วินซ์ วอห์น เป็นน้องสุดท้องของพี่สาว 2 คน พ่อเป็นนักการตลาด ส่วนแม่เป็นโบรกเกอร์ในตลาดหุ้น วินซ์ยอมรับว่า ตอนเด็ก ๆ ช่างเป็นเด็กที่ไม่เอาไหนเสียเหลือเกิน พอไปโรงเรียนก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ยืนอยู่หน้าห้องครูใหญ่ เพราะถูกลงโทษ พอเรียนชั้นมัธยมฯ ก็ไม่ค่อยจะใส่ใจเรียนอีก แม้จะได้รับเลือกให้เป็นประธานนักเรียน หลังจากการเรียนหนังสือเป็นเส้นขนานสำหรับตัวเอง ระหว่างเข้าไปร่วมงานละครเวทีในชิคาโก วินซ์ก็พบว่าใช่แล้ว การแสดงนั่นเองคือสิ่งที่ต้องการ ว่าแล้วก็เบนเข็มเข้าวงการบันเทิงทันที โดยได้งานแรกเป็นโฆษณารถยนต์เชฟโรเล็ต จากนั้นจึงไปบอกพ่อแม่ว่าจะไม่เรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว จะไปฮอลลีวู้ดแทน
ด้วยความมั่นใจว่าตัวเองแน่ วินซ์ก็ต้องผจญช่วงเวลาเหมือนนักแสดงหน้าใหม่รายอื่นๆ เมื่อพบว่า การแจ้งเกิดในฮอลลีวู้ดนั้นมันยากเหลือแสน จากที่คิดว่าตัวเองนั้นยิ่งใหญ่ก็เลยหดเหลือตัวกระจ้อย วินซ์เซ็นสัญญาลวก ๆ กับเอเจนซี่ ซึ่งหางานซ้อมบทตอบโต้ให้ดาราให้อยู่ราว 4 ปี จนกระทั่งเริ่มได้บทตัวประกอบในละครชุดทางทีวี
ในปี 2536 นึกว่าโอกาสมาถึงแล้วเมื่อได้บทในหนังเรื่อง Rudy แต่ปรากฏว่าเมื่อหนังเข้าจอ บทที่เล่นไว้โดนตัดเหี้ยน แถมวันเปิดตัวหนังก็ยังไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วยซ้ำ หลังจากชอกช้ำจน 3 ปีผ่านไปโดยแทบจะไม่มีงาน วินซ์ก็ได้พบกับแฟฟโร เพื่อนที่พบกันสมัยเล่นเรื่อง Rudy คบหากันจนซี้ปึ้ก เมื่อแฟฟโรเริ่มเขียนบทภาพยนตร์เกี่ยวกับนักแสดงหน้าใหม่ที่มาแสวงโชคในแอลเอในเรื่อง Swingers วินซ์จึงอาสารับบทเด่นในหนังเรื่องนี้ ความพยายามบวกโชคเริ่มจะเข้าข้าง เมื่อ Swingers เป็นเรื่องที่ได้รับคำชมมากมาย และบทของวินซ์ก็ไปสะดุดตาพ่อมด ฮอลลีวู้ด สตีเว่น สปีลเบิร์ก เข้าให้ จึงชวนมาเล่นหนังดัง The Lost World แต่อะไรๆ ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด แม้ว่าจะเล่นหนังทำเงินขนาดนี้แล้ว งานเรื่องต่อมา The Locusts ก็ไม่เปรี้ยง แต่วินซ์ก็ยังไม่หมดกำลังใจ หลังจากรับบทฆาตกรต่อเนื่องในละครทีวีเรื่อง Clay Pigeons ผู้กำกับฯ กัส แวน แซนต์ ซึ่งหยิบหนังอมตะเรื่อง Psycho ขึ้นมาสร้างใหม่ก็เลือกนายวินซ์นี่แหละ รับบทนำเป็นฆาตกรโรคจิต กลายเป็นบทที่สร้างชื่อให้กับวินซ์มากที่สุด
จากนั้นมางานก็รู้สึกจะไม่เหือดแห้งอีก ผลงานเรื่องใหม่ ๆ ได้แก่ Domestic Disturbance, Zoolander, Made, The Prime Gig, The Cell และ South of Heaven, West of Hell วอห์นได้ร่วมแสดงกับ เบน สติลเลอร์ และโอเว่น วิลสัน ในภาพยนตร์เรื่อง Starsky and Hutch ซึ่งกำกับการแสดงโดย ท๊อด ฟิลิปส์ วอห์นแสดงเป็นตัวร้ายที่ชื่อว่า รีซ เฟลแมน
วอห์น ยังได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ยอดฮิตของบ๊อกซ์ ออฟฟิศ เรื่อง Old School ให้กับผู้กำกับการแสดง ท๊อด ฟิสิปส์ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนร่วมวิทยาลัยสามคน (วอห์น, ลุค วิลสัน และ วิลล์ เฟอร์เรล) ที่มีความพยายามที่จะเก็บวันเวลาช่วงดี ๆ ที่เรียนวิทยาลัยกันเอาไว้เมื่อพวกเขาต้องออกมาผจญกับโลกแห่งความเป็นจริง
วอห์นยังได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ที่กำลังจะเข้าฉายเรื่อง Anchorman: The Legend of Rumn Burgundy ร่วมกับ วิลล์ เฟอร์เรล ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงศตวรรษ 1970 ที่พอร์ตแลนด์ เมืองโอเรกอนเป็นเรื่องเกี่ยวกับนักข่าวที่ทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น และผลงานอีกเรื่องของเขาคือ เรื่อง Thumbsucker ซึ่งแสดงร่วมกับ คีนู รีฟส์ และวินเซนต์ โดโนฟรีโอ วอห์น รับบทเป็น มิสเตอร์ เกียร์รี่ ผู้ฝึกสอนที่ชอบโต้เถียงที่พยายามจะหยุดนิสัยดูดนิ้วหัวแม่มือของตัวเอง ภาพยนตร์ปี 2004 วอห์นยังได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์เรื่อง Blackball ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องของ กริฟฟ์ แซนเดอร์ส ซึ่งเป็นแนวเป็นตัวของตัวเองของ John McEnroe of Lawn Bowling ผู้ซึ่งได้รับการห้ามเล่นกีฬาเนื่องจากเป็นคนชอบสบถ ภาพยนตร์เรื่อง Blackball เป็นแนวนวนิยายของแบบร๊อคกี้ที่มีชีวิตขึ้น ๆ ลง ๆ จากพวกนักโยนโบล์วไร้สังกัดจนกลายมาเป็นนักกีฬาทีมชาติที่ได้รับความนิยมชมชอบ วอห์นรับบทเป็นตัวแทนกีฬาชื่อ ริค ชวาท์ซ ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับการแสดงโดย เมล สมิธ และสร้างโดย เจมส์ เกย์-รีส
วอห์นได้ร่วมแสดงได้ภาพยนตร์ของจอห์น ฟาโรว์เรื่อง Made โดยแสดงคู่กับ จอห์น ทราโวต้า, เทอรี่ โปโล และ สตีฟ บัสซิมี่, ภาพยนตร์ของทาร์เซม ซิงค์ เรื่อง The Cell โดยแสดงคู่กับ เจนนิเฟอร์ โลเปซ, ภาพยนตร์ของกัส แวง ซองเรื่อง Psyco ซึ่งร่วมแสดงโดย แอนน์ เฮค จูเลี่ยน มัวร์ และ วิคโก้ มอร์เทนสัน, ภาพยนตร์ของเกรเกอรี่ โมเชอร์ เรื่อง The Prime Gig โดยแสดงคู่กับ เอ็ด แฮร์ริส และจูเลี่ยน ออสมอนด์ และภาพยนตร์ของโจ รูเบน เรื่อง Return to Paradise โดยแสดงคู่กับ เฮค และ โจอาคิน ฟินิกซ์
วอห์นยังได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ของ เดวิด ดอบกิ้น เรื่อง Clay Pigeons โดยแสดงคู่กับ จานีน กาโรฟาโร่, โจวาคีน ฟินิกซ์ และจอร์เจียน่า เคธส์ และในภาพยนตร์ของบริษัท ทเวนตี้ เซ็นจูรี่ ฟ๊อกซ์เรื่อง A Cool Dry Place โดยแสดงคู่กับ โมนิก้า พ๊อตเตอร์
วอห์น ยังได้รับบทนำในภาพยนตร์ของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก เรื่อง The Lost World: Jurassic Park ซึ่งร่วมแสดงโดย จูเลี่ยน มัวร์ และ เจฟฟ์ โกล์ดบลัม หลังจากที่ได้เห็น วอห์นจากภาพยนตร์เรื่อง Swingers สตีเว่น สปีลเบิร์กก็เรียกเขาว่า ดาวดวงใหม่ สัญลักษณ์แห่งอนาคตของชาวอเมริกัน ซึ่งคุณจะพบได้ทุกหกหรือเจ็ดปีเท่านั้น วอห์นได้แสดงคู่กับ แอชลี่ย์ จัดด์ และเคธ เคฟชอว์ในเรื่อง The Locusts ภาพยนตร์ลี้ลับซึ่งกำกับการแสดงโดย จอห์น แพ็ททริค เคลลี่จากการเขียนบทของเขาเอง
การแสดงของวอห์นในบทของ เทร็นท์ เยือกเย็นเหมือน มาร์ตินี่ในแวดวงสังคมจากภาพยนตร์เรื่อง Swingers ที่ทำให้วงการฮอลลีวู้ดเริ่มเห็นแววของเขา กำกับการแสดงโดย ดัค ไลแมน และเขียนโดย จอน ฟาโรว์ ภาพยนตร์เรื่อง Swingers ถ่ายทำฉากในส่วนหลังของวงการฮอลลีวู้ดที่เร่าร้อนและส่วนมืดหรือจะเรียกว่าใช้ภาษา ค๊อกเทล เนชั่น ซึ่งเป็นจังหวะสวิงที่กลับมาเป็นที่นิยมกันทั่วประเทศอีกครั้งในช่วงปี 90