตเน็ต จำกัด จำนวน 59,999 หุ้น (คิดเป็นร้อยละ 60 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว) มีผลประกอบการa day กำไรในปี 2558 ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท และขาดทุนในปี 2559 ประมาณ 9 ล้านบาท
27 ธันวาคม 2559 บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) (Polar) ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ กรณีเข้าซื้อกิจการของบริษัท เดย์ โพเอทส์ จำกัด จำนวน 490,000 หุ้น หรือคิดเป็น 70% ของหุ้นทั้งหมด ราคาหุ้นละ 630 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 300 กว่าล้านบาท 3 ก.พ. 2560 "วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์" ยืนยัน ไม่ทราบการซื้อ-ขายหุ้นบริษัท หากล้มดีลไม่สำเร็จ พร้อมลาออก
เขายืนยันว่าตนไม่ทราบเรื่องการขายหุ้นให้กับบริษัทโพลาร์ และได้รับรู้เรื่องทั้งหมดพร้อม ๆ กับทุกคน แต่เมื่อรู้เรื่องก็ไม่นิ่งนอนใจเพราะรู้สึกไม่สบายใจกับลักษณะของดีล เขายืนยันกับผู้ถือหุ้นใหญ่ว่าตนขอไม่เอาดีลนี้ ซึ่งได้คุยกันแล้วและรออยู่ว่าดีลนี้จะยุติหรือไม่ ถ้าไม่ตนจะขอลาออกจากบริษัท เดย์ โพเอทส์ 16 ก.พ. 2560 วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์และนิติพัฒน์ สุขสวย ประกาศลาออกจาก บริษัท เดย์ โพเอทส์ส่วน a day weekly และ a day Idol ขาดทุนและปิดตัวลงไปแล้วก่อนหน้านี้
เขาชี้แจงว่า ในด้านผู้ร่วมทุน 459 ท่าน ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมามีการจ่ายเงินปันผลไปแล้ว 6 ครั้ง ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา เราปันผลไปแล้ว 6 ครั้ง ที่สำคัญก็คือการปันผลครั้งที่ 1 2546 เป็นการปันผลร้อยเปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่า ใครลงมาเท่าไรได้คืนไปเท่านั้น ลงหนึ่งพันได้คืนกลับไปหนึ่งพัน ลงหนึ่งหมื่นได้หนึ่งหมื่น คือผมต้องการขอบคุณผู้ร่วมลงขันครับว่า ต่อไปนี้สบายใจได้เลยว่าเงินที่คุณลงมา คุณได้คืนไปหมดแล้ว ที่เหลือคือเก็บกินได้ตลอดชีวิต และระหว่างปี 2546-2558 เราปันผลไปอีก 5 ครั้งด้วยกัน นั่นก็คือปี 2550, 2552, 2554, 2556 และก็ปีล่าสุดคือปี 2558 และพยายามติดต่อผู้ร่วมลงขันเพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่เคยทอดทิ้ง